เสี่ยขอนแก่นยิงตัวตายปริศนา ดับคาอพาร์ต เมนต์ตัวเองที่กำลังก่อสร้าง เผยครอบครัวขายที่นาได้เงินนับสิบล้านบาท ก่อนนำเงินส่วนแบ่งมาลงทุน ล่าสุดไปดื่มเที่ยวจนเมาเผลอให้สาวนำบัตรเอทีเอ็มไปรูดจนเกลี้ยงบัตร จากยอดเงินแสนเหลือแค่ 2 พันบาท ก่อนจะกลับมาโดนปืนเสียชีวิต
เมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 27 ส.ค. ร.ต.ท.วิโรจน์ ศรวิเศษ ร้อยเวร สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งว่ามีเหตุคนฆ่าตัวตายอยู่ในอพาร์ตเมนต์ชื่อ "พลบำรุง"
กำลังก่อสร้างเลขที่ 92 หมู่ 2 ซอยชาตะผดุง 2/2 บ้านโนนทัน ต.ในเมือง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.นพเก้า โสมนัส รองผกก.ปป. ตำรวจวิทยาการ เขต 23 ขอนแก่น แพทย์เวร ร.พ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นห้องพักที่กำลังก่อสร้างอยู่ชั้น 2 พบศพนายสมศักดิ์ พลบำรุง อายุ 43 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 2 บ้านโนนทัน เจ้าของอพาร์ตเมนต์สถานที่เกิดเหตุ ใส่เสื้อแขนยาวสีเขียว กางเกงขาสั้นสีดำ นอนอยู่บนเตียงนอกมุ้ง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 ม.ม. เข้าที่ขมับซ้ายทะลุด้านบนแนวเฉียงเหนือใบหูขวา 1 นัด พบอาวุธปืนลูกโม่ .38 ม.ม. ยี่ห้อโคลท์ ตกอยู่ใต้เตียงด้านซ้าย มีกระสุนในรังเพลิง 2 นัด ปลอกกระสุนปืนยิงไปแล้ว 2 นัด
นอกจากนี้พบหัวกระสุนตกบนหลังคามุ้ง 1 ปลอก และห่างจากศพประมาณ 5 เมตร พบกับปลอกกระสุนปืนอีก 1 ปลอก
และพบกระป๋องเบียร์เปิดแล้ว 1 กระป๋อง ขวดน้ำโพลาริส 2 ขวด พัดลมเปิดอยู่ตั้งด้านปลายเท้าผู้ตาย และพบว่าเพดานห้องมีรอยกระสุนปืน 2 แห่ง ชันสูตรศพผู้ตายอย่างละเอียดพบว่าตามร่างกายไม่มีร่องรอยการต่อสู้และบาดแผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าครอบครัวผู้ตายขายที่นาได้เงินมากกว่า 10 ล้าน นายสมศักดิ์ พร้อมญาติ 4 คน มาลงหุ้นกัน วงเงินประมาณ 5 ล้านบาท มาสร้างอพาร์ตเมนต์ "พลบำรุง" ซึ่งสร้างเสร็จไปประมาณ 50% แต่ต่อมาเกิดปัญหาการเงินระงับการก่อสร้างชั่วคราวไปประมาณ 1-2 เดือน โดยนายสมศักดิ์จะมานอนเฝ้าอพาร์ตเมนต์เป็นประจำระหว่างก่อสร้างเพิ่มเติมไปทีละเล็กละน้อย
นางไพรวัน งามพระ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านตัดเสื้อผ้าชื่อว่า "ไพรวัน" เลขที่ 41 หมู่ 7 บ้านศรีฐาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า
เป็นแฟนกับผู้ตายมา 2 ปีกว่า เมื่อประมาณคืนวันที่ 23 ส.ค. ผู้ตายได้ไปเที่ยวกับผู้หญิงกลางคืนในบ.ข.ส.ขอนแก่น ที่ห้องอาหารทานตะวัน และเมามากให้บัตรเอทีเอ็มผู้หญิงคนหนึ่งพร้อมบอกรหัสไปด้วย หลังจากนั้นผู้ตายกลับมาทำงานตามปกติและหายเมาแล้วไม่ทราบว่าให้เอทีเอ็มใครไป จึงไปตรวจสอบบัญชีในธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาถนนศรีจันทร์ พบว่าเงินหายไปจากในบัญชีมากกว่า 8 หมื่นบาท เหลือเงินติดอยู่ 2,185 บาท ผู้ตายจึงถอนเงินมาทั้งหมด เหลือติดบัญชีไว้เพียง 85 บาท เมื่อกลับมาที่อพาร์ตเมนต์ก็บ่นว่ากลุ้มใจไม่มีเงิน จึงอยากจะขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่ซื้อมาไว้เพื่อเตรียมการก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ ตนบอกว่าอย่าขาย ให้ไปยืมเงินญาติมาใช้ก่อนและผู้ตายไปขอยืมเงินแม่จำนวน 100,000 บาท เพื่อขอมาก่อสร้างต่อ แต่แม่ไม่มีให้ ผู้ตายกลุ้มใจมากก็กลับมาที่ห้องพักในอพาร์ตเมนต์เก็บตัวเงียบ
นางไพรวันกล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุมาหานายสมศักดิ์ผู้ตายที่อพาร์ตเมนต์พบเสียชีวิตแล้ว
ซึ่งไม่ทราบว่าผู้ตายยิงตัวเองตายหรือถูกคนอื่นมายิงตายหรือไม่ เพราะเป็นที่น่าสงสัยว่าผู้ตายถนัดมือขวา แต่บาดแผลที่ถูกยิงเป็นขมับซ้ายทะลุด้านศีรษะหลังข้างขวา ปลอกกระสุนปืนไปตกอยู่บนหลังมุ้ง ลักษณะนอนตายก็นอนอยู่นอกมุ้งบนเตียงที่มีมุ้งกางอยู่ อาวุธปืน .38 ม.ม.ตกอยู่ข้างลำตัวด้านซ้าย และในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน 2 ปลอก ซึ่งเป็นปริศนาก็อยู่ที่การสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการต่อไป
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมรอผลพิสูจน์ลายนิ้วมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ เขต 23 ที่จะออกมาภายในสัปดาห์นี้ว่าผู้ตายฆ่าตัวตายเอง หรือถูกผู้อื่นยิงตายหรือไม่ ซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป