รถร่วมฯซิ่งมรณะ ม.1 พลัดร่วงลงพื้น โดนล้อทับหัวเละ

พ.ต.ท.ไพรัช นิธิธรรมจรรยา สารวัตรเวร สภ.ต.ปากคลองรังสิต อ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุเด็กนักเรียนหล่นจากรถเมล์และถูกทับซ้ำได้รับบาดเจ็บสาหัส บนถนนติวานนท์ขาเข้า จ.ปทุมธานี ปากทางเข้าวัดเทียนถวาย หมู่ 6 ต.บ้านใหม่ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผกก. พ.ต.ท.ไพบูลย์ สุขวัฒนานุกิจ รอง ผกก.ป. นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ไปตรวจสอบ

วิ่งระหว่างรังสิต-ปากเกร็ด ทะเบียน 10-0140 ปทุมธานี หมายเลขข้างรถ 367-14 จอดดับเครื่องอยู่ข้างถนน ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้โดยสารกว่า 20 คน โดยมีร่าง ด.ช.สุทธิเกียรติ เอื้อนอบเชย หรือ น้องป๊อบ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1/1 โรงเรียนหอวังนนทบุรี อยู่ในชุดนักเรียนนอนหงายอยู่ริมถนน มีเลือดออกปากและจมูกหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯจึงรีบนำส่ง รพ.กรุงสยามเซนต์คาลอส แพทย์พยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตในเวลาต่อมา สภาพศพถูกล้อรถเมล์ทับกะโหลกศีรษะด้านซ้ายยุบและแขนซ้ายหัก

รถเมล์คันดังกล่าวมีนายวัลลภ พ่วงเจริญ อายุประมาณ 40 ปีเศษ เป็นคนขับ พาผู้โดยสารเกือบ 20 คน ออกจากตลาดปากเกร็ด จ.นนทบุรี มุ่งหน้าไปรังสิต พอถึงป้ายรถประจำทางสี่แยกสวนสมเด็จย่า อ.ปากเกร็ด มีผู้โดยสารขึ้นมาอีก 5 คน หนึ่งในนั้นคือ ด.ช.สุทธิเกียรติ ผู้ตาย ที่เพิ่งเลิกเรียนขึ้นรถจะเดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงใกล้จุดเกิดเหตุ ด.ช.สุทธิเกียรติ ลุกจากเบาะนั่งตรงกลางเดินไปที่ประตูหลังเพื่อกดกริ่งจะลงป้ายปากทางวัดเทียนถวาย ขณะที่รถยังไม่ทันหยุดนิ่งได้ยินเสียงผู้โดยสารร้องตะโกนว่ามีเด็กตกรถ คนขับจึงจอดรถที่ไหล่ทาง เมื่อชะโงกออกไปดูก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่าง ด.ช.สุทธิเกียรตินอนหงายอยู่ริมถนน จึงแจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯพาส่งโรงพยาบาล ส่วนนายวัลลภ โชเฟอร์รถเมล์ อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป

โชเฟอร์ขับรถด้วยความเร็วสูง วิ่งแซงซ้ายแซงขวามาแทบตลอดทาง เมื่อใกล้ถึงที่เกิดเหตุ ด.ช.สุทธิเกียรติลุกขึ้นกดกริ่งเพื่อจะลงป้ายหน้า แต่ขณะนั้นรถยังวิ่งอยู่เลนขวา คนขับจึงหักพวงมาลัยมาเลนซ้ายอย่างแรง ทำให้รถเหวี่ยงร่าง ด.ช.สุทธิเกียรติที่ยืนอยู่ตรงบันไดลื่นพลัดตกจากรถและถูกล้อหลังทับซ้ำจนเสียชีวิตดังกล่าว

เดินทางมาที่เกิดเหตุ ตรวจดูกระเป๋านักเรียนเหยื่อรถร่วมซิ่งมรณะที่หล่นอยู่ริมถนน ก็ต้องตกใจเมื่อทราบว่าเป็นของ ด.ช.สุทธิเกียรติ ลูกชายคนเดียว ถึงกับช็อกเข่าอ่อนแทบเป็นลม ก่อนรีบเดินทางตามไปที่โรงพยาบาล เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของลูกชายถึงกับโผเข้าไปกอดศพปล่อยโฮร่ำไห้เป็นที่น่าเวทนา แพทย์พยาบาลและผู้บังคับบัญชาต้องช่วยกันปลอบโยนให้คลายความเศร้า สร้างความสลดหดหู่ใจแก่ผู้พบเห็น ยิ่งนัก ตำรวจจะได้ตามล่าตัวโชเฟอร์รถร่วมตีนผีรายนี้ มาดำเนินคดีต่อไป

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ