ตร.เผยผู้นำกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมศรีลังกา มีเมียอยู่ลำพูน มาร์คลั่นไม่ปล่อยใช้ไทยตั้งฐานสร้างปัญหา


สิงคโปร์รวบผู้นำกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมคนใหม่ ใช้ไทยเคลื่อนไหวในการจัดหาอาวุธ เผยประวัติ เป็น 1 ในทีมสังหาร "ราจีฟ คานธี" อดีตนายกฯอินเดีย มีเมียพยาบาลอยู่ที่ลำพูน "มาร์ค"ลั่นไม่ได้ถูกจับที่ไทย ไม่ปล่อยให้ใช้เป็นที่ตั้ง นายพลตำรวจพัวพันถูกสอบสวนให้ออก เรื่องยังคา ป.ป.ช.


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ว่า นายเซลวาราสา ปัทมานาทาน หรือนายเค.พี. ผู้นำคนใหม่ของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม (แอลทีทีอี) ของศรีลังกา ถูกจับกุม แต่ยังมีความสับสนเรื่องสถานที่ที่ถูกจับกุม โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 6 สิงหาคม พลจัตวาอุทัย นานายอักครา โฆษกกองทัพศรีลังกา ระบุว่า นายเค.พี.ถูกจับกุมตัวที่ประเทศไทย แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดมากกว่านั้น ขณะที่วันต่อมา พลจัตวาอุทัยกลับระบุว่า นายเค.พี.อยู่ในการควบคุมตัวของทางการศรีลังกาแล้ว แต่ปฏิเสธที่จะระบุว่าจับกุมตัวได้ที่ไหน


ขณะที่สำนักงานเอพีรายงานว่า กลุ่มแอลทีทีอีระบุไว้ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของกลุ่มว่า นายเค.พี.ถูกจับกุมตัวได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ทางการมาเลเซียปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็น


เมื่อวเวลา 18.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวดีพีเอรายงานถึงแถลงการของนายทหาร อูดานา นานานัคคารา กองทัพศรีลังกาที่ยืนยันว่า นายเซลวาราสา  ปัทมานาทาน หรือเคพี ผู้นำคนใหม่ของกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ถูกจับกุมตัวที่ประเทศไทย ว่าเท่าที่ตนได้ตรวจสอบไปน่าจะมีการจับกุมผู้นำกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมที่ประเทศมาเลเซีย ยืนยันว่า ไม่ได้จับกุมในประเทศไทย แต่เท่าที่เข้าใจคือหลังจากนายเคพีถูกจับกุมขบวนการนำส่งตัวอาจจะผ่านทางประเทศไทย ส่วนที่มีข่าวว่านายเคพีมีประวัติเดินทางมาประเทศไทยหลายครั้งนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด ก็ให้เป็นการดำเนินการของมาเลเซีย ส่วนประเทศไทยก็ให้ความร่วมมืออยู่แล้วถ้ามีการขอความร่วมมือมา


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อมูลทางลึกหรือไม่ว่ากลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานเพื่อใช้ในการกบดานในประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่อนุญาติให้ใช้ประเทศไทย ในการที่จะตั้งฐานของการต่อต้านหรือสร้างปัญหาด้านความมั่นคงให้กับที่อื่นอยู่แล้ว


ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) รายงานให้กับรัฐบาลทราบว่า ไม่ได้มีการจับกุมนายเค.พี.ในประเทศไทย ขณะเดียวกัน สขช.ได้ประเมินสถานการณ์โดยได้ข้อมูลจากเว็บไซต์ของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ที่ประเทศแคนาดาว่า นายเค.พี.ได้หายตัวไปจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา พอวันที่ 6 สิงหาคม มีคนเห็นผู้ต้องสงสัยที่สนามบินศรีลังกา ในสภาพมีถุงคลุมศีรษะ  ดังนั้น หลายฝ่ายจึงคาดว่า นายเค.พี.ได้เดินทางไปยังมาเลเซีย แล้วถูกโอนตัวไปยังศรีลังกาผ่านทางเครื่องบิน โดยเปลี่ยนเครื่องที่ กทม.


"หากเป็นการเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางไปยังประเทศอื่น อาจไม่ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แต่มีรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้" นายปณิธานกล่าว และว่า ช่วงที่นายเค.พี.เข้าออกประเทศไทย หลายรัฐบาลก็กดดันให้ออกนอกประเทศ เพราะหลังกรณีนายริดวน อิซามุดดิน หรือฮัมบาลี แกนนำก่อการร้ายกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือเจไอ เข้ามากบดานและถูกจับกุมในประเทศไทย ทางไทยก็เริ่มทำข้อตกลงกับประเทศต่างๆ เพราะเราถูกมองว่าเป็นประเทศที่คนเหล่านี้เข้าออกตลอดเวล


ส่วนข้อกล่าวหาว่านายเค.พี.ใช้ประเทศไทยเป็นช่องทางส่งต่ออาวุธไปยังศรีลังกานั้น นายปณิธานกล่าวว่า  ก็มีอยู่บ้างในอดีต โดยเฉพาะทางภาคใต้บางส่วน เช่น ภูเก็ต พังงา ระนอง ขณะนี้ยังตรวจสอบอยู่


ด้านพล.ต.ท.ธีรเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวว่า จากข้อมูลทางการข่าวทราบว่า นายเค.พี.ถูกจับกุมที่ประเทศสิงคโปร์ โดยนายเค.พี.เคลื่อนไหวไป-มาใน 3 ประเทศ คือไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่จากการตรวจสอบไม่เคยพบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยอย่างเป็นทางการ คาดว่าเป็นการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย


ด้านรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แจ้งว่า จากการตรวจสอบจากสำนักงานตำรวจสากลของไทย พบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นของประเทศสิงคโปร์ ได้จับกุมนายเค.พี. เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยประวัติของนายเค.พี.เท่าที่หน่วยข่าวกรองของไทยมี พบว่า อายุ 57 ปี สัญชาติศรีลังกา เป็นแกนนำระดับมันสมองของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ขึ้นเป็นผู้นำแทนนายเวฬุพิไล ประภาการัน ที่ถูกรัฐบาลศรีลังกาสังหาร พร้อมแกนนำคนสำคัญหลายคน โดยนายเค.พี.มีภรรยาเป็นคนไทย อาชีพพยาบาล อยู่ที่ จ.ลำพูน พื้นที่ปฏิบัติการคือ สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ มาเลเซีย ฮ่องกง นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส ไซปรัส สหรัฐอเมริกา และไทย


แหล่งข่าวกล่าวว่า นายเค.พี.เป็นผู้ก่อการร้ายที่เป็นที่ต้องการตัวของหลายประเทศ เนื่องจากมีข้อหาร้ายแรงจำนวนมาก ทั้งการค้าอาวุธ การส่งอาวุธให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย รวมทั้งเป็นหนึ่งในทีมสังหารนายราจีฟ คานธี อดีตนายกรัฐมนตรีอินเดีย ส่วนพฤติการณ์และความเคลื่อนไหวของนายเค.พี.ในประเทศไทย พบว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2534 หลังจากสังหารนายราจีฟ คานธี ได้หลบหนีเข้าประเทศไทย และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 4 จากนั้นได้ติดต่อซื้ออาวุธ วัตถุระเบิดจากบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางรัก,  วันที่ 1 กรกฎาคม 2534 ปรากฏตัวที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อติดต่อซื้ออาวุธจากกลุ่ม KPNLF, วันที่ 6 พฤศจิกายน 2534 ทางการอินเดียจับกุมเรือทองนาวา พบอาวุธในเรือที่ลักลอบนำไปส่งให้กับกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม โดยอาวุธทั้งหมดมาจากประเทศไทย


"ต่อมาทราบว่ามีการปลอมลายมือชื่อซื้ออาวุธปืนจากกองทะเบียน กรมตำรวจ จนมีการตั้งกรรมการสอบสวน ปัจจุบัน นายตำรวจที่ถูกสอบสวนขึ้นเป็นนายพลตำรวจ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ออกจากราชการ แต่เรื่องยังอยู่ที่ ตร. โดยนายพลคนนี้จะเกษียณในปี 2552 นี้"  แหล่งข่าวกล่าว


แหล่งข่าวกล่าวว่า นายเค.พี.ยังเปิดบริษัทค้าอาหาร มีสาขาทั้งที่ จ.ลำพูน และ จ.ระยอง คาดว่าเป็นการเปิดบังหน้าเพื่อใช้การติดต่อเรื่องการค้าอาวุธ นอกจากนี้ในเดือนกันยายน 2544 ได้เปิดบริษัทเพื่อส่งค้าสินค้าคาดว่าเป็นอาวุธทางเรือ ซึ่งจากการติดตามความเคลื่อนไหวของนายเค.พี. พบว่ามีพฤติกรรมเป็นผู้ร้ายข้ามแดน จึงขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 ในข้อหาเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1054/49


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์