คมชัดลึก :รองผู้การฯประจวบคีรีขันธ์ สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจออกล่าตัวคนร้ายปาหินรถบรรทุก บริเวณพื้นที่รอยต่อ 2 อำเภอ เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือพวกคึกคะนอง ไม่ประสงค์ต่อทรัพย์
(1ส.ค.) เวลา 15.00 น.ที่บริเวณที่พักสายตรวจบ้านทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.วิศิษฐ์ โสมินทุ รองผู้บัง คับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผอ.การกองอำนวยการป้องกันเหตุคนร้ายใช้วัตถุขว้างปารถยนต์ ประธานในการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพาน และ สภ.บางสะพานน้อย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ เพื่อสรุปสถานการณ์ความคืบหน้า คดีปาหินรถยนต์บนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ ในเขตพื้นที่ อ.บางสะพานและ อ.บางสะพานน้อย เบื้องต้นมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินดคีแล้ว 14 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระจกบาด 1 ราย ส่วนทรัพย์สินเป็นกระจกรถและตัวรถได้รับเสียหายเท่านั้น
พ.ต.อ.วิศิษฐ์ เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ติดตามหาข่าวและหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งคดีนี้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ความสำคัญอย่างยิ่งพร้อมสั่งให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเช้ามึดประมาณตี 4 ที่ผ่านมา และเกิดเหตุต่อเนื่องใน 2 พื้นที่ระหว่างอ.บางสะพานกับอ.บางสะพานน้อย ตั้งแต่หลักกิโลเมตร 405-417+800 ล่าสุดมีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว ของ สภ.บางสะพานน้อย 12 ราย มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และของ สภ.บางสะพาน อีก 2 ราย พร้อมของกลางก้อนหินขนาดต่างๆ จากรถผู้เสียหาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าประกบผู้ต้องสงสัยที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นแล้ว แต่พบว่าไม่ใช้ จึงตรวจสอบข้อมูลใหม่ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์หรือมีกลุ่มวัยรุ่นตั้งวงดื่มสุรากันหรือไม่ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดต้องรวบรวมมาประชุมกันที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ เพื่อมาสรุปสถานการณ์กันอีกครั้ง
เชื่อว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุไปด้วยความคึกคะนอง หรืออาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบจากคดีที่เกิดขึ้นในจังหวัดอื่นๆ ที่คนร้ายก่อเหตุด้วยการขับรถย้อนศรขึ้นมาบนถนนในฝั่งขาล่องใต้ แล้วก่อเหตุนำหินขว้างปารถยนต์ที่ขับสวนทางโดยไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์สินใดๆ ของผู้เสียหาย ซึ่งคดีนี้ผู้บังคับบัญชาภาค 7 ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง พร้อมสั่งการให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดผู้กระทำผิดเพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
ด้านนายอภินันท์ จันทรังษี รองผู้ว่าฯจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้ยวดยาน ในท้องที่อ.บางสะพานน้อย ยังถือว่าโชคดีที่กลุ่มขว้างปาหิน ไม่ได้ปาเข้าใส่รถยนต์หรือรถยนต์ปิกอัพเพราะหากเกิดขึ้นกับรถประเภทนี้ จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์จังหวัด ในคืนวันนี้ (1ส.ค.) จะเดินทางลงไปดูพื้นที่เกิดเหตุด้วยตนเอง และขณะนี้ทราบว่าตำรวจกำลังเร่งคลี่คลายคดีและหาเบาะแสอยู่ ต้องตรวจสอบให้ได้ว่าทำไมผู้ลงมือขว้างปาหินเข้าใส่จึงจงใจปาเข้าใส่รถบรรทุก และมาจากสาเหตุใด ขณะเดียวกันทราบว่า พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิ์วงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค7 จะเดินทางลงมาดูแลและหาเบาะแสกลุ่มปาหินในช่วงค่ำวันนี้
พ.ต.อ.สุทัศน์ รัตน์กุสุมภ์ ผกก.สภ.บางสะพานน้อย กล่าวว่าขณะนี้กำลังให้ตำรวจหาข้อมูลในพื้นที่ว่าช่วงเกิดเหตุมีใครพบเห็นผู้ขี่จยย. 1 คัน และมีอาการเมาบ้าง เนื่องจากผู้ขับขี่รถบรรทุกให้การตรงกันว่า น่าจะมีเพียงคันเดียวแต่มีอาการขับขี่ส่ายไปมาเหมือนคนเมา และเปิดไฟสูงและขว้างหินเข้าใส่ ซึ่งมีขนาดประมาณ 6 คูณ10 ซม. ซึ่งหินมีลักษณะหลายชนิด ทั้งจากข้างทาง ลำห้วย และหินจากการถมที่ สำหรับรถที่เสียหายมีรถบรรทุก 6 ล้อ รถบรรทุก 18 ล้อ และรถบรรทุกส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามพบว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีขนขับรถบรรทุก 6 ล้อได้รับบาดเจ็บจากกระจกที่แตกบาดที่หน้าและเข้าเย็บบาดแผลที่โงพยาบาลบางสะพานน้อย 4 เข็ม