รวบ 3ตร.นอกแถวรีดเงินฝรั่ง 2 ล.แลกอิสรภาพ

ตำรวจกองปราบปรามวางแผนบุกรวบตำรวจนอกแถว เป็น จ.ส.ต. 2 นาย กับ ส.ต.อ. (หญิง) อีก 1 สังกัดตำรวจน้ำศรีราชา ทำตัวเป็นโจรในคราบเครื่องแบบ ไปจับกุมนักท่องเที่ยวชาวมะกันมาได้ พร้อมอาวุธปืนอูซี่ กระสุนปืนครบครัน แถมมียาอีอีกเพียบ แต่กลับไม่ยอมส่งตัวไปดำเนินคดี นำตัวไปรีดเงิน 2 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัว เพื่อนสนิทชาวออสซี่ เห็นผิดสังเกต เข้าร้องเรียนกองปราบฯ ให้ช่วยเหลือ แล้ววางแผนรวบตัวไว้ได้ทันควัน แต่ทั้ง 3 คนให้การปฏิเสธ อ้างนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนขยายผล แต่ชุดจับกุมไม่เชื่อคำให้การ ส่งตัวดำเนินคดีทันที

รวบตำรวจนอกแถวตั้งแก๊งรีดไถนักท่องเที่ยวครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 29 ส.ค. พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง ผกก.2 ป. พ.ต.ท.วัชร ทองรวรรณ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมพวก ร่วมกันจับกุม จ.ส.ต.ทวี ตำแอ อายุ 35 ปี จ.ส.ต.คมสัน บุปผามาลา อายุ 35 ปีและ ส.ต.อ. (หญิง) สิริรัตน์ แววประดิษฐ์ อายุ 41 ปี ทั้งหมดสังกัดตำรวจน้ำศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนกลอูซี่ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 100 นัด แมกกาซีน 4 อัน เงินสด 6 แสนบาท ยาอีอีก 100 เม็ด โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังและกรรโชกทรัพย์

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 ส.ค. เวลา 19.00 น. ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปจับกุมนายบิลลี่ รัสเซล อายุ 55 ปี นักท่องเที่ยวชาวอเมริกา พักอยู่บ้านเลขที่ 23/6 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขณะกำลังเดินเล่นพักผ่อนอยู่ที่บริเวณถนนวอล์กกิ้งสตรีท ย่านพัทยาใต้ จากนั้นได้พาตัวไปค้นที่บ้านพักเลขที่ดังกล่าว พบของกลางเป็นอาวุธปืนอูซี่ 1 กระบอก กับยาอีอีกจำนวนหนึ่งในบ้านพักระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย

ได้ยื่นเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับนายบิลลี่ แลกกับการไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี เป็นเงิน 2 ล้านบาท แต่นายบิลลี่อ้างว่าไม่มีเงินจำนวนดังกล่าว จึงพยายามพูดจาต่อรอง พร้อมกับมอบเงินให้ไป 6 แสนบาทก่อน และอ้างว่าจะมีเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศจะโอนเงินเข้าบัญชีมาให้อีก 1 ล้าน 4 แสนบาท แล้วจะมอบให้ทันที

ต่อมา นายเพอรี่ เซทเพน อายุ 50 ปี เพื่อนสนิทชาวออสเตรเลีย ทราบเรื่องเพื่อนถูกจับกุมดำเนินคดี แต่เห็นว่าเพื่อนถูกจับกุมไปเป็นเวลานานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว จึงเดินทางเข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยเหลือ หลังจากนั้นได้ร่วมกันวางแผนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและกรรโชกทรัพย์ไว้ได้ ขณะผู้ต้องหากำลังไปเบิกเงิน ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาพัทยาเหนือ

แต่จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ อ้างว่าได้จับกุมผู้ต้องหามียาเสพติดไว้ในความครอบครอง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง และอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาเพื่อขยายผล ส่วนเงินสดจำนวน 6 แสนบาทนั้น เป็นสินบนที่นายบิลลี่ มอบให้แลกกับการไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเชื่อในพยานหลักฐาน จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ.บางละมุง ดำเนินคดีต่อไป.

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์