โจรเชียง ใหม่ใช้หน้ากากอนามัยปิดหน้า เตะปลายคางเจ้าของร้านทองสาวใหญ่ ก่อนบุกชิงทองไป 5 บาท ที่อ.หางดง เผยก่อเหตอุกอาจในช่วงเช้า ขณะเจ้าของกำลังเปิดร้าน ระบุก่อนเกิดเหตุมายืนวนเวียนรอเจ้าของเปิดร้านอยู่พักใหญ่แล้ว
เมื่อเวลา 08.21 น. วันที่ 3 ก.ย. พ.ต.ท.เอกพงศ์ ไชยวงศ์สาย สารวัตรเวรสภ.หางดง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ร้านทองสง่า เยาวราช
เลขที่ 8 หมู่ 3 ถนนสายเชียงใหม่-หาง ดงขาออก ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ตรงข้ามตลาดหางดง หลังรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรถสิทธิ์ หลาวทอง ผกก. สภ.หางดง พ.ต.ท.วิฑูรย์ คำทิพย์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.พงศธร เตมีศักดิ์ สว.สส.สภ.หางดง พร้อมด้วยชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานวิทยาการเขต 32 เชียงใหม่ รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบนางศุภิดา ทัฬหวัฒ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านทองได้รับบาดเจ็บ คางแตกเลือดไหล ยืนรอให้การเจ้าหน้าที่อยู่
ภายในร้านพบข้าวของกระจัดกระจาย แผงสำหรับโชว์สร้อย ทองรูปพรรณบนผนังตกลงมาที่พื้น รถจักรยานที่จอดในร้านล้มอยู่กับพื้น ตำรวจจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายเป็นชาย สูงประ มาณ 160 ซ.ม. สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน ใส่หน้ากากอนามัยสีขาว เสื้อแจ๊กเกตสีน้ำเงิน กางเกงสามส่วน รองเท้าแตะแบบหุ้มข้อ หลังก่อเหตุข้ามถนนหลบหนีไปทางตลาดหางดง ทางตำรวจวิทยุสกัดแต่ไร้วี่แวว และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเทศบาลตำบลหางดงพบว่า คนร้ายหลบหนีไปทางด้านหลังตลาดและถอดเสื้อทิ้งไว้ข้างทาง
โดดเตะ! ปลายคาง ปล้นทอง
จากการสอบปากคำนางสุภิดาให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนก้มลงไขกุญแจประตูเหล็กหน้าร้าน ซึ่งมีอยู่หลายบาน
โดยจะเปิดประตูบานใหญ่ก่อน และไล่มาจนถึงบานเล็ก ระหว่างที่นั่งไขเปิดประตูบานที่สามถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน ไว้ผมยาวอายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อกันหนาวสีน้ำเงินทับเสื้อยืดคอโปโลสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน และสวมใส่หน้ากากอนามัยสีขาวปิดบังใบหน้า เดินตรงเข้ามาใช้เท้าเตะเข้าที่ใบหน้าของตน 1 ครั้ง เมื่อตนล้มลงได้ใช้เท้ากระทืบซ้ำอีก 2-3 ครั้ง ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนตู้เก็บทองและข้ามไปหยิบสร้อยทองที่แขวนอยู่ผนังด้านหลัง
ช่วงนั้นตนรวบรวมแรงแล้วลุกขึ้นวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ด้านนอก
แต่คนร้ายคว้าสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 3 เส้น และสร้อยทองน้ำหนัก 2 สลึง 4 เส้น คิดเป็นทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 5 บาท มูลค่า 73,500 บาท ก่อนจะเดินออกจากร้านอย่างใจเย็นเพื่อไม่ให้ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นสงสัย แต่เมื่อเดินไปถึงถนนได้วิ่งข้ามฟากหลบหนีเข้าไปในซอยข้างตลาดหางดง และหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวิดีโอวงจร ปิดภายในร้านที่ติดตั้งไว้ 2 ตัว บันทึกภาพคน ร้ายไว้อย่างชัดเจน
โดยพบว่าก่อนเกิดเหตุได้มายืนวนเวียนรอเจ้าของเปิดร้านอยู่พักใหญ่ เมื่อเจ้าของไขกุญแจเปิดประตูร้าน ก็ยืนรออย่างใจเย็น ก่อนจะตรงเข้าไปจู่โจมทำร้ายเจ้าของทันที ใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 1 นาที จากนั้นวิ่งออกร้านไป พ.ต.ท.เอกพงศ์กล่าวว่า ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่พบในสถานที่เกิดเหตุ จากนั้นจะได้สืบสวนไปยังร้านทองและสถานรับจำนำต่างๆ หากพบว่ามีใครนำทองไปขายหรือจำนำเป็นจำนวนมากก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางตำรวจได้ตรวจสอบยี่ห้อทองของทางร้านแห่งนี้เก็บไว้แล้ว โดยทองที่ร้านแห่งนี้ได้ประทับตรายี่ห้อไว้ทุกเส้น และเป็นลายของทางร้านทองที่เลือกนำมาจำหน่ายที่ร้านแห่งนี้