เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 ก.ค. พ.ต.ท. ปราโมทย์ จันทร พนักงานสอบสวน(สบ.2) สน.บางโพงพาง
ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนบุกเข้าปล้นทรัพย์ ภายในร้านสาธุเจริญยนต์ ปากซอยสาธุประดิษฐ์ 53 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพ.ต.อ.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมาสุข ผกก.สน. บางโพงพาง พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.กฤษณ์ แจ้งแสง สว.สส.สน.บางโพงพาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน
พบที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ปลูกติดกัน 10 ห้อง เปิดเป็นร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ พบกองเลือดอยู่บริเวณด้านล่าง และชั้นลอย ของร้านดังกล่าว
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งร.พ.เจริญกรุงประชารักษ์ ทราบชื่อต่อมา นายสมชาย ฉันทวัฒนกิจ อายุ 57 ปี เจ้าของร้าน ถูกคนร้ายรุมทำร้ายจนศีรษะแตก ปากแตก นายนรินทร์ ฉันทวัฒนกิจ อายุ 24 ปี ลูกชาย ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนตีเข้าที่ศีรษะและใบหน้า ทำให้ฟันหักไปหลายซี่ และนางเซียมจือ แซ่ฉั่ว อายุ 64 ปี พี่สาวนายสมชาย ถูกคนร้ายใช้เข็มขัดรัดคอ และใช้แพ็กนมสดครึ่งโหลทุบที่ศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
จากการสอบสวนนายสมชาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 06.00 น. ตื่นมาใส่บาตรพระตอนเช้า
หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว จะเปิดประตูเหล็กบานเล็กหน้าบ้าน เพื่อเตรียมตัวเปิดร้าน ระหว่างกำลังขึ้นไปทำกับข้าวบนชั้นลอย มีคนร้ายจำนวน 3 คน จำได้ว่าคนร้ายทั้งหมด สวมเสื้อช็อปสีเทา กางเกงยีนสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกผ้าสีน้ำตาล มีหน้ากากอนามัยปิดปากจมูก 2 คน อีกคนสวมหมวก แต่ไม่ใส่หน้ากาก บุกเข้ามาทำร้ายตนพร้อมกับยิงปืนขู่ 1 นัด แล้วจับตนมัดนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น หลังจากนั้นคนร้าย 2 คนได้ขึ้นไปบนชั้นลอย พบลูกชาย และพี่สาว ก็เข้ารุมทำร้ายและจับมัดไว้ในห้องครัวเช่นเดียวกัน
นายสมชาย ให้การต่อว่า หลังจากนั้นคน ร้ายได้รื้อค้นทรัพย์สินภายในห้อง ได้เงินสดไปกว่า 5 แสนบาท โทรศัพท์ 2 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง
ก่อนที่คนร้ายจะได้ยินมีเสียงคนมาตะโกนเรียกตนที่หน้าบ้าน เลยตกใจรีบวิ่งออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดเลยหน้าร้านไปประมาณ 30 เมตร ขับหลบหนีไป นางสุดา ฉันทวัฒนกิจ ภรรยานายสมชาย ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.20 น. ขณะที่ตนกำลังนอนอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน สามีขึ้นมาเรียกขอความช่วยเหลือตนที่ห้องนอน ในสภาพได้รับบาดเจ็บเสื้อเปื้อนเลือด บอกว่ามีคนร้ายเข้ามาในร้าน และทำร้ายลูกกับพี่สาวนอนจมกองเลือดอยู่ชั้นลอยที่กั้นเป็นห้องครัว ตนจึงรีบวิ่งลงมาให้การช่วยเหลือส่งร.พ. ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
ทางด้านพ.ต.อ.กสิณ กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุคนร้ายได้ทิ้งหลักฐานต่างๆ ไว้หลายอย่าง ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ได้เก็บลายนิ้วมือแฝง พร้อมทั้งสอบปากคำผู้เสียหาย
เบื้องตนสามารถจำรูปพรรณสันฐานของหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุได้ว่า น่าที่จะเป็นคนที่เคยเข้ามาติดต่อที่ร้าน ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องทะเละวิวาทกับใคร โดยผู้เสียหายได้เป็นที่ปรึกษา กก.ตร.สน.บางโพงพาง ประกอบธุรกิจจำหน่ายรถจักรยาน ฃยนต์มาหลายสิบปี ในที่เกิดเหตุยังสามารถเก็บหัวกระสุนปืน และลูกปืนขนาด .38 ได้ 1 นัด จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน สำหรับการปล้นในครั้งนี้ผู้เสียหายยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมต้องเข้ามาทำร้ายคนในครอบครัวจนได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ คิดว่าไม่น่าที่จะประสงค์ต่อทรัพย์เพียงอย่างเดียว จึงได้สั่งการไปทางพนักงานสอบสวนให้สอบสวนผู้เสียหายให้ชัดเจนถึงประเด็นที่ต้องสงสัยในคดี และให้ฝ่ายสืบสวนออกหาข่าวในพื้นที่ใกล้เคียง หาพยานบุคคลที่เห็นยานพาหนะของคนร้าย และรูปพรรณสันฐานของคนร้ายทั้ง 3 คน
พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า สำหรับหลักฐานร่องรอยที่คนร้ายทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ สามารถเก็บไปเปรียบเทียบกับทะเบียนประวัติคนร้ายได้ โดยคนร้ายรายนี้น่าที่จะเป็นกลุ่มคนที่รู้ความเคลื่อน ไหวของผู้เสียหาย ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ
รายงานข่าวแจ้งว่า พยานที่เป็นคนเรียกผู้เสียหายจากหน้าบ้าน คือ พระที่มารับบิณฑบาตทุกเช้าที่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ แต่ในวันนี้เห็นผิดสังเกต ผู้เสียหายไม่ออกมาจึงส่งเสียงเรียก ทำให้คนร้ายตกใจและวิ่งหนีสวนออกมา จนลืมหมวกผ้าทิ้งไว้บนรถจักรยานยนต์ 1 ใบ รวมถึงรอยเท้าที่คนร้ายทิ้งไว้เพราะเหยียบย่ำเลือดของผู้เสียหายเป็นทาง
ทันสมัยใส่หน้ากาก โจรหวัด ปล้นเสี่ยร้านจยย.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ทันสมัยใส่หน้ากาก โจรหวัด ปล้นเสี่ยร้านจยย.