เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายชัยณรงค์ ดูดดื่ม หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง รับแจ้งจาก นายลิด นิพวงลา ผู้ใหญ่บ้านน้ำทบ
หมู่ 8 ต.เขาหลวง อ.ภูหลวง จ.เลย ว่ามีชาวบ้านขึ้นไปหาของป่าพบว่าที่บริเวณน้ำตกตาดหลุ บนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ห่างจากหมู่บ้านน้ำทบและหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำทบขึ้นไปทางทิศตะวันตกประมาณ 4 กม. พบซากช้างป่า 3 ตัว ที่ด้านล่างของน้ำตก นอนตายสิ่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว จึงได้นำเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าน้ำทบและชาวบ้านขึ้นไปบริเวณดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบว่าน้ำตกดังกล่าว เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีความสูงจากยอดถึงพื้นประมาณ 25 เมตร ด้านล่างของน้ำตกซึ่งเป็นน้ำตื้นเขิน
มีโขดหินน้อยใหญ่เรียงราย พบซากช้างป่า 3 ตัวนอนตาย สิ่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวล ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าช้างครอบครัวนี้ เป็นช้างเพศผู้ตัวใหญ่อายุประมาณ 20 ปี เพศเมียอายุประมาณ 20 ปี และลูกช้างเพศผู้ อายุประมาณ 5 ปี สภาพตามตัวเป็นแผลเหวอะหวะ เนื้อหนังฉีกขาด คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 30 วัน ส่วนสาเหตุการตายนั้นคาดว่าช้างคงไปหากินด้านบนน้ำตก และอาจจะลื่นจากพื้นที่เปียก พลัดตกจากด้านบนของน้ำตกลงไปกระแทกก้อนหิน โขดหินและต้นไม้ด้านล่างตายทั้งสามตัว
นายชัยณรงค์ กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ประสานไปยัง โครงการฟื้นฟูอาหารช้างภูหลวงและสถานีวิจัยช้างป่าภูหลวง
หาวิธีและมาตรการที่หาหนทางไม่ให้ช้างป่าที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนทุกจุด เมื่อเจอจุดเสี่ยงบริเวณต่างๆให้นำสิ่งกีดขวางไปกั้น เช่นหิน และหาวิธีนำต้นไม้ไปปลูกเพื่อสร้างทางเดินของช้างป่าใหม่ ให้เปลี่ยนเส้นทางเดิน
ด้านนายวัชระ ธรรมสอน หัวหน้าโครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า คาดว่าช้างทั้ง 3 เชือกน่าจะตายมาแล้วประมาณ 1 เดือน ส่วนการทำลายซากของช้าง คงปล่อยให้เปื่อยสลายไปเอง เพราะพื้นที่เป็นภูเขา หน้าผาสูงชัน และป่าหนาทึบ ห่างจากหมู่บ้านไกลมาก