เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ร.ต.ท.ศักดิ์ศรี พิลาสันต์ พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารกเสียชีวิต
ภายในบ้านเลขที่ 100/316 หมู่ที่ 4 ชุมชน 70 ไร่ ซอย 11 แยก 28 แขวงและเขตคลองเตย กทม. จึงติดต่อแพทย์สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านเพิงพักสร้างด้วยเศษไม้ ขนาดความกว้าง 2.10 เมตร ยาว 3 เมตร ปลูกอยู่เหนือคูน้ำ ลึกประมาณ 1 เมตร
จากการตรวจสอบภายในบ้านพบ น.ส.แอ๊ด วงษาโรจน์ อายุ 34 ปี นั่งร่ำไห้กอดศพลูกสาวคือด.ญ.ชลธิชา หรือน้องฝอย ธานาวัตร์ วัย 3 เดือน
สภาพศพสวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้นสีฟ้า มีน้ำไหลออกมาจากจมูกตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำศพส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯ ผ่าพิสูจน์ศพอย่างละเอียดเพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
น.ส.แอ๊ด ร่ำไห้ให้การกับเจ้าหน้าที่ ว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 1 ทุ่มของวันที่ 11 ก.ค. ตนเอาน้องฝอยออกจากเปลมานอนกับพื้นเพื่อให้นมตามปกติ
จากนั้นก็เผลอหลับไปด้วยกันทั้งแม่ลูก กระทั่งเวลาประมาณตี 5 วันนี้ ตนตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าลูกหายไป จึงออกตามหา สอบถามเพื่อนบ้านก็ไม่มีใครเห็น กระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยตามหาจนมาเห็นว่าที่บริเวณฝาบ้านด้านหลังมีรูกว้างอยู่ จึงใช้มือล้วงลงไปก็พบร่างของลูกสาวเสียชีวิตอยู่ในคูน้ำ
จากการตรวจสอบภายในเพิงพัก พบว่าพื้นบ้านมีลักษณะลาดเอียงไปทางหลัง บริเวณฝาบ้านตรงมุมพบเป็นรูโหว่กว้าง
ด้านหนึ่งกว้าง 17 ซ.ม. อีกด้านกว้าง 10 ซ.ม. และยาว 27 ซ.ม. เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเด็กอาจนอนดิ้นขยับไปมา ทำให้ค่อยๆ กลิ้งลงตามทางลาดของพื้น แล้วลอดตกจากช่องฝาบ้านลงไปในคูน้ำเสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงบันทึกสภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตามยังต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ศพอีกครั้งหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ ชาวบ้านต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าอาจมีเงื่อนงำ เนื่องจากน.ส.แอ๊ดมีลูกถึง 8 คน
โดยส่งไปให้แม่หรือยายของเด็กช่วยเลี้ยง 4 คน ให้คนอื่นไปเลี้ยง 2 คน อีก 2 คนที่เหลือน.ส.แอ๊ดเป็นคนเลี้ยงเอง กระทั่งมีน้องฝอย ออกมาเป็นคนที่ 9 และได้เสียชีวิตดังกล่าว สำหรับน.ส.แอ๊ดกับสามีประกอบอาชีพเป็นคนงานแบกปูนอยู่ในเรือบรรทุกปูน และบางครั้งต้องติดเรือออกไปขนถ่ายปูน ครั้งละ 1-2 สัปดาห์ โดยปล่อยให้ลูกอยู่บ้านตามลำพัง จนกระทั่งมามีน้องฝอย น.ส.แอ๊ดจึงไม่ได้ออกไปทำงานกับสามี เพราะต้องอยู่เลี้ยงลูกคนเล็ก