ฆ่าโหดสาวใหญ่ แทงยับ ทิ้งสนามกอล์ฟ

พ.ต.ท.ยศวิน เอี่ยมพุ่ม สารวัตรเวร สภ.ต.คูคต อ.ลำลูกกาจ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) สนามกอล์ฟธัญธานี คันทรีคลับ (คลองห้า) ตั้งอยู่หมู่ 2 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา ว่ามีผู้พบศพผู้หญิงถูกฆ่าบริเวณป่าละเมาะหลังสนามกอล์ฟ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สาโรช หลักเพ็ชร ผกก. พ.ต.ท.ศานิตย์ โพธิพรหม รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ท.เอกภพ ตันประยูร สวป. พ.ต.ท.นิกร ชัยวีรวงศ์ สว.สส. พ.ต.ท. วิรัตน์ มะแก้ว สว.วท.เขต 11 จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ภายในพงหญ้าพบศพผู้หญิงลักษณะนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง ถูกถลกขึ้นเกือบถึงยกทรง เมื่อเปิดเสื้อดูพบว่าเสื้อยกทรงถูกถลกขึ้นไปกองเหนือราวนม นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีเทา ส่วนกางเกงในใส่กลับตะเข็บ สภาพศพลำตัวมีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมกว่า 10 แผล จนไส้ทะลักออกมา บริเวณน่องและขาทั้ง 2 ข้าง มีรอยเขียวช้ำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ในที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยของการต่อสู้จนต้นหญ้าหักราบเป็นหน้ากลอง ตรวจค้นในตัวไม่พบหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน ในชั้นต้นไม่สามารถระบุได้ว่ามีร่องรอยของการถูกข่มขืนด้วยหรือไม่ เนื่องจากสภาพศพเริ่มขึ้นอืด จึงได้นำศพส่งตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

มีนายอภิชาติ แก้วพิทักษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/618 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นเจ้าของร้านข้าวต้มโต้รุ่งชื่อ ร้านชลบุรี ตั้งอยู่บริเวณริมถนนพหลโยธิน กม.27 แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. พร้อมญาติพี่น้องอีกจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.นิกร ชัยวีรวงศ์ สว.สส. เพื่อขอดูศพและเสื้อผ้าผู้ตาย เมื่อเจ้าหน้าที่พาไปดูศพที่หลังรถของมูลนิธิฯที่กำลังจะนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ นายอภิชาติ และญาติๆถึงกับร่ำไห้โฮออกมา โดยยืนยันว่าผู้ตายคือพี่สาวแท้ๆชื่อ น.ส.นิตยา แก้วพิทักษ์ หรือ เจ๊นิด อายุ 42 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 16 หมู่ 7 ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ปัจจุบันได้ร่วมหุ้นกันเปิดร้านขายข้าวต้มโต้รุ่งชลบุรี นอกจากนี้ ผู้ตายยังเปิดร้านขายผลไม้ มะม่วงน้ำปลาหวานอีกด้วย

เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะตนและผู้ตายกำลังขายของอยู่ในร้าน มีลูกค้าคนหนึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.นิตยา โทรศัพท์มาสั่งอาหาร น.ส.นิตยาจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์นำอาหารไปส่งให้ลูกค้ารายดังกล่าวที่อพาร์ตเมนต์ภายในซอยย่าน กม.25 แขวง-เขตสายไหม ตนเห็นพี่สาวหายตัวไปนานผิดสังเกต ด้วยความเป็นห่วงให้ลูกน้องขับรถยนต์ไปตามหา ปรากฏว่าพบรถจักรยานยนต์ ของพี่สาวล้มคว่ำอยู่กลางซอยพร้อมกับรองเท้าอีก 1 คู่ แต่ไม่พบตัว สอบถามพยานเป็น รปภ.อพาร์ตเมนต์ใกล้ที่เกิดเหตุบอกว่า เห็นพี่สาวถูกคนร้ายเป็นวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน ใช้มีดจี้บังคับฉุดขึ้นรถปิกอัพไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนพาหลบหนีไป จึงได้เข้าแจ้งความไว้กับตำรวจ สน.สายไหม ท้องที่เกิดเหตุ กระทั่งมาทราบว่าพี่สาวถูกฆ่าตาย ส่วนสาเหตุไม่ทราบ เพราะปกติพี่สาวไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร และยังเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนอีกด้วย

ขณะผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งอาหารให้กับเพื่อนคนหนึ่งที่อพาร์ตเมนต์ พบวัยรุ่น 2 กลุ่ม ยกพวกตะลุมบอนกัน ระหว่างเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกลุ่มวัยรุ่นคงคิดว่าผู้ตายเป็นพวกเดียวกับกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณี จึงได้ฉุดขึ้นรถปิกอัพพาหายตัวไป จากคำให้การของพยานแวดล้อมที่พบในที่เกิดเหตุ เมื่อตำรวจนำมาประมวลเข้าด้วยกัน สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ เนื่องจากชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี หลังฉุด น.ส.นิตยาขึ้นรถพาไปในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยว คนร้ายอาจจะพยายามปลุกปล้ำหมายข่มขืน สังเกตได้จากเสื้อผ้าถูกถลกขึ้นเหนือราวนม แต่ผู้ตายขัดขืนต่อสู้ จึงถูกคนร้ายกระหน่ำแทงด้วยมีดเสียชีวิต

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ