คมชัดลึก :นักเรียนสาวฉกเงินแม่ค้าถูกจับได้ สารภาพหาเงินไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มนักเรียนอาชีวะ ด้านตำรวจพยายามไกล่เกลี่ยเพื่อให้ยอมความ หวั่น เด็กเสียอนาคต ที่สตูลฆ่ารัดคอชิงทรัพย์เฒ่าเงินกู้ดับคาเตียงนอน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 ก.ค. นางประยงค์ วรสมจิตต์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/1 ถ.ศุภกิจ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แม่ค้าขายเส้นหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ในตลาดสดบ่อบัว ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ ร.ต.ท.บุญสฤษดิ์ ช่วยชู พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งเป็นนักเรียน ชั้น ม.5 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี
สอบสวน นางประยงค์ ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะตนกำลังขายของอยู่หน้าร้าน และได้เหลือบหันหลังกลับเข้าไปภายในร้าน ได้พบเห็น น.ส.เอ๋ กำลังหยิบฉวยเงินในกระป๋องเก็บเงินของตนที่ด้านหลังร้าน จึงได้เข้าทำการควบคุมตัวไว้ พร้อมกับพยายามเจรจาเรียกร้องค่าเสียหาย โดยให้ น.ส.เอ๋ โทรศัพท์ติดต่อกับผู้ปกครองให้มาร่วมเจรจาด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาได้เคยถูกขโมยเงินหายไปลักษณะนี้แล้วหลายครั้ง แต่ไม่ทราบว่า ใครเป็นคนขโมยไป
แต่เมื่อสังเกตเห็น น.ส.เอ๋ ซึ่งมักจะมายืนคอยแฟนหนุ่ม อยู่ที่บริเวณด้านหลังร้านหลายครั้ง เป็นผู้ลงมือกระทำการดังกล่าว จึงได้มั่นใจว่า น.ส.เอ๋ เป็นผู้ก่อเหตุมาโดยตลอดตั้งแต่ต้น เนื่องจากที่ผ่านมา น.ส.เอ๋ ได้เดินทางมาหาแฟนหนุ่ม ซึ่งเรียนอยู่ที่วิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่ง ในฉะเชิงเทรา และ มีบ้านอยู่ใกล้กันกับตนบ่อยครั้ง โดยมีทรัพย์สิน คือ เงินสดที่ขายของได้ ในที่เก็บเงินของตนหายไปเกือบทุกครั้ง ซึ่งไม่ทราบจำนวนแน่ชัด แต่อยู่ที่การเจรจาชดใช้ในครั้งนี้ตนจึงจะยอมความ
นางประยงค์ กล่าวอีกว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาตนได้พยายามให้โอกาส ด้วยการยังไม่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยอมเจรจาด้วย โดยการให้ผู้ก่อเหตุ ติดต่อกับผู้ปกครองนำเงินที่ถูกขโมยไปมาชดใช้คืนแก่ตน แต่ น.ส.เอ๋ กลับพูดคุยเจรจาไม่รู้เรื่อง และไม่มีผู้ปกครองเดินทางมาไกล่เกลี่ยปัญหาให้ ซึ่งทราบว่าเด็กไม่กล้าที่จะบอกผู้เป็นบิดา โดยโทรศัพท์บอกแต่เพียงผู้เป็นมารดา ซึ่งบ้านอยู่ห่างไกล จนไม่สามารถเดินทางมาได้ ตนจึงได้ตัดสินใจที่จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้
ขณะที่ น.ส.เอ๋ กล่าวยอมรับว่า ได้เคยขโมยเงินจากแม่ค้ารายนี้ไปหลายครั้งจริง โดยนำไปใช้จ่ายส่วนตัว และนำไปเที่ยวกับแฟนหนุ่ม ซึ่งปกติตนพักอาศัยอยู่กับบิดา ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และจะเดินทางมาหาแฟนหนุ่ม ที่บริเวณตลาดแห่งนี้อยู่เป็นประจำ บ่อยครั้ง
“หากถูกดำเนินคดีก็จะยอมให้ตำรวจดำเนินคดี เพราะตนคงไม่มีเงินมาชดใช้ให้กับเขา” น.ส.เอ๋ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.บุญสฤษดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน ถึงความแน่ชัดว่ามีการก่อเหตุจริงหรือไม่ มีทรัพย์สินสูญหายไปจำนวนเท่าใด และ การก่อเหตุเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วหรือยัง จึงยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาอะไร แต่จะพยายามให้คู่กรณีทั้งสองฝ่าย ไกล่เกลี่ยยอมความกัน เพราะเกรงว่า เด็กนักเรียนสาวจะเสียอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะผู้สื่อข่าวกำลังปฏิบัติหน้าที่ทำข่าวอยู่ที่บริเวณ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นั้นแฟนหนุ่มซึ่งเป็นนักศึกษาอาชีวะ แห่งหนึ่งพร้อมพวกประมาณ 20 คน ได้พยายามขัดขวางไม่ให้ผู้สื่อข่าวนำเสนอข่าวนี้
ฆ่ารัดคอชิงทรัพย์เฒ่าเงินกู้ดับคาเตียงนอน
อีกรายเมื่อเวลา 11.15 น. ร.ต.ท.อำนาจ เชาเทอรี่ ร้อยเวร สภ.เมืองสตูล ได้รับแจ้งพบศพถูกฆ่ารัดคอ ที่ห้องแถวเลขที่ 322 ถนนสมันตประดิษฐ์ อ.เมือง จ.สตูล จากนั้นจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่วิทยาการ และแพทย์เวร รพ.สตูล เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบศพทราบชื่อคือ นายดม วงศ์สวัสดิ์ อายุ 63 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.ตรัง มาเช่าบ้านอยู่ห้องแถวหลังดังกล่าว สภาพศพนอนคว่ำ ใส่ผ้าขนหนูตัวเดียว ถูกมัดเท้าด้วยเสื้อ และถูกรัดคอด้วยเชือกในล่อน ตายอยู่บนเตียงนอน ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8-10 ชม.อยู่บนเตียงนอนภายในห้อง ภายในห้องพบมีการเปิดทีวีทิ้งไว้ และที่ลิ้นชักหัวเตียงนอนถูกรือค้นกระจัดกระจาย จากการชันสูตรพลิกศพบริเวณใบหน้าถูกทุบด้วยของแข็งยุบ ฟันปลอมหล่นกระจาย นอกจากนั้นภายในบ้านก็มีการรื้อค้นขายของกระจายกระจายและภายในบ้านมีรถจยย.จอดอยู่ จำนวน 13 คัน มีรอยถูกรือค้นใต้เบาะนั่งจยย.จำนวน 3 คัน
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพในการปล่อยกู้เงินและรับจำนำรถจยย.และทองคำและเป็นคนที่ชอบเล่นการพนัน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกลับจากเล่นการพนันและมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนตามมาแล้วได้ทำร้านร่างกายพร้อมกับจับผู้ตายมัดเท้าและรัดคอจนตายจากนั้นก็ได้ทำการชิงทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท นาฬิการาโดเรือนทอง 1 เรือน เงินสดกว่า 5 หมื่นบาท หลบหนีไป เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป้นการฆ่าชิงทรัพย์ซึ่งจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป