คมชัดลึก :กองทัพ วอนตำรวจอย่าให้ข่าวจนทำให้สังคมมองภาพทหารในแง่ลบ ใครอยู่เบื้องหลังต้องพูดให้ชัด
(18ก.ค.) แหล่งข่าวจากกองทัพบก เปิดเผยว่า ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้มีการทำหนังสือถึงกองทัพบก ในการขอตัวจ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารสัง กัดศูนย์สงครามพิเศษ ที่เป็นหนึ่งในมือปืนทีมลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯที่ถูกออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม ถึงขณะนี้กองทัพบกยังไม่ทราบว่า จ.ส.อ.ปัญญา หลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ซึ่งพล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ก็ยืนยันว่าในพื้นที่ทัพภาคที่4 ไม่ได้ให้ที่หลบซ่อน ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 4 ก็พยายามตามหาตัวอยู่ แต่ก็ยังหาไม่เจอ
"ตอนนี้การให้ข่าวของตำรวจที่ออกมาระบุว่า คนนั้นคนนี้อยู่เบื้องหลัง ทำให้สังคมมองภาพทหารอย่างหวาดระแวง ดังนั้นหากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังก็จะต้องออกมาเปิดเผยให้แน่ชัด อย่ามากั๊กๆแบบนี้ ตอนนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าผู้ใหญ่ในกองทัพเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบยิง นายสนธิ มันดูจะเป็นการลงโทษโดยที่ยังไม่ได้มีการไต่สวนมูลความจริง เพราะหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนออกมาก็ยังไม่ได้มีความแน่ชัด เพียงแต่มีการวิเคราะห์และเดากันเอาเอง พยายามเชื่อมโยงคนนั้นคนนี้เข้ามาเป็นตัวตุ๊กตา"
แหล่งข่าวนายทหาร คนเดิมบอกด้วยว่า ตอนนี้ไม่เพียงเฉพาะ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เท่านั้นที่ตกเป็นจำเลยสังคมว่าอาจเป็นคนอยู่เบื้องหลังการลอบยิง นายสนธิ แต่ยังมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมไปถึง พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของจ.ส.อ.ปัญญา ก็โดนห่างเลขด้วยทั้งนี้ รวมไปถึง พ.อ.(ส.)ที่ทางตำรวจออกมาเปิดเผยว่าเป็นผู้รับงานจากผู้ใหญ่ในกองทัพอีกที
“ตอนนี้เหมือนเป็นการใช้วิธีการดูจากเหตุการณ์ต่างๆ และนำมาเชื่อมโยงกัน และหวาดวิเคราะห์ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คนเสพข่าวก็มัน แต่คนที่ตกเป็นเป้าหมาย เช่นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลายในกองทัพ ที่เป็นทหารอาชีพเกิดความเสียหาย เพราะจริงหรือไม่จริงไม่มีใครรู้ ดังนั้นการให้ข่าวจะต้องระมัดระวังมันจะเกิดความเสียหายต่อเนื่อง ทั้งนี้ผบ.ทบ.ไม่ได้สั่งการอะไรพิเศษเกี่ยวคดีดังกล่าว แต่กองทัพพร้อมให้ความร่วมมือกับทางตำรวจอย่างเต็มที่หากมีการร้องขอความช่วยเหลือมายังกองทัพ” แหล่งข่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.อ.(ส.) จบหลักสูตรรบพิเศษ จากศูนย์สงครามพิเศษ เคยสังกัดกองพันจู่โจม (พัน จจ.)ค่ายเอราวัณ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.พลบุรี ปัจจุบันรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรองเสนาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เนื่องจากมีนิสัยที่สุภาพ และเงียบขรึมไม่ค่อยเหมือนกับทหารยุคปัจจุบัน มักถูกนายทหารชั้นผู้ใหญ่เรียกมาใช้งานด้านการปฏิบัติการทางลับเสมอ