วันที่ 17 ส.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าคดีโศกนาฏกรรมไฟไหม้งานเลี้ยงวิวาห์ในประเทศคูเวต คร่าชีวิตเหยื่อสตรีและเด็กรวม 43 ราย บาดเจ็บ 90 ราย ในจำนวนนี้สาหัส 5 ราย ว่า เป็นการวางเพลิงด้วยฝีมือภรรยาเก่าของเจ้าบ่าว ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพื่อแก้แค้นฝ่ายชาย
หญิงสาวผู้ต้องหาวัย 23 ปี ให้การกับตำรวจว่า ใช้น้ำมันเบนซินราดรอบเต็นท์ของแขกผู้หญิงในงานแต่งงานและจุดไฟเผาเพื่อแก้แค้นสามีที่เคยทำเลวร้ายไว้กับตนก่อนหย่ากัน
ซึ่งหญิงรับใช้ชาวเอเชียของหญิงรายนี้ เป็นพยานยืนยันว่า เห็นนายสาวราดน้ำมันรอบเต็นท์ เหตุดังกล่าวเกิดที่เขตอัลยาห์รา ทางฝั่งตะวันตกของกรุงคูเวต ซิตี้ เมืองหลวงของประเทศ จุดที่เกิดเพลิงเป็นเต็นท์รับรองแขกผู้หญิงที่มาร่วมพิธีแต่งงาน พล.ท.โมฮัมหมัด อัลซาเบอร์ กล่าวว่า ไฟลามเต็นท์อย่างรวดเร็ว ทำให้แขกที่มาร่วมงานตื่นตระหนกหนีตายจนเหยียบกันตาย โดยจำนวนผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีพลเรือนตายพร้อมกันสูงสุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของคูเวต ขณะที่เจ้าสาวรอดชีวิตไปได้ แต่แม่และน้องของหญิงสาวจบชีวิตในกองเพลิง
"เป็นฉากที่น่าสยองขวัญมาก ที่ศพและรองเท้ากองอัดกันอยู่บริเวณทางออก แสดงว่าเหยื่อล้มทับกันไปเรื่อยๆ" ยาสเซม อัลมานซูรี ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิง กล่าวและว่า สภาพศพไหม้เกรียมทำให้ทีมนิติเวชต้องใช้เวลาพิสูจน์ว่าใครเป็นใคร
ทีมแพทย์จากเยอรมนีและอังกฤษเดินทางมาช่วยรักษาผู้บาดเจ็บ ขณะที่รัฐบาลตั้งทีมสอบสวนกรณีที่เกิดกระแสโจมตีว่าเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือล่าช้า
หลังจากทางการเคยเตือนว่าการตั้งเต็นท์แต่งงานในพื้นที่บ้านเรือนไม่เหมาะสม เพราะทำให้เข้าช่วยเหลือได้ลำบากหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยเมื่อปีก่อน เกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้มาแล้วที่เมืองจาห์รา ห่างจากเมืองหลวงไปทางตะวันตก 50 กิโลเมตร ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตเป็นสตรี 2 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนมาก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
