"ดีเอสไอ" บุกทลายแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติรวม 14 คน
พร้อมของกลางมือถือเกือบ 100 คอมพิวเตอร์อีก 5 เครื่องแฉเป็นพวกไต้หวัน-จีน-พม่า อ้างเป็นจนท.รัฐ-สถาบันการเงินตั้งสนง.ในประเทศไทย แล้วโทรศัพท์ลวงเหยื่อในจีน-ไต้หวัน รวมทั้งประเทศอื่นๆ ในเอเชียให้โอนเงินผ่านเอทีเอ็ม มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบช.สำนักกิจการต่างประเทศ และคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผกก.สน.บางนา นายสมชาย พิชิต
สุรกิจ เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการทุจริตเกี่ยวกับบัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย และผู้แทนจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเป็นชาวไต้หวัน ชาวจีน และชาวพม่ารวม 14 คน
พร้อมของกลาง ประกอบด้วย
เครื่องโทรศัพท์มือถือ 70 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง, อุปกรณ์ติดตั้งระบบโทรศัพท์ VOIP, เอกสารบทสนทนาที่เตรียมไว้สำหรับพูดหลอกลวงประชาชน และคำให้การกับเจ้าหน้าที่หากถูกจับกุมตัวเป็นจำนวนมาก โดยกล่าวหาเป็นบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า
กลุ่มคนร้ายแก๊งนี้ตั้งสำนักงานคอล เซ็นเตอร์ (call center) ในประเทศไทย โดยสุ่มโทรศัพท์หาผู้เสียหายที่ประเทศจีนและไต้หวัน ผ่านระบบ VOIP (Voice Over Internet Protocal) ระหว่างประเทศ โดยอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือสถาบันการเงิน หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มเข้าบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาที่เปิดเตรียมไว้ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะโทรศัพท์หลอกลวงให้โอนเงินในประเทศจีน, ไต้หวัน และประเทศในภูมิภาคเอเชียอีกหลายประเทศและมีเครือข่ายสำนักงานคอล เซ็นเตอร์ในต่างประเทศ โดยมีลักษณะเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.ค.เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักกิจการต่างประเทศ และคดีอาชญา กรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางนา จับกุมนายเจิ้น หมิง ซวิน กับพวกรวม 14 คน ที่บ้านเลขที่ 21/753 หมู่บ้านบางนาวิลล่า ซอยบางนา-ตราด 16 แขวงบางนา เขตบางนา กทม. พร้อมของกลางจำนวนมาก
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า
เบื้องต้นตั้งข้อกล่าวหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาหลอกลวงและฉ้อโกงเงินนั้น อยู่ระหว่างประสานผู้เสียหายในต่างประเทศ ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษประสานงานกับสถานกงสุลไต้หวันและสถานเอกอัครราชทูตอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องติดตามผู้ได้รับความเสียหายในต่างประเทศและดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาที่อยู่ในต่างประเทศเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีพลเมืองดีแจ้งไปยังสน.บางนา ว่า
บ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหาในหมู่บ้านบางนาวิลล่า มีบุคคลต่างด้าวเข้า-ออกจำนวนมากจนน่าสงสัย สน.บางนาจึงประสานไปยังดีเอสไอสืบสวนโดยส่งสายปลอมตัวเป็นคนขับแท็กซี่ไปจอดใกล้ๆ บ้านกลุ่มต้องหา กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหา 2 คนหลงกลเรียกใช้บริการ และพูดคุยกันเป็นภาษาจีนบนรถ โดยระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ที่แฝงตัวเป็นโชเฟอร์แท็กซี่บันทึกเสียงไว้นำไปให้ล่ามแปลกระทั่งรู้ข้อมูลนำไปสู่การจับกุมได้ดังกล่าว