จับ สตอ.แสบ ขายปืนป่วนใต้

เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 23 ส.ค. ร.ต.ท.ศรเพชร ตันติอมรชัยกุล ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุยิงกันตายบริเวณสี่แยกตลาดบน หมู่ 2 บ้านเจ๊ะเก ต.บาโงสะโต จึงนำกำลังตำรวจทหาร เดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ยามาฮ่า สีเขียว ไม่ติดป้ายทะเบียน ล้มตะแคงอยู่บนถนน มีคราบเลือดติดรถเต็ม บนพื้นถนนข้างรถพบหัวกระสุนปืน .38 ตกอยู่จำนวน 2 หัว

ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ระแงะ และเสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อนายดายิ มามุ๊ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 6 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นอุสตาซ หรือครูสอนศาสนาโรงเรียนตาดีกา บ้านปูโง๊ะ ต.กาลิซา อ.ระแงะ ถูกยิงด้วยกระสุนปืน .38 เข้ากลางหลัง 3 นัด สอบสวนทราบว่า ผู้ตายได้ขี่รถ จยย.จะไปสอนหนังสือที่โรงเรียน ถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน นั่งรถปิกอัพโตโยต้า สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ขับแซงประกบแล้วมือปืนที่นั่งกระบะหลังใช้ปืนพกกระหน่ำยิงใส่ 3 นัดซ้อน ก่อนหลบหนีไป สงสัยสาเหตุกลุ่มโจรใต้ สร้างสถานการณ์

ต่อมาเวลา 09.20 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.ณรงค์บัวคง ร้อยเวร สภ.อ.เมืองนราธิวาส ไปสอบสวนเหตุยิงกันตายบนถนนหน้ามัสยิดบ้านโคกสุมุ หมู่ 3 ต.บางปอ พบศพนายมูหมัดต่อ เพชรอาแว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130/1 หมู่ 9 ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ตะโล๊ะแน็ง ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้ากลางหลัง 1 นัด และศีรษะ 1 นัด นอนจมกองเลือดข้างรถ จยย.ยามาฮ่า สีน้ำตาล ทะเบียน ฌ-3753 นราธิวาส เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายขี่รถ จยย.กลับจากบ้านญาติ ถึงที่เกิดเหตุถูกแก๊งโจรใต้ยิงทิ้งเพื่อสร้างความปั่นป่วน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ตอนค่ำวันที่ 22 ส.ค.49 ขณะที่นายอิสมาแอ มะแอ อายุ 37 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากกินน้ำชาในตลาดรือเสาะ มุ่งหน้ากลับบ้าน ผ่านบ้านปูโป๊ะ หมู่ 2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ถูกแก๊งโจรใต้ตามประกบยิงถล่มด้วยปืนเอ็ม 16 ร่างพรุนเสียชีวิตคาที่ ตำรวจและทหารไปตรวจที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 16 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ที่ จ.ปัตตานี เย็นวันที่ 23 ส.ค. พ.ต.อ.ถวัลย์ นคทราวงศ์ ผกก.สภ.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นำกำลังไปตรวจสอบเหตุชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิตบนถนนสายบ้านปรัง-ท่าเรือ หมู่ 1 ต.บ่อทอง ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือด ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.โคกโพธิ์ และเสียชีวิตต่อมา

ทราบชื่อนายประวัติ สุขวรรณ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 3 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ ทราบขนาดเข้าลำตัว 3 นัด สอบสวนทราบว่าผู้ตายขี่รถ จยย.กลับจากทำงานที่โรงงานน้ำยางเขต อ.หนองจิก มีภรรยานั่งซ้อนท้าย มุ่งหน้ากลับบ้าน ถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายประกบยิงถล่มเป็นเหตุให้เสียชีวิต เบื้องต้นสงสัยแก๊งโจรใต้สร้างสถานการณ์ เพราะผู้ตายไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใครมาก่อน

บ่ายวันเดียวกัน นายมานิต วัฒนเสน ผวจ.สตูล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนเจริญ สุวรรณโณ ผบก.ภ.จ.สตูล นำกำลังวางแผนจับกุม ส.ต.อ.สุริยัน หมาดทิ้ง อายุ 36 ปี สังกัด สภ.อ.รามัน จ.ยะลา ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม โดยจับกุมได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์สตูล พร้อมของกลางปืนพก .38 จำนวน 1 กระบอก ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน หมายเลขประจำปืนตราโล่ ตร.146 หมายเลขทะเบียน เอส เค 0871 แจ้งข้อหามีอาวุธปืนในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

นายมานิตกล่าวภายหลังจับกุมว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีขบวนการค้าอาวุธส่งอาวุธมาขายในพื้นที่ จ.สตูล และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยส่งผ่านทางพัสดุไปรษณีย์สตูล ล่าสุดมีกล่องพัสดุต้องสงสัยจ่าหน้ากล่องถึง ส.ต.อ.สุริยัน หมาดทิ้ง อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 3 ต.ควนขัน อ.เมืองสตูล ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอด จึงนำกำลังซุ่มจับกุมไว้ได้ ขณะที่ ส.ต.อ.สุริยันเดินทางมารับกล่องพัสดุ ตรวจสอบภายในกล่องมีปืนพกขนาด .38 หมายเลขประจำปืนตราโล่ดังกล่าว

ผวจ.สตูลกล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่า พรรคพวกส่งมาจากต่างจังหวัด นำไปขายใน จ.สตูล และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ภายหลัง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 49 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ส่งกล่องพัสดุให้กับ ส.ต.อ.สุริยันรวมทั้งสิ้น 14 ครั้ง จำนวน 26 ชิ้น ต้นทางส่งมาหลายจังหวัด เช่น จ.ขอนแก่น แพร่ อุตรดิตถ์ สมุทรปราการ ส่วนปลายทางมีทั้งที่ทำการไปรษณีย์สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ปืนที่ส่งมามีทั้งขนาด .357 ขนาด .38 และขนาด .45 คาดว่าปืนทั้งหมดนำไปขายให้กับกลุ่มโจรใต้ นำมายิงเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งได้สั่งให้ ตำรวจสอบขยายผลติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องให้สิ้นซาก

ต่อมาตำรวจนำตัว ส.ต.อ.สุริยันไปค้นบ้านท้องที่หมู่ 3 ต.ควนขัน อ.เมืองสตูล พบปืนสงครามเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 26 นัด แมกกาซีน 1อัน กระสุนปืน .38 แบบลูกซ้อมยิง 25 นัด กระสุนปืน 11 มม. 46 นัด ปืนลูกกรดยาว 1 กระบอก กล้องเล็งติดปืนยาว 1 ตัว บัญชีเงินฝากธนาคาร 3 เล่ม มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกัน ตำรวจกระจายกำลังตรวจค้นบ้านคนสนิทของ ส.ต.อ.สุริยันอีกหลายหลัง แต่ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้ายะลา (ศปก.สน.ยะลา) เวลา 09.30 น. วันที่ 23 ส.ค. พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 เป็นประธานในพิธีเปิดอบรมโครงการวิทยากรพัฒนาหมู่บ้านพิทักษ์สันติสุข รุ่น 1 จัดอบรมให้กับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติงานด้านมวลชนสัมพันธ์ใน 4 จังหวัด คือ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จำนวน 5 รุ่น รวมทั้งสิ้น 300 นาย โดย พล.ต.ท.อดุลย์กล่าวว่า ปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องยอมรับว่างานด้านมวลชนสัมพันธ์เป็นแนวทางในการแสวงหาความร่วมมืออันดีระหว่างตำรวจและประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน ทำให้ประชาชนหันมาให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ของรัฐมากขึ้น

ผบช.ภ.9 กล่าวอีกว่า หากปราศจากความร่วมมือจากประชาชนแล้ว แม้ว่าตำรวจจะทุ่มเทกำลังคน หรืออุปกรณ์ และความพยายามมากเพียงใด ก็ไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยแบบสมบูรณ์ได้ ตำรวจชุดมวลชนสัมพันธ์ที่ได้ผ่านการอบรมจะได้นำความรู้ไปใช้ โดยตำรวจทุกนายจะต้องเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมประเพณีของคนในพื้นที่ด้วย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ยะลา ได้สั่งให้ ผบก.ภ.จ.ยะลาเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนแล้ว ส่วนที่กลุ่มก่อความไม่สงบหันมาทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์มากขึ้น เป็นเพราะกลุ่มก่อความไม่สงบไม่สามารถปฏิบัติการกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ ดังนั้น จะได้จัดชุดมวลชนสัมพันธ์เข้าไปชี้แจงให้แก่ประชาชนได้ทราบ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อไป

ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลออกมาระบุว่า กลุ่มเบอร์ซาตูเตรียมก่อเหตุใหญ่ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ว่า เป็นข่าวใหม่ กองทัพบกยังไม่ได้รับข้อมูล ต้องขอเวลาไปศึกษา หากเป็นกลุ่มเบอร์ซาตูจริงต้องไปศึกษา เพราะปกติกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น คอร์ออดิเนต จะเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติ เมื่อถามว่า ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้กระทบกับการแก้ปัญหาความไม่สงบหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 เตรียมกำลังไว้แล้ว โดยไม่เกี่ยวข้องกับกำลังที่ใช้ในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่

ส่วนที่ จ.เชียงราย เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน น.ส.สุกัญญา ไทยมานะ ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย นำคณะครูอาจารย์และนักเรียนนักศึกษาจัดงานพิธีชูเกียรติครูจูหลิง ปงกันมูล ที่ตกเหยื่อโจรใต้ โดยมีการนิมนต์พระราชสิทธินายก เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ทำพิธีนั่งสมาธิเพื่อส่งแรงใจช่วยให้ครูจูหลิงฟื้นคืนสติ และเป็นกำลังใจให้กับครอบครัว พร้อมกับได้จัดนิทรรศการภาพถ่ายของครูจูหลิง มีการรวบรวมภาพวาดฝีมือครูจูหลิง จำนวน 40 ภาพ จัดแสดงและเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้ร่วมลงนามส่งแรงใจ นอกจากนี้ยังมีการจัดเสวนาในหัวข้อเรื่อง ครูจูหลิง คนดีศรีอาชีวะ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเป็นนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวะที่ดี และทำความดีตามรอยครูจูหลิงด้วย

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึง กรณีที่ครูช่วยราชการพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้องขอให้ขยายเวลาการช่วยราชการต่อว่า ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ต้องให้ครูช่วยราชการลงตำแหน่งในสำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) ที่สมัครใจ แต่ทั้งนี้ สพท. ต้องพิจารณาความเหมาะสม และสาขาวิชาที่ขาดแคลนในโรงเรียนด้วย ไม่เช่นนั้นครูจะแห่ขอตำแหน่งลงที่โรงเรียน ประจำจังหวัดกันหมด ทั้งนี้ จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในสัปดาห์หน้า

เพื่อเป็นนโยบายให้ สพท. ต่างๆ ร่วมมือในการบรรจุครูเหล่านี้ลงตำแหน่งนอกเขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว เพื่อสนับสนุนให้ครูที่เคยลำบากในพื้นที่มานานได้อยู่ในเขตพื้นที่ที่ต้องการ ส่วนครูอัตราจ้างที่บรรจุเข้าไปแทนกลุ่มครูที่ขอไปช่วยราชการนอกพื้นที่นั้นจะมีการจ้างต่อแน่นอน เพราะล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการต่อสัญญาเป็นครูอัตราจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2549 เป็นต้นไป

ต่อมาเวลา 19.40 น. วันที่ 23 ส.ค. พ.ต.อ.ถวัลย์ นคทราวงศ์ ผกก.สภ.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นำกำลังตำรวจทหารไปตรวจสอบเหตุทหารถูกยิงตายที่ตลาดนัดวันพุธ หมู่ 2 บ้านต้นโคกจันทร์ ต.สุยง ที่เกิดเหตุกลางตลาดหลังแผงขายสินค้า พบเลือดกองใหญ่ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.หนองจิก และเสียชีวิตต่อมา ทราบชื่อ ส.อ.สมชาย มีแก้ว อายุ 47 ปี สังกัดหน่วย สห.ค่ายอิงคยุทธบริหาร ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด เข้ากลางหลังพรุน 4 นัด สอบสวนทราบว่า

ก่อนเกิดเหตุผู้ตายไปรับภรรยา ซึ่งขายของอยู่ในตลาดนัด ขณะผู้ตายช่วยขนข้าวของอยู่นั้น คนร้ายบุกยิงถล่ม 4 นัดซ้อน แล้วหยิบเอาปืนพก 9 มม. ของผู้ตายติดมือไปด้วย หลังเกิดเหตุชาวบ้านช่วยยิงสกัด จนคนร้ายเห็นท่าไม่ดีทิ้งรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ทะเบียน กนย 902 ปัตตานี ไว้ที่ริมตลาดแล้ววิ่งหนีเข้าป่า ในชั้นนี้มุ่งปมกลุ่มโจรใต้สร้างสถานการณ์ จึงยึดรถไว้ตรวจสอบและติดตามจับกุมต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ