เมื่อวันที่ 29 ก.ค. สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์และเอพี ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ครอบครัวนายไมเคิล กริฟฟิน แฮร์รี่ นักศึกษาอเมริ กัน วัย 29 ปี
ขอร้องให้สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ อเมริกาและกระทรวงต่างประเทศของไทย ช่วยตามหาตัวนายแฮร์รี่ ซึ่งหายสาบสูญขาดการติด ต่อไปตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.ภายหลังจากเดินทาง มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อท่องเที่ยวในเมืองไทย รายงานข่าวแจ้งว่า นายแฮร์รี่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยออเบิร์น สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำในรัฐอลาบามา สหรัฐอเมริกา ก่อนหายตัวไปกำลังอยู่ระหว่างเดินทางมาเทกคอร์สตามโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในสาขาพยาธิชีววิทยาทางสัตวแพทย์รวมเวลา 1 เดือนที่มหาวิทยาลัยอิวาเตะ เมืองโมริโอกะ ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นบินต่อมาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ โดยลำพัง และผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายไมก์ แคลร์ดี้ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยออเบิร์น ให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า
กล้องวงจรปิดสนามบินสุวรรณภูมิสามารถบันทึกภาพขณะนายแฮร์รี่กำลังเดินไปยังประตูทางออกตัวอาคารสนามบิน และมีคนเห็นนายแฮร์รี่ครั้งสุดท้ายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่าคดีนี้ยังเป็นเพียงคดีคนหาย เพราะไม่พบหลักฐานความผิดปกติใดๆ
"นายแฮร์รี่มีนัดเจอกับครอบครัว ซึ่งบินมาเยี่ยมในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 16 ก.ค. แต่ไม่มาตามนัด และหายตัวไปจนถึงปัจจุบัน" ฟ็อกซ์นิวส์ระบุ
รายงานระบุด้วยว่า ทางมหาวิทยาลัยออเบิร์น ส่งเจ้าหน้าที่ 2 คน มากรุงโตเกียวเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนายแฮร์รี่ติดต่อส่วนราชการทั้งในญี่ปุ่นและประเทศไทย
รวมถึงติดต่อสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ ซึ่งได้ช่วยประสานงานกับกระทรวงต่างประเทศของไทยเพื่อตามหานายแฮร์รี่แล้ว วันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ น.ส.วิมล คิดชอบ อธิบดีกรมสารนิเทศกล่าวถึงกรณีนักศึกษาแพทย์ชาวอเมริกันหายตัวไปในประเทศไทยว่า กระทรวงทราบเรื่องแล้วและกำลังตรวจสอบว่าทางการสหรัฐติดต่อมาหรือไม่ หากประสานงานมายังกระทรวงแล้วก็ต้องพิจารณาว่าทางสหรัฐขอมาด้วยเรื่องใด โดยทางกระทรวงจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป