ตำรวจจับแม่เล้าสาววัย 22 ปีล่อลวงด.ญ.วัย 13 ปีค้ากาม พ่อแม่เหยื่อน.ร.สาว ม.1 เข้าร้องมูลนิธิปวีณาฯ
หลังพบว่าลูกสาวโดนแม่เล้าวัยรุ่นล่อลวงไปค้าประเวณี โดยจะเอามือถือรุ่นใหม่ๆ เสื้อผ้าสวยๆ มาล่อใจเหยื่อให้ขายบริการทางเพศ มีน.ร.สาวตกเป็นเหยื่อนับสิบราย หากไม่ยอมรับงานก็จะข่มขู่ ตร.ซ้อนแผนจับได้ทั้งแม่เล้ากับ 2 หนุ่มวิศวกรที่มาซื้อบริการ แม่เล้าอ้างเด็กๆ เต็มใจขายตัวเอง ไม่ได้บังคับ ส่วนที่รู้จักคนเยอะเพราะเคยเป็นเด็กเชียร์เบียร์ ตร.ผงะบัญชีรายชื่อลูกค้ามีเพียบ ทั้งขรก.-นักธุรกิจ บางรายเป็นอจ.มหา วิทยาลัยดัง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ที่ศูนย์สืบ สวนตำรวจภูธรภาค 1 (ศสส.บช.ภ.1) พล.ต.ต. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภาค 1
ร่วมกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี แถลงข่าวจับกุม น.ส.สุวภรณ์ หรือฝน เอี่ยมทัศน์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายศราวุธ สิงห์เงอ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/4 หมู่ 2 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และนายอนันต์ อุตอามาต อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 4 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยผู้ต้องหาทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสวัสดิภาพเด็ก เยาวชนและสตรี ภาค 1 นำโดยพ.ต.ท.ภาสกร นิลขำ รองผกก.ศดส.ภาค 1 พ.ต.ท.อุเทน นุ้ยพิน สว.ฯ ร.ต.อ.จิรายุส วินิช กูล รอง สว.ฯ เข้าจับกุมหลังจากผู้ต้องหาได้ซื้อบริการทางเพศกับเด็กอายุ 13 ปี
โดยได้แจ้งข้อหาน.ส.สุวภรณ์ หรือฝน
ค้ามนุษย์ตามพ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งจับกุมได้หน้าห้างโลตัส สาขาเมืองปทุมธานี พร้อมของกลางเงินสด 1,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ส่วนนายศราวุธ และนายอนันต์นั้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร โดยจับได้ภายในห้องพักเลขที่ 310 และ 311 ของโรงแรมโรยัล สวีท อ.เมืองปทุมธานี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ถุงยางอนามัยจำนวน 2 อัน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา
รวบแม่เล้าวัยรุ่น ใช้มือถือล่อดญ. ขายตัวนับสิบคน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครองของนักเรียนหญิงชั้น ม.1 อายุ 13 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ว่า
ลูกสาวถูกน.ส.สุวภรณ์ล่อลวงไปค้าประเวณี โดยผู้ปกครองคนดังกล่าวระบุว่า ก่อนเข้าร้องเรียนกับทางมูลนิธิ พบว่ายังมีกลุ่มเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกันภายในหมู่บ้านกว่าสิบคน มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปหลังจากได้รู้จักคบหาน.ส.สุวภรณ์ โดยจะขาดเรียนบ่อย บางวันกลับบ้านมืด ค่ำผิดเวลา บางครั้งหายไปจากบ้านนานหลายวัน ทำให้เกิดความสงสัย จึงสอบถามจากกลุ่มเพื่อนๆ ของลูกสาว กระทั่งทราบความจริงว่าลูกสาวชอบไปมั่วสุมกับกลุ่มเพื่อนที่บ้านพักของน.ส.สุวภรณ์ที่อยู่หมู่บ้านใกล้กัน หลังจากนั้นได้เรียกลูกสาวมาสอบถามข้อเท็จจริงจนทราบว่าถูกหลอกให้ไปค้าประเวณี
สำหรับพฤติกรรมของน.ส.สุวภรณ์
จะใช้วิธีล่อลวงเด็กด้วยการนำเอาโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ หรือเสื้อผ้าที่สวยงามมาล่อ ทำให้เด็กเกิดหลงผิด ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวเด็กอยากได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เลยยอม ครั้งแรกทราบว่ามีค่าตัวแค่ 4,000 บาท แต่น.ส.สุวภรณ์แบ่งให้จำนวนหนึ่งเท่านั้น เมื่อได้เงินมาแล้วจะเอาไปซื้อข้าวของที่อยากจะได้ ต่อมาระยะหลังเมื่อรับงานแล้วผู้ต้องหาจะแบ่งเงินให้เพียงเล็กน้อย ครั้งละไม่เกิน 200-300 บาทเท่านั้น
โดยทุกครั้งน.ส.สุวภรณ์มักอ้างว่า
มีเรื่องเดือดร้อนต้องการใช้เงิน จึงเอาเงินค่าตัวไปเกือบหมด หากเด็กไม่ยอมออกไปรับงานจะถูกข่มขู่ ทำให้ต้องออกไปทุกครั้งที่น.ส.สุวภรณ์เรียก หลังจากทราบเรื่องแล้วทางผู้ปกครองของเด็กกลุ่มนี้จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจ จ.ปทุมธานี แต่เจ้าหน้าที่กลับทำงานล่าช้า จึงเข้าไปร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาฯ และมีการประ สานตำรวจ ศดส.ภาค 1 เข้าจับกุม โดยระหว่างเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามทราบว่า น.ส.สุวภรณ์ได้โทร.เรียกลูกสาวให้ออกไปรับงานอีก เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนและเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ในที่สุด
สอบสวนน.ส.สุวภรณ์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า
เด็กส่วนใหญ่ทั้ง หมดจะเต็มใจที่จะทำงานแบบนี้ เพราะอยากได้เงินไปหาซื้อข้าวของ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือไม่ก็เสื้อผ้าใหม่ๆ โดยไม่เคยบังคับใคร สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าที่เคยรู้จักกันตั้งแต่สมัยที่ตนยังทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์ และพนักงานร้านสุกี้ชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำให้รู้จักคนเยอะ ลูกค้าส่วนใหญ่จะบอกต่อๆ กันมา ส่วนค่าแรงแล้วแต่เด็กจะให้ มีบางรายที่ไม่กล้าเก็บเงินไว้กับตัวจำนวนมากๆ เพราะกลัวพ่อแม่จะรู้เรื่อง เลยขอแบ่งไปเพียงแค่ไม่กี่ร้อยบาท บางช่วงที่ตนบอกกับเด็กว่าเดือดร้อน เด็กจะยกค่าตัวให้ทั้งหมด
ด้านนายอนันต์ให้การรับสารภาพว่า
ตนทำงานเป็นวิศวกรผู้จัดการโรงงานแห่งหนึ่ง ก่อน เกิดเหตุนั่งดื่มเบียร์อยู่กับนายศราวุธที่เป็นช่างกลึง ซึ่งมักจะแวะมาหาที่โรงงานบ่อยๆ หลังจากนั้นนายศราวุธได้ชวนกันมาเที่ยว ไม่ทราบว่าตำรวจกำลังติดตามพฤติกรรมของน.ส.สุวภรณ์อยู่ กระทั่งพาเด็กไปถึงโรงแรมยังไม่ทันจะทำอะไรถูกจับกุมเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
สำหรับหลักฐานตำรวจยึดได้ในบัญชีรายชื่อลูกค้าของน.ส.สุวภรณ์ พบมีเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย ข้าราชการ นักธุรกิจ บางรายเป็นถึงระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป หลังการสอบสวนจึงนำส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานีดำเนินคดีต่อไป