ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมนายณัฐวิทย์ ในข้อหายักยอกทรัพย์ ส่วนอีกคดีเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ตามหมายจับที่ 163/2552 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2552 ศาลได้ออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา แต่นายณัฐวิทย์ไม่มาตามหมายนัด ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับ เพื่อนำตัวไปดำเนินคดี ปรากฏว่านายณัฐวิทย์ได้หลบหนีการจับกุมของตำรวจ กระทั่งสืบทราบว่าได้หลบหนีมาบวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดสระเก้าห้อง จึงได้ติดตามจับกุมตัว พร้อมทำการสึกเพื่อนำตัวไปดำเนินคดี
จากการสอบถามทราบว่า นายณัฐวิทย์ได้บวชก่อนเข้าพรรษาไม่นาน โดยได้ไปจำอยู่ที่วัดสระโคล่ ม.10 ต.หัวรอ อ. เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากนั้นได้ย้ายมาอยู่ที่วัดสระเก้าห้อง เพื่อจะจำพรรษาอยู่ที่วัดสระเก้าห้อง โดยตั้งใจว่าหลังออกจากพรรษาแล้วจะสึก เพื่อไปรับราชการทหารกองประจำการ โดยสมัครเป็นทหารเกณฑ์ผลัดสองเอาไว้แล้ว แต่มาถูกตำรวจจับกุมตัวเสียก่อน
ด้านพระเผิน กิตติสาโร เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า พระณัฐวิทย์มาอยู่ที่วัดไม่นานก่อนเข้าพรรษา ตนได้รับเป็นพระลูกวัดไว้ เพราะถือว่าบวชเป็นพระมาแล้ว ส่วนก่อนหน้าที่ไปก่อเหตุอะไรไว้ตนไม่ทราบ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ส่วนการสึกนั้นเจ้าตัวยอมให้สึก ตนก็สามารถสึกให้ได้