จับเจ้าแม่โอเกะยิง2จนท.ลิขสิทธิ์

"พยายามฆ่า ตามจับอีก 2"


รวบเจ้าแม่คาราโอเกะเชียงใหม่ ตร.ตั้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า หลังส่งมือปืนไล่ยิง 2 เจ้าหน้าที่เก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงจากค่ายเทปเมืองกรุงจนบาดเจ็บสาหัส โดนจับพร้อมคนขับรถที่พามือปืนไปยิง อ้างไม่รู้เห็น ยังล่าเพิ่มอีก 2 เผยได้ชื่อและรู้ตัวแล้ว

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 ส.ค. พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผบช.ภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรุจจ์ พรหโมบล ผบกเชียงใหม่ พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รองผบก.เชียงใหม่ พ.ต.อ.กฤษณพล ยี่สาคร ผกก.สภ.ต.แม่ปิง และพ.ต.ท.ธวัชชัย อยู่มาก รองผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมนางศศิธร เฟื่องฟูกิจการ


"ไม่พอใจ รัวลูกซอง"


หรือเจ๊ต้อย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176/10 หมู่ 9 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เจ้าของกิจการตู้เพลงคาราโอเกะรายใหญ่ จ.เชียงใหม่ และนายทองดี เงาตุ่น อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/3 หมู่ 3 ต.ท่ากว้าง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ผล 2793 เชียงใหม่

พ.ต.อ.ชำนาญ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.20 น. คนร้ายใช้รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ประกบรถเก๋งนายกรีฑา มหมัติ ตัวแทนลิขสิทธิ์ของบริษัทค่ายเทป ที่ถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง แล้วคนร้ายที่นั่งมาในรถใช้อาวุธปืนลูกซองและอาวุธปืนพกขนาด 9 ม.ม. ยิงนายกรีฑา และนายลือชัย เป้าประเสริฐ ที่นั่งมาด้วยหลายนัด เป็นเหตุให้บาดเจ็บสาหัส ส่วนสาเหตุมาจากกลุ่มคนร้ายไม่พอใจที่ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน นำเจ้าหน้าที่จับกุมเจ้าของร้านอาหารที่นำตู้เพลงคาราโอเกะละเมิดลิขสิทธิ์เพลง


"ขอหมายจับ หลักฐานมัดตัว"


รองผบก.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่า คนร้ายที่นั่งไปในรถกระบะโตโยต้า คือนายทองดี เป็นผู้ขับขี่และเจ้าของรถ มีนายวิรัช ทองบริสุทธิ์ อายุ 45 ปี และนายสมเดช เหงาจิ้น อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/4 หมู่ 8 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นั่งไปด้วย โดยนายสมเดชใช้อาวุธปืนลูกซอง และนายวิรัชใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. หลังเกิดเหตุหลบหนีไปที่บ้านของนายทองดี อ.สารภี ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี

พ.ต.อ.ชำนาญ กล่าวอีกว่า ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นกลุ่มของผู้ต้องสงสัยจำนวน 8 จุด พบอาวุธปืนพกขนาด 9 ม.ม. อยู่ในบ้านพักของนายทองดี พบอาวุธปืนลูกซองยาว 3 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 ที่บ้านนายวิรัช พบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ที่บ้านนางศศิธร จึงส่งไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบ ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าอาวุธปืนพกขนาด 9 ม.ม.ที่ตรวจยึดจากนายทองดี ตรงกับอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ยิงผู้เสียหาย ทางพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิด ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนทั้งหมด 4 คน


"พบเป็นแก๊งอิทธิพล เรียกเก็บเงินตู้โอเกะ"


พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเราสามารถออกหมายจับในเบื้องต้นไปแล้ว 4 คน จับกุมมาได้ 2 คน ยังค้างอีก 2 คน อยากขอร้องผู้ประกอบธุรกิจลักษณะนี้ขอให้อยู่ในกรอบแห่งกฎหมาย หากกระทำผิดต้องถูกจับกุมดำเนินคดี และหากกระทำกันเพื่อหมายเอาชีวิตซึ่งกันและกัน ทางตำรวจก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาดทันที ในการสืบสวนพบว่ากลุ่มของผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล รวมกลุ่มกัน

เรียกเก็บผลประโยชน์จากเจ้าของตู้เพลงคาราโอเกะทั่วภาคเหนือเป็นรายเดือนหากผู้ใดไม่ยอมจ่ายจะนำพวกของตนเองที่เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าจับกุม หากยังไม่ยอมจ่ายอีกจะใช้วิธีเผาทำลายตู้คาราโอเกะ หรือทำอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย จนเจ้าของตู้เพลงยินยอมจ่าย


"ปฏิเสธ ไม่รู้ไม่เห็น"


ผบช.ภาค 5 กล่าวต่อว่า ปรากฏว่าเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงที่กรุงเทพฯ ทราบเรื่องจึงส่งตัวทแทนจากกรุงเทพฯ เข้ามาประสานตำรวจในพื้นที่เข้าจับกุม ส่งผลให้กลุ่มดังกล่าวเสียผลประโยชน์ จึงวางแผนข่มขวัญตัวแทนลิขสิทธิ์จากกรุงเทพฯ จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้น ในชั้นนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวผู้ร่วมกระทำผิดในคดีนี้หมดแล้ว กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป

ด้านนางศศิธร กล่าวว่า โดนกลั่นแกล้งไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีส่วนร่วมรู้เห็นอะไรเลย ตำรวจมาแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ตอนที่ยิงกันเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ยังอยู่ที่สภ.ต.ช้างเผือก แม้แต่นายทองดี ก็ไม่ได้ติดต่อด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าต้องกลายเป็นผู้ต้องหาร่วมกันพยายามฆ่า ขอปฏิเสธ เพราะไม่ได้ทำหรือสั่งการ ปืนของตนตำรวจยึดไปก็ผ่านการตรวจแล้วว่าไม่ใช้ยิงมานานแล้ว ส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกจับอีกคนไม่ทราบ


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์