เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 ก.ย. เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.0 ริกเตอร์
เขย่าเกาะชวาของอินโดนีเซีย ส่งผลให้ประชาชนตื่นตระหนกแห่วิ่งหนีตายออกจากอาคาร พบศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 32 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนใหญ่ถูกอาคารถล่มทับ ส่วนคลื่นสึนามิขนาดเล็กพัดเข้าฝั่งไม่มีอันตรายใดๆ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 49 กิโลเมตร ห่างจากตอนใต้ของกรุงจาการ์ตา 200 กิโลเมตร อาคารสูงในจังหวัดชวาตะวันตก รวมถึงจาการ์ตาสั่นไหวอย่างรุนแรงประมาณ 1 นาทีก่อนสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ประชาชนต่างแตกตื่นวิ่งหนีเอาชีวิตออกจากอาคารบ้านเรือนและสำนักงาน ซึ่งพังถล่มกว่า 700 แห่ง
นายปริยาดี การ์โดโน โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติ กล่าวว่า เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 23 คน พื้นที่ที่พบความเสียหายหนักสุดในกรุงจาการ์ตา ได้แก่ เขตซิอันยู เตซิกมาลายา และซูกาบูมี
"แผ่นดินไหวน่ากลัวมาก พื้นมันสั่นไปหมด จากนั้นฉันได้ยินเสียงดังสนั่นจากชั้นบนเหมือนอะไรสักอย่างกำลังถล่ม ทุกคนเอาแต่กรีดร้อง ส่วนฉันรีบถอดส้นสูงวิ่งออกจากตึกให้เร็วสุดชีวิต" น.ส.รินี นักศึกษาวัย 19 ปี เล่าประสบการณ์เฉียดตายหลังหนีออกมาจากห้างสรรพสินค้าแกรนด์อินโดนีเซีย กรุงจาการ์ตา
ด้านนายซูฮาร์โยโน หัวหน้าฝ่ายเทคนิคประจำสำนักงานอุตุนิยมและธรณีวิทยา กล่าวว่า หลังเกิดแผ่นดินไหว ทางการออกประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิซัดขึ้นฝั่ง และยกเลิกในเวลาต่อมา
ภายหลังจากมีสึนามิความสูงเล็กน้อยแค่ 8 นิ้วพัดเข้าฝั่งในเขตเตซิกมาลายา อินโดนีเซียตั้งอยู่ในเขต "วงแหวนไฟ" ซึ่งมีความเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวสูง เมื่อปี 2547 เกิด เหตุแผ่นดินไหวใต้ทะเลนอกเกาะสุมาตราทำให้เกิดสึนามิซัดถล่มชายฝั่งอินโดนีเซีย รวมถึงอีกหลายประเทศทั่วเอเชีย มีผู้เสียชีวิตกว่า 200,000 คน และเมื่อปี 2549 แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งจุดชนวนคลื่นสึนามิซัดถล่มพื้นที่ตอนใต้ของเกาะชวา มีผู้เสียชีวิต 596 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 74,000 คน