จับพตอ.เก๊-ที่แท้มโนราห์

รวบหนุ่มใหญ่แต่งชุด "พ.ต.อ." อ้างเป็นนายตำรวจใหญ่ตุ๋นชาวบ้าน อวดศักดามีเพื่อนเป็นตำรวจใหญ่ในกรุงเทพฯ สามารถฝากให้เข้าไปเป็นตำรวจได้ เรียกเงินค่าวิ่งเต้น 7 หมื่นบาท ตร.ป่าบอน เมืองพัทลุงรวบตัวสำเร็จ เผยที่แท้เป็นแค่คนรำมโนราห์รับจ้างตามงานทั่วไป

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง

ร่วมกับ พ.ต.ท.ชาติชาย เพาะบุญ สวป.สภ.ป่าบอน แถลงข่าวการจับกุมนายปราโมทย์ มณีโรจน์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 ม.3 ต.กระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา ผู้ต้องหาคดีสวมใส่เครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน โดยไม่มีสิทธิ์ใช้ยศหรือตำแหน่งดังกล่าว มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและหลอกลวงต้มตุ๋นเงินชาวบ้าน

พล.ต.ต.กิตติสัณห์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งจากนางวิลาวรรณ หนูนุ่น ราษฎรในอ.ป่าบอน ว่ามีชายไทยอายุประมาณ 50 ปี

แต่งกายตำรวจยศ "พ.ต.อ." เข้าพบพระแดง จิตตสังวโร รองเจ้าอาวาสวัดหนองนก ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพ่อของนางวิลาวรรณ เพื่อขอยืมเงินจำนวน 70,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นผกก. อยู่ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 สงขลา มาช่วยราชการอยู่ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และสามารถช่วยเหลือให้น้องสาวนางวิลาวรรณสอบเข้ารับราชการตำรวจได้ เพราะมีเพื่อนเป็นนายตำรวจอยู่ที่กรุงเทพฯ หลายคน แต่นางวิลาวรรณบอกว่ายังไม่มีเงิน จึงให้ชายคนดังกล่าวกลับไปก่อนแล้วจะติดต่อไปใหม่

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นาง วิลาวรรณ ติดต่อให้ชายคนดังกล่าวมาพบเพื่อพูดคุยกันที่บ้านเลขที่ 99 ม.8 ต.หนองธง อ.ป่าบอน

ขณะพูดคุยกันนางวิลาวรรณ สังเกตพบว่าชายดังกล่าวแต่งกายชุดตำรวจยศพ.ต.อ. แต่มีป้ายชื่อว่านายรัตภูมิ รัตนพันธุ์ ดูแล้วผิดปกติจึงออกมาโทรศัพท์ไปยังสถานีตำรวจสภ.ป่าบอน เพื่อให้ตรวจสอบ และเมื่อพบความจริงว่าไม่มีตำรวจชื่อนี้ จึงแจ้งไปยัง พ.ต.ท.ชาติชาย เพาะบุญ สวป.สภ.ป่าบอน เดินทางมาจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว

จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ต้องหารายนี้ว่า นายปราโมทย์ มณีโรจน์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 ม.3 ต.กระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา

โดยจับกุมพร้อมอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง ป้ายชื่อนายนพนัย ปานทอง ป้ายชื่อนายรัตภูมิ รัตนพันธุ์ ชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเครื่องหมายยศพันตำรวจเอก 1 ชุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา สวมใส่เครื่องแบบหรือประดับเครื่อง หมายของเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิ์ใช้ยศหรือตำแหน่งดังกล่าว มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลอกลวงต้มตุ๋นเงินชาวบ้าน

นายปราโมทย์ สารภาพว่า มีอาชีพรับจ้างรำมโนราห์ตามงานบุญทั่วๆ ไป แต่รายได้ไม่เพียงพอ

จึงคิดแต่งกายชุดตำรวจออกหลอกลวงเงินจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ป่าบอน โดยทำมาหลายรายแล้ว และล่าสุดเรียกเงินจากรองเจ้าอาวาสวัดหนอกนกจำนวน 70,000 บาท อ้างช่วยเหลือให้บุตรสาวสามารถสอบเข้ารับราชการตำรวจได้ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ดังกล่าว