เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ความรุนแรงในมณฑลซินเกียง ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ว่า
กลุ่มชนชาวฮั่นยังคงบุกทำร้ายชนเผ่าอุยกูร์ด้วยอารมณ์แค้นและเกลียดชัง ไม่สนการตรึงกำลังของทหาร ระหว่างการเผชิญหน้าของชนสองฝ่ายที่ขัดแย้งกันมาเป็นเวลานานและครั้งล่าสุดที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 156 ราย บาดเจ็บนับพันคน เหตุการณ์น่าวิตกถึงขั้นที่ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ผู้นำจีน ต้องยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำจี 8 ในฐานะชาติสังเกตการณ์ ที่อิตาลี เพื่อกลับประเทศ
จากภาพวิดีโอที่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีบันทึกได้ในวันพุธ
ชายชาวฮั่นราว 20 คน รุมประชาทัณฑ์ชาวอุยกูร์คนเดียวในใจกลางเมืองอุรุมชี โดยใช้ไม้และอาวุธอื่นๆ ฟาดไม่ยั้งนาน 1 นาที กระทั่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้ามาสลายม็อบ ส่วนอีกเหตุการณ์ กลุ่มชาวฮั่นที่อ่านหนังสือพิมพ์บนแผงอยู่ เห็นชาวอุยกูร์ 3 คนตรงทางแยก จึงกรูเข้าไปทำร้าย ชาวอุยกูร์ 2 รายหนีไปได้ แต่เหยื่อที่เหลือถูกจับได้ จึงถูกกลุ่มชาวฮั่นทั้งผู้หญิงและผู้ชายรุมกระทืบ พร้อมตะโกนว่า "กระทืบมัน กระทืบมัน" เป็นเวลา 30 วินาที จนตำรวจวิ่งเข้ามาช่วยลากเหยื่อออกไป ในสภาพเลือดอาบใบหน้า
ด้านหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีต เจอร์นัล รายงานคำให้สัมภาษณ์ของนางเรบิยา คาเดียร์ ผู้นำอุยกูร์พลัดถิ่น ว่า
ข้อมูลที่ได้รับจากกลุ่มเตอร์กิสถานตะวันออก ตำรวจจีนสังหารชาวอุยกูร์ด้วยการยิงและทุบตีตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สูงกว่า 400 ศพ ความไม่สงบยังลุกลามไปเมืองอื่น เช่น คัชการ์ เมืองใหญ่อีกแห่งของซินเกียง ทางการจีนส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปค้นบ้านต่อบ้าน หลังจากจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวอุยกูร์ไปแล้ว 1,434 ราย นอกจากนี้ ยังปล่อยให้ชาวฮั่นบุกเข้าไปทำร้ายชาวอุยกูร์
สำหรับการเดินทางกลับประเทศอย่างฉุกเฉินของนายหู จิ่นเทา โดยไม่ร่วมประชุมกลุ่มจี 8 และเลื่อนหมายเยือนโปรตุเกสด้วยนั้น นายฌอง-ปิแอร์ กาเบสตาน อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง แบบติสต์ กล่าวว่า ไม่เคยเห็นประธานาธิบดีจีนต้องทำเช่นนี้มาก่อน ผู้นำจีนไม่เคยแสดงทีท่าใดๆ ที่แสดงถึงความตื่นตระหนก แสดงว่า เรื่องนี้น่าวิตกมาก ต้องอาศัยการตัดสินใจของประธานาธิบดีที่เป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างกองทัพกับประชาชน