เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 14 ก.ค. พล.ต.ต. ชินทัต มีศุข ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. กรเอก เพชรไชยเวส รองผบก. พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา
นำกำลังจำนวนหนึ่งเข้าจับกุม นายปิยะฉัตร หรือบอล ธรรมแพทย์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.3 ต.สะพานไทย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 13 ก.ค.2552 ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 20/2 ต.มหาพราหมณ์ อ.บางบาล พร้อมของกลางโทร ศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจพบพยานหลักฐานว่า นายปิยะฉัตร อาชีพรับจ้างทั่วไป เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุปาหินใส่รถของ นายอาคม เปรมสกุล และนายอภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต หรือโจอี้ บอย
บนถนนสาย 347 และถนนสาย 356 ม.5 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและมีพยานให้ข้อมูลจนสามารถออกภาพสเกตช์คนร้าย ก่อนนำภาพไปเปรียบเทียบกระทั่งได้รูปนายปิยะฉัตร นำมาให้พยานดู ก่อนยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงเสนอศาลขอออกหมายจับและเข้าจับกุมได้ดังกล่าว
ด้านนายปิยะฉัตร ให้การว่าวันเกิดเหตุนั้นขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนที่ต.ปากกราน ใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุจริง
แต่ไม่พบเพื่อนจึงเดินทางกลับบ้านพักอยู่กับภรรยาและไม่ได้ออกจากบ้านอีกเลยตั้งแต่เวลา 22.00 น. ส่วนรถจักรยาน ยนต์ที่ใช้อยู่ประจำเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน เรื่องปาหินไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะให้เอาไปสาบานที่ไหนก็ได้ ถ้าทำผิดก็ขอให้มีอันเป็นไป ถ้าทำผิดจริงคงจะหลบหนีไปนานแล้ว ข่าวปาหินตนติดตามอยู่ตลอดแต่ไม่ได้คิดอะไร จนเมื่อเช้าเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมยังตกใจอยู่ว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องได้อย่างไร ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องปาหินจริงๆ
พล.ต.ต.ชินทัต เปิดเผยว่า คดีปาหินทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานและพยาน จึงออกหมายจับถึงแม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะให้การปฏิเสธซึ่งเป็นสิทธิ์
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบสอบพยานเพิ่มเติมและรวบรวมหลักฐานสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาต่อไป ขอประชาสัมพันธ์ให้กับประชา ชนที่จะเดินทางผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอยู่ตลอดเวลา ส่วนคดีนี้ยืนยันอีกครั้งว่าเราจับกุมตามหลักฐานที่ปรากฏ