กระหน่ำยิง แทง ปาดคอ ฆ่าโหด !! แท็กซี่ 2 ราย

คมชัดลึก :กระหน่ำยิง แทง ปาดคาซ้ำฆ่าแท็กซี่คืนเดียว 2 ราย รายแรกมือปืนซิ่งเก๋งบีเอ็มปาดหน้ากันชักทูตมรณะกระหน่ำยิงดับ อีกรายลวงไปชิงทรัพย์ แต่ขัดขืน กระหน่ำแทงยับ ปาดคอซ้ำตายคารถ

เมื่อเวลา 23.45 น.พ.ต.ท.สุริยา จำนงโชค พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางรัก รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต

บริเวณสี่แยกสุรวงศ์ตัดเจริญกรุง ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปสอบสวนพร้อม พร้อม พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผกก.สน.บางรัก ,พ.ต.อ.ประวิตร เลขะวณิช รอง ผบก.น.6,พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 ,แพทย์นิติเวชร รพ.ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู  ที่เกิดพบรถแท็กซี่โตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทว 5107 กทม.ของสหกรณ์แท็กซี่ไทย จำกัด ติดเครื่องจอดอยู่กลางถนน ประตูด้านขวาฝั่งคนขับเปิดอ้าหน้ารถด้านขวามีรอยกระสุน 1 นัด ห่างกันประมาณ 5 เมตร พบศพนายสุริยา แก้วก่า อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 หมู่ 2 ต.โพนพิสัย อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย  สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเหลือง นุ่งกางเกงยีนส์  มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .32 เข้าหน้าอกและลิ้นปี่จำนวน 2 นัด นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนฟุตบาท หน้าบริษัท พริมารส จำกัด ใกล้กันพบไม้คมแฝกตกอยู่ 1 อัน ห่างกันประมาณ 2 เมตร พบกระสุนปืนขนาด .32 ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก 
           
ต่อมา ได้มีนางเทพประทาน โตงกาโพง อายุ 42  ปี อยู่บ้านเลขที่ 389/26 หมู่ 4 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม.ภรรยาของนายสุริยาเดินทางมาถึง

เมื่อเห็นศพสามี นางเทพประทานถึงกับร้องไห้โฮก่อนจะกล่าวว่า อยู่กินกับนายสุริยาได้  6 ปี สามีมีอาชีพขับรถแท็กซี่กะกลางคืนเวลา 18.00 -04.00 น.จากนั้นก็จะกลับเข้า ปกติสามีเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ก็ไม่มีศัตรูหรือทะเลาะกับใครจึงไม่ทราบสาเหตุที่สามีถูกยิงเสียชีวิต 
           
พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 กล่าวว่า จากการสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายขับรถแท็กซีมาตามถนนสุรวงศ์และมีการขับปาดหน้ากันไปมากับรถเก๋งบีเอ็มดับบลิวสีดำคันหนึ่ง

ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เมื่อรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ ทั้งสองได้จอดรถลงมามีปากเสียงกันก่อนจะมีการใช้อาวุธปืนยิงนายสุริยาเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายก็ได้ขับมุ่งไปทางถนนเจริญกรุง ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนไปทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายแล้ว  
          

อีกราย เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 7 ก.ค. พ.ต.ท.สุทธิชล ธงชัยภูมิ สารวัตรเวร สภ.บางปู สมุทรปราการ

รับแจ้งเกิดเหตุโชเฟอร์แท็กซี่ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตคารถ บริเวณกลางซอยเสริมมิตร หมู่ 4 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยพ.ต.ท.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ รอง ผกก.( สส.)พ.ต.ต.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส. ร.ต.อ.ภูวนาท แก่นจันทร์ รอง สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ 
          
ที่เกิดเหตุบริเวณกลางซอยดังกล่าวพบรถแท็กซี่ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอันติส สีชมพู ทะเบียน ทว -175 กรุงเทพมหานคร ของสหกรณ์เสริมมิตรแท็กซี่ จำกัด จอดเปิดไฟหน้าอยู่กลางถนน ประตูข้างคนขับเปิดอ้าอยู่

กระจกประตูด้านหลังข้างซ้ายเปิดเอาไว้ ตรวจสอบพบศพนายวีระวร น้ำเงิน อายุ 36 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 1 ต.บึงแก อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร โชเฟอร์แท็กซี่นอนจมกองเลือดในลักษณะศรีษะทิ่มออกมาอยู่ข้างประตู บริเวณลำคอมีบาดแผลถูกปาดด้วยอาวุธมีดจนเป็นแผลฉกรรจ์หลอดลมขาด แขนซ้ายมีบาดแผลถูกฟันด้วยอาวุธมีดจนเป็นแผลฉกรรจ์จำนวน 2 แผล แขนขวาอีก 1 แผล เลือดสาดกระจายเปื้อนกระจกหน้ารถแดงฉาน จึงประสานแพทย์จากโรงพยาบาลสมุทรปราการ ร่วมชันสูตร เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง จากการตรวจสอบเอกสารที่อยู่ในกระเป๋าคาดเอวของผู้ตายพบว่าภายในมีเงินสดอยู่จำนวน 18,180 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อแอลจีจำนวน   1 เครื่อง พระเครื่องอีก 1 พวง จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐานก่อนมอบศพให้มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ นำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช 
        
สอบสวนนายสมศักดิ์  ไม่คล้ายมี อายุ 32 ปี ชาวบ้านที่ขับรถผ่านมาพบเห็นรถแท็กซี่คันดังกล่าวจอดขวางอยู่กลางถนน

เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพักท้ายซอยดังกล่าวเพื่อที่จะไปซื้อบัตรเติมเงินที่ตลาดตำหรุ ขณะขี่รถมาถึงกลางซอยซึ่งเป็นที่มืดและเป็นทางโค้งที่เปลี่ยวสองข้างถนนมีเพียงโรงงานร้างอยู่สองฝั่ง เห็นรถแท็กซี่คันดังกล่าวจอดขวางอยู่กลางถนนเปิดไฟหน้าเอาไว้ ประตูด้านคนขับเปิดอ้าอยู่จึงได้จอดรถลงไปดูก็เห็นผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดหัวห้อยลงมาที่พื้นถนนด้วยความตกใจจึงได้ขับขี่รถไปตาม รปภ.ปากซอยมาดูและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ   และจากการสอบสวนทราบว่ามีผู้ พบเห็นแท็กซี่คันดังกล่าววิ่งเข้ามาในซอยช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษของวันที่ 6 ก.ค.52 โดยมีผู้โดยสารเป็นชายรูปร่างผอมไว้ทรงผมลากไทรนั่งมาทางด้านเบาะหลังข้างซ้าย  
         
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะลวงโชเฟอร์แท็กซี่มาเพื่อชิงทรัพย์ โดยทำที่ว่าจ้างให้มาส่งที่ภายในซอยดังกล่าวซึ่งเป็นที่มืดและเป็นซอยเปลี่ยว

หลังจากผู้ตายขับรถเข้าไปจนถึงท้ายซอยซึ่งเป็นทางตัน คนร้ายได้ออกอุบายให้ผู้ตายขับรถวนออกมาสบโอกาสจุดที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งมืดและเป็นที่เปลี่ยว สองฝั่งถนนมีเพียงโรงงานร้างอยู่ คนร้ายจึงชักอาวุธมีดออกมาจี้เพื่อจะชิงทรัพย์แต่เกิดการต่อสู้กันเกิดขึ้นคนร้ายได้ใช้มีดฟันเข้าที่แขนทั้งสองข้างของผู้ตายก่อนที่จะใช้มีดเล่มเดียวกันปาดคอผู้ตายจนหลอดลมขาดและเสียชีวิต ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไปโดยที่ไม่ทันได้แตะต้องทรัพย์สินของผู้ตายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นการกระทำที่สะเทือนขวัญชาวบ้าน