แฉแก๊งฆ่าพล.ต.ต. สาวโผล่ ร่วมกดเอทีเอ็ม

จากคดีฆาตกรรมอำพรางพล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้ อดีตรองผบช.ภาค 7 ในบ้านพักในหมู่บ้านกฤษดานคร 10 อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

โดยคนร้ายแทงพล.ต.ต.ชูเกียรติจนเสียชีวิตคาบ้าน แล้วเผาบ้านกับศพซ้ำเพื่ออำพรางและเบี่ยงเบนรูปคดี ซึ่งจากการสืบสวนของตำรวจ ได้เบาะแสสำคัญของคนร้ายแล้ว เป็นภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ระหว่างคนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มของพล.ต.ต.ชูเกียรติไปกดเงิน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พ.ต.อ.เพชรัตน์ แสงไชย รองผบก.ศสส.ภาค 1 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ชุดสืบสวนภ.จว.นนทบุรี

เพื่อตรวจสอบข้อมูลถึงความคืบหน้าการตายของพล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้ อายุ 69 ปี อดีตนายตำรวจชื่อดัง ซึ่งเสียชีวิตอย่างสยดสยองคาบ้านทรงยุโรป หมู่บ้านกฤษดานคร 10 อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมได้นำภาพบุคคลต้องสงสัยที่นำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดตามตู้เอทีเอ็มจากสถานที่ต่างๆ ที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ นำมาตรวจสอบ วิเคราะห์ ก่อนจะแบ่งงานกันออกไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป

พ.ต.อ.เพชรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้การทำงานมีความกระจ่างมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถชี้ชัด จะต้องตรวจพิสูจน์ข้อมูลบางอย่างให้กระจ่างชัด รวมถึงบุคคลใกล้ชิดของผู้ตาย

เนื่องจากเท่าได้ข้อมูลมา พบว่ามีคนที่มีความใกล้ชิด และรู้จักท่านจำนวนมาก ดังนั้นจะต้องแยกแยะแต่ละคนเพื่อจะได้เคลียร์ว่าเป็นใคร ขณะนี้บุคคลที่ได้จากหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดจากตู้เอทีเอ็ม อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์เนื่องจากภาพที่ได้มาไม่ชัด รวมทั้งการทำงานอาจสะดุดในเรื่องการทำงานด้านเทคนิค เพราะติดวันหยุดราชการหลายวัน ทำให้การตรวจสอบล่าช้า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใกล้ชิดที่เพิ่งเข้ามารู้จักกับผู้ตายได้ไม่ถึงเดือน ชั้นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบด้านเทคนิคว่าเป็นคนเดียวกันกับที่นำบัตรเอทีเอ็มไปกดหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการคลี่คลายคดีฆ่าแล้วเผาอำพรางพล.ต.ต.ชูเกียรตินั้น ทางทีมสืบสวนทั้งสืบสวนภาค 1 ร่วมกับสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี และกองปราบปราม

ได้ประสานการทำงานร่วมกันเพื่อคลี่คลายคดีในการติดตามหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยเบาะแสที่เจ้าหน้าที่มุ่งสืบสวนมากที่สุด คือเงินที่อยู่ในธนาคารของผู้ตาย ถูกคนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มไปกดไปกว่าแสนบาท หลังจากที่ลงมือฆ่าเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหว เป็นผู้หญิงอายุ 30-40 ปี นำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่ภายในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาหลักสี่ มีการกดเงินถึง 3 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 60,000 บาท โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบมีความเคลื่อนไหวการกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มภายในตลาดโบ๊เบ๊ และตู้เอทีเอ็มตลาดบางลำพู ซึ่งกดเงินไป 40,000 บาท

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับได้เป็นผู้ชายอายุ 30-40 ปีเช่นกัน จากการตรวจสอบพบว่าบัตรเอทีเอ็มที่คนร้ายนำไปกดแต่ละแห่งเป็นบัตรเดียวกัน แต่มีการสลับเปลี่ยนคนกดคนละสถานที่ อยู่ระหว่างตรวจ สอบว่าทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันหรือไม่ หรือเป็นนางนกต่อ ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป รายงานข่าวแจ้งต่อว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างจับตาดูความเคลื่อนไหวคนใกล้ชิดอีกหลายคน เนื่องจากยังมีข้อสงสัยบางประการที่ยังไม่เคลียร์ รวมทั้งพบว่าคนใกล้ชิดที่ผู้ตายไว้ใจ มีประวัติชอบเล่นการพนัน ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้งไป