งัดเอทีเอ็มคืนเดียว5ตู้-กวาด10ล้าน

บุกงัดตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงศรีอยุธยาคืนเดียว 5 ตู้รวดที่ระยอง กวาดเงินกว่า 10 ล้านหนีลอยนวล หลังสัญญาณเตือนภัยดัง ตร.ตรวจสอบ พบกุญแจคาไว้ดูต่างหน้า คาดเป็นฝีมือพนักงานบริษัทขนเงินที่มีกุญแจไข ตามไปที่บ้าน ปิดเงียบ หายไปทั้งครอบครัว อีกรายเสี่ยบ้านจัดสรร ธุรกิจเจ๊ง ติดพนัน บุกงัดตู้เอทีเอ็มแบงก์กสิกรไทยกลางกรุง หวังหาเงินใช้หนี้พนันนับล้าน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ส.ค. พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จ.ระยอง ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) สำนักงานใหญ่ ว่า คนร้ายไขกุญแจฉกเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารทั้งหมด 5 ตู้ หลบหนีไป ประกอบด้วยตู้เอทีเอ็ม บริเวณหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขากระเฉด ริมถนนสุขุมวิท ต.กระเฉด อ.เมือง จำนวน 2 ตู้ ตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขามาบตาพุด ริมถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุด 1 ตู้ ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา หน้าบริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด(มหาชน) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 1 ตู้ และตู้เอทีเอ็ม ที่หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบ้านฉาง ริมถนนสุขุมวิท อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบตู้เอทีเอ็มทั้งหมด เมื่อไปตรวจสอบตู้เอทีเอ็มทั้งหมด พบว่าอยู่ในสภาพปกติทุกตู้ ไม่มีร่องรอยงัด แต่ตู้เอทีเอ็มที่หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบ้านฉาง พบมีกุญแจไขตู้คาอยู่

สอบถามชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงก็ไม่มีใครเห็นคนร้าย เห็นเพียงรถกระบะนิสสัน สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียนออกมาจากตู้เอทีเอ็ม หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบ้านฉาง มุ่งหน้าไปทางอ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ไม่พบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านฉาง เข้าตรวจสอบ พร้อมเก็บรอยนิ้วมือแฝงคนร้ายภายในตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา ริมถนนสุขุมวิท ในตลาดบ้านฉาง ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าตู้ดังกล่าวไม่มีร่องรอยถูกงัดเข้าไปแต่อย่างใด ภายในตู้ยังพบกุญแจเสียบติดอยู่กับตู้เซฟ 1 ดอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเงินภายในตู้เซฟประมาณ 5 ล้านบาท ได้หายไปทั้งหมด ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนหาคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกลุ่มของพนักงานขนเงินของบริษัทซึ่งทำหน้าที่ขนเงินใส่ตู้เอทีเอ็มน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานมาจากบริษัท บริงค์ ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับขนเงินว่า ได้รับแจ้งจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ ว่ามีสัญญาณดังจากตู้เอทีเอ็มทั้งหมด 5 ตู้ใน จ.ระยอง

ช่วงตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อตรวจสอบตู้เอทีเอ็มที่มีสัญญาณดัง ปรากฏว่ามีเงินหายไป แต่ยังไม่ทราบยอดเงินที่แท้จริง เบื้องต้นคาดว่ายอดเงินที่หายประมาณ 10 ล้านบาท จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ของบริษัท บริงค์ฯ ทราบว่ามีพนักงานของบริษัท และเป็นคนถือกุญแจ หายตัวไป คือนายณรงค์ โทมี อายุ 36 ปี บ้านเดิมอยู่ที่จ.นครราชสีมา ซึ่งมีบ้านพักอยู่กับภรรยาที่ตลาดมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง คาดว่าเป็นคนลงมือ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่า ไม่พบ ส่วนบ้านปิดเงียบ คาดว่าคงจะหลบหนีไปด้วยกัน เพราะไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ จึงนำรูปจากทะเบียนราษฎรออกมาสเกตช์ภาพเพื่อออกหมายจับต่อไป

พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ กล่าวต่อว่า ยอดเงินที่แท้จริงต้องตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคนร้ายคาดว่าคงหลบหนีไปได้ไม่ไกล ขณะนี้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในจ.นครราชสีมา เพื่อตรวจสอบบ้านเกิดของคนร้ายที่อาจจะหนีไปกบดาน เพื่อจับตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ส่วนอีกเหตุการณ์ วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมด้วยพ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สน. พญาไท พ.ต.ต.สิทธิ์ศักดิ์ นาคามาตร์ พ.ต.ต. กฤษณะ สุกันทะ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท

ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายธวัชชัย หาญทวีทอง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 447/75 ถ.ราชปรารถ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุง เทพฯ พร้อมด้วยของกลาง 1 ไขควง 2 อัน คีมขนาดเล็ก 1 ตัว กรรไกร 1 อัน ไฟฉาย 1 กระ บอก ด้ามเลื่อยพลาสติก 1 อัน ค้อนตะปู 1 อัน ถุงมือสีขาว 1 คู่ นอตขนาดเล็ก 4 ตัว เสื้อเชิ้ต 1 ตัว และเสื้อยืด 2 ตัว โดยกล่าวหาว่าพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จับกุมตัวได้ที่บริเวณชั้น 1 ข้างโต๊ะทำงานภายในธนาคารกสิกรไทย สาขาจารุรัตน์ ซ.เพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 14 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งว่ามีสัญญาณ นิรภัยของธนาคารกสิกรไทย สาขาดังกล่าวดังขึ้น จึงไปตรวจสอบ ที่บริเวณชั้นล่างซึ่งเป็นที่ทำการธนาคาร พบป้ายช่องบริการลูกค้าร่วงหล่นลงมา มีข้าวของตกแตกกระจาย ขณะเดียวกัน พบนายธวัชชัย หาญทวีทอง หลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณใต้โต๊ะพนักงาน จึงจับกุม

จากการสอบสวน นายธวัชชัย ให้การรับสารภาพว่า เป็นความคิดชั่ววูบ ก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่ผ่านมา ตนทำธุรกิจเกี่ยวกับบ้านจัดสรรที่จ.ชุมพร แต่ประสบปัญหาเรื่องเงิน ประกอบกับเป็นคนชอบเล่นการพนัน และเป็นหนี้สินหลายแสนบาท

ก่อนจะเดินทางมากรุงเทพฯ พักที่อยู่บ้านเลขที่ 447/75 ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ย่านประตูน้ำ ซึ่งเป็นบ้านของตนเอง และคิดหาวิธีหาเงิน คิดว่าจะเข้าไปงัดตู้เอทีเอ็มของธนาคารน่าจะดี จึงเตรียมอุปกรณ์ที่ถูกจับได้ใส่กระเป๋ากางเกง พร้อมด้วยเสื้อ เวลาจะหลบหนี จากนั้นไปที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาดังกล่าว เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 ส.ค พร้อมเอกสารจะขอกู้เงินกับทางธนาคาร โดยจะนำที่ดินที่บ้านมาค้ำประกัน และขอกู้เงินจำนวน 4 ล้านบาทเพื่อไปปลดหนี้ต่างๆ หลังจากเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเรียบร้อยแล้ว อาศัยช่วงที่พนักงานกำลังยุ่ง เนื่องจากเป็นเวลาใกล้ปิดทำการ จึงขึ้นไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บของ ชั้น 4 กระทั่งธนาคารปิด จึงออกจากห้อง ช่วงเวลา 19.00 น.

จากนั้นเดินผ่านห้องเซิร์ฟเวอร์ และเข้าไปงัดทำลายสายตัวเชื่อมของกล้องวงจรทั้งหมดเพื่อป้องกันการบันทึกภาพ

ก่อนจะลงมาที่ชั้น 2 แล้วโรยตัวลงมาชั้นล่าง เมื่อลงมาแล้ว รู้ตัวว่าทำผิด จึงนั่งอยู่บริเวณโต๊ะนานเกือบ 1 ชั่วโมง จะออกไปด้านนอกก็ออกไม่ได้ จึงงัดประตูไม้ทางด้านหลังตู้เอทีเอ็ม แต่ไม่สามารถออกไปด้านนอกได้ กระทั่งเจ้าหน้าที่มาจับกุม ต่อมาเจ้าหน้าที่นำนายธวัชชัยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่จุดที่นายธวัชชัยเดินเข้ามาที่แบงก์และขึ้นไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณชั้น 4 จนกระทั่งธนาคารปิดและเดินออกมาจากห้อง และเข้าไปทำลายห้องเซิร์ฟเวอร์ และเดินลงมาชั้น 2 ก่อนจะโรยตัวลงมาชั้นล่าง โดยจับสายไฟ ป้ายช่องบริการลูกค้าปีนลงมา และมางัดประตูไม้ เพื่อหาทางออก กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุม