ระดมช่วยน่าน จมดับ 2 หาย 2

"น้ำเริ่มลด ร้านค้าถือโอกาสขึ้นราคา"


สถานการณ์น้ำท่วม จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ระดับน้ำในหลายอำเภอเริ่มลดลงบ้างแล้วแต่ก็อยู่ในขั้นวิกฤติ โดยในเขตเทศบาลเมืองน่าน น้ำได้ลดลงเรื่อยๆ แต่บางจุดยังสูงกว่า 1 เมตร ด้านการช่วยเหลือ นายนามโรจน์ ศรีวรรณนุสรณ์ นายกเทศมนตรี ได้นำเจ้าหน้าที่ไปรับสิ่งของเครื่องใช้และอาหารที่กลุ่มแม่บ้านต่างๆได้นำมาบริจาคที่สำนักงานเทศบาล ซึ่งใช้เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จากนั้นนำใส่เรือท้องแบนจำนวน 25 ลำ

ไปให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามชุมชนต่างๆรวม 28 ชุมชน ส่วนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนำเครื่องปั่นไฟไปติดตั้งตามจุดต่างๆเพื่อให้หน่วยงานราชการที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านได้มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่บรรดาร้านค้าถือโอกาสรีดราคาสินค้าแพงขึ้นเกือบเท่าตัว เช่น ไข่ไก่จากแผงละ 70-80 บาท เป็นแผงละ 150 บาท และปลานิลทอดเดิมตัวละ 15-20 บาท ก็เพิ่มเป็นตัวละ 50 บาท


"บางพื้นที่ยังจมมิด เร่งหาทางช่วยเหลือ"


ส่วนในพื้นที่รอบตัวเมืองน่านยังคงจมอยู่ใต้บาดาลโดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 10 บ้านดู่ต้นฮ่าง ต.ดู่ใต้ ซึ่งอยู่ติดกับริมแม่น้ำน่าน ระดับน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 2-2.50 เมตรส่งผลให้หมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากขาดเครื่อง อุปโภคบริโภค โดยเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาค 3 ได้นำเฮลิคอปเตอร์ขนเสบียงนำใส่เรือท้องแบนออกไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านเพื่อประทังชีวิต แต่ยังไม่เพียงพอเนื่องจากเรือมีอยู่อย่างจำกัด

ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดได้ประสานทหาร ร.พัน 18 จ.นครสวรรค์ และ ช.พัน 4 จ.พิษณุโลก เพื่อให้ส่งกำลังพลและเรือท้องแบนมาเพิ่ม รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยรบพิเศษเพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือทางอากาศให้แก่ชาวบ้านที่ติดเกาะต้องอาศัยอยู่บนหลังคาบ้าน หากอากาศเปิดก็จะนำสิ่งของไปหย่อนส่งให้ทันทีเพื่อให้ชาวบ้านได้รับความช่วยเหลือเร็วขึ้น


"ความช่วยเหลือยังไปไม่ทั่วถึง"


ขณะที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำอาสาสมัครกว่า 100 นาย และเครื่องอุปโภคบริโภคไปช่วยเหลือชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือกิ่งอ.ภูเพียง อ.เวียงสา อ.นาน้อย และ อ.นาหมื่น ซึ่งรองรับน้ำจาก อ.เมือง ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันมีชาวบ้านโทรศัพท์ไปยังสถานีวิทยุต่างๆในจังหวัดเพื่อขอข้าวและสิ่งของเครื่องใช้เนื่องจากการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ไปไม่ทั่วถึง

สำหรับหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักและการช่วยเหลือของทางการยังเข้าไม่ถึงในขณะนี้ประกอบด้วย กิ่ง อ.ภูเพียง ที่ ต.ฝายแก้ว มีบ้านท่าล้อ และบ้านฝายแก้ว ต.ม่วงตึ๊ด บ้านม่วงตึ๊ด และบ้านร้องตอง ต.ท่าน้าว ที่บ้านท่าน้าว และ ต.นาปัง บ้านน้ำลัด และบ้านสบแก่น เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวมีสภาพเป็นแอ่งติดกับแม่น้ำน่านและมักถูกน้ำท่วมเป็นประจำ ส่วนถนนสายท่าวังผา-พะเยา กระแสน้ำได้ซัดสะพานข้ามลำห้วยน้ำโมง บ้านน้ำโมง ต.ผาตอ อ.สองแคว จนขาดทำให้รถวิ่งผ่านไม่ได้ ขณะที่การซ่อมสะพานก็ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ เพราะน้ำยังไหลเชี่ยวกราก


"นำสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือชาวบ้าน"


ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายโชดก วีรธรรม พูลสวัสดิ์ เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำสิ่งของพระราชทานจำนวน 1,000 ชุด ไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นในหมู่บ้านดอนมูล ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน ที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก นอกจากนี้ยังนำไปให้กับชาวบ้านที่ อ.ท่าวังผา ประกอบด้วย ต.ท่าวังผา ต.แสนทอง ต.ริม ต.ป่าคา และ ต.ศรีภูมิ

ขณะที่ในช่วงเย็น นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว. ศึกษาธิการ ได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วม โดยนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจที่ อ.ท่าวังผา อ.ปัว และ อ.ทุ่งช้าง เพื่อตรวจสอบความเสียหายของโรงเรียน พบว่ามีโรงเรียนที่เสียหาย 25 แห่ง ส่วนทั้งจังหวัดกว่า 50 โรงเรียน โดยนายจาตุรนต์เปิดเผยว่า ต้องเร่งฟื้นฟูและให้การช่วยเหลือโรงเรียนอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นจะเสนอให้จัดงบประมาณลงมาช่วยทันที


"ขอให้มั่นใจ ไม่กระทบอุตรดิตถ์"


นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมแล้ว 2 ศพ และสูญหาย 2 ราย แบ่งเป็นที่ อ.บ่อเกลือ 1 ศพ อ.เมือง 1 ศพ ส่วนผู้ที่สูญหายอยู่ใน อ.ท่าวังผา ทั้ง 2 ราย ขณะนี้ยังค้นหาไม่พบ

ทางด้านนายสุเทพ เลิศศรีมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า เขื่อนสิริกิติ์ยังรองรับน้ำจากแม่น้ำน่านที่ไหลมาจาก จ.น่าน ได้อีกประมาณ 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนขณะนี้อยู่ที่ 6,448.41 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 67.81 เปอร์เซ็นต์ โดยมีน้ำไหลเข้าเฉลี่ยวันละ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์ปกติ ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำในเขต อ.เมืองอุตรดิตถ์ มั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด


"พายุฝน พัดต้นไม้ล้ม โรงเรียนพังเสียหาย"


ที่ จ.พะเยา ว่าที่ร้อยตรีนพดล รัตนสุวรรณ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา กล่าวว่า หลังฝนตกติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอโซนหลังเขาของ จ.พะเยา ได้แก่ อ.เชียงคำ ประกอบด้วย ต.ฝายกวาง ต.แม่ลาว ต.ร่มเย็น ต.หย่วน และ ต.เวียง อ.ปง มี ต.งิม ต.ควร ต.ขุนควร ต.นาปรัง และ ต.ผาช้างน้อย และ อ.เชียงม่วน ต.สระ ต.บ้านมาง และ ต.เชียงม่วน สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนบางส่วน ส่วนการช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือบางส่วนแล้ว

ส่วนภาคอีสาน ที่ จ.อุบลราชธานี ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนและลมกระโชกแรงพัดถล่มในพื้นที่ อ.น้ำยืน นาน 2 ชม. ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นทับสายไฟฟ้าในเขตเทศบาลตำบลน้ำยืนส่งผลให้ไฟดับทั้งเมือง ทั้งนี้ นายประจักษ์ แสงคำ ส.อบจ.อุบลราชธานี เขต อ.น้ำยืน กล่าวว่า ความเสียหายจากพายุฝนดังกล่าวทำให้บ้านเรือนชาวบ้านในหมู่บ้านศรีอุดร หมู่ 4 ต.ยาง พังเสียหายไป 2 หลัง และบ้านนาหนองหว่า หมู่ 13 ต.โดมประดิษฐ์อีก 1 หลัง นอกจากนี้ ยังมีอาคารเรียนโรงเรียนบ้านสวายน้อย ต.ยางใหญ่ ถูกพายุพัดหลังคาเสียหายอีก 1 หลัง ขณะนี้หน่วยงานราชการได้เข้าช่วยเหลือแล้ว


"เร่งของบฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอุทกภัย"


ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ครม.ว่า ในการประชุม ครม.วันนี้ (22 ส.ค.) คณะกรรมการจะขอขยายอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ให้ครอบคลุมไปถึงการดูแลให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ จ.น่าน และจะของบฉุกเฉินซึ่งเป็นงบกลางจากรัฐบาลจำนวน 150 ล้านบาท เพื่อลงไปดำเนินการช่วยเหลือใน จ.น่าน ทันที ส่วนพื้นที่ จ.เชียงราย นั้น คณะกรรมการ ก็ดูแลอย่างเต็มที่

นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ระดมหน่วยงานในสังกัดเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยเป็นการเร่งด่วน เบื้องต้นได้ออกมาตรการจาก 3 หน่วยของกระทรวงคือ 1. กรมธนารักษ์ จะอนุมัติให้มีการยกเว้นการเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุเพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อการเกษตร เป็นเวลา 2 ปี 2. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดทำโครงการลดภาระหนี้ปลูกสร้างและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบอุทกภัย เหลือเพียง 1% เป็นระยะเวลา 6 เดือน และ 3. ธนาคารออมสิน จัดทำโครงการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ


"ระดมทีมแพทย์ช่วยเหลือ"


นายพินิจ จารุสมบัติ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้ระดมทีมแพทย์ พยาบาล และทีมควบคุมโรค จากจังหวัดพะเยา เชียงราย อุตรดิตถ์ แพร่ ลำปางและเชียงใหม่ 10 ทีม พร้อมเวชภัณฑ์ ชุดทำแผล ลงไปเสริมกำลังหน่วยแพทย์พยาบาลที่โรงพยาบาลน่าน ซึ่งมีผู้ป่วยประมาณ 300 ราย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เสริมกำลังหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการผู้ประสบภัยตามหมู่บ้านต่างๆที่ยังติดเกาะ รวมกว่า 70 ทีม เน้นหนักที่จุดวิกฤติคือ อ.ท่าวังผา หลายหมู่บ้านรถยนต์ยังเข้าไม่ได้ ต้องใช้เรือท้องแบนเดินทางแทน

ด้านนายดนุพร ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติงบประมาณจำนวน 150 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือปัญหาอุทกภัย จ.น่าน ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานกับกองทัพภาคที่ 3 มูลนิธิเอกชนให้ความช่วยเหลือเต็มที่ คาดว่าใน 1-2 วันนี้ หากฝนไม่ตกลงมาอีก ระดับน้ำจะลดสู่สภาพปกติ


"กำชับหน่วยราชการเร่งฟื้นฟูเร็วที่สุด"


นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำที่ท่วมได้ลดลงแล้ว คาดว่าวันที่ 22 ส.ค.ระดับน้ำบริเวณเขตเทศบาลจะแห้งหมด อย่างไรก็ตาม ในช่วง 4-5 วันนี้ยังคงมีร่องความกดอากาศต่ำครอบคลุมบริเวณภาคเหนืออยู่ จึงต้องคอยระมัดระวัง ในที่ประชุม ครม. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำชับหน่วย ราชการต่างๆเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะที่ จ.น่าน ได้ขอให้กันงบกลางไว้ 150 ล้านบาท

รวมทั้งให้กระทรวงการคลังอนุมัติเพิ่มวงเงินในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดจาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท ตามความจำเป็น สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกัน 3-4 วัน ไม่ใช่เพราะสิ่งก่อสร้างและสาธารณูปโภคกีดขวางทางน้ำตามที่ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย ระบุ


"ข้าราชการร่วมบริจาคกว่าล้านบาท"


พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. กล่าวว่า ขณะนี้ ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6 (เบลล์ 412 อีพี) จากฝูงบิน 201 รักษาพระองค์ กองบิน 2 ที่ติดตั้งอุปกรณ์ค้นหาและช่วยชีวิตเข้าไปในพื้นที่ที่ระดับน้ำท่วมสูงโดยลอยตัวเหนือพื้นที่พร้อมกับใช้รอกกว้านที่ติดตั้งมาสำหรับใช้ ในการช่วยชีวิต ทำการโรยตัวเจ้าหน้าที่ลงช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หรือนำผู้บาดเจ็บขึ้นมาเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำส่งโรงพยาบาลหรือที่ปลอดภัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 23 ส.ค. เวลา 09.00 น. นายจริย์วัฒน์ สันตะบุตร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ มอบเงินบริจาคจำนวน 1,076,467.80 บาท ให้แก่ นายขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือของไทย เงินบริจาคดังกล่าวเป็นเงินที่รวบรวมได้จากข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ และ สถานเอกอัครราชทูตฯ คณะทูตถาวรฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ ทุกแห่งทั่วโลก รวมถึงคนไทยที่อาศัยในต่างประเทศ


"พระเทพฯทรงห่วงใย ประทานถุงยังชีพ"


ทางด้านนายนรินทร์ เหล่าอารยะ นายก อบจ.น่าน เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากนายสำเริง เอี่ยมสะอาด รองราชเลขาธิการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน จึงพระราชทานถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัยที่ จ.น่าน ในวันที่ 23 ส.ค. จำนวน 1 คันรถบรรทุก 10 ล้อ และในวันที่ 25 ส.ค. อีก 1 คันรถ โดยให้ พ.อ.สมชัย เครือวิทย์ ผบ.จังหวัดทหารบกน่าน นำไปให้ชาวบ้านต่อไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์