คิดสั้นฉกทองหาเงิน กลับไปหาแฟน ไม่รอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 1 ต.ค. พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น ขอนแก่น

รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนครว่า มีคนร้ายวิ่งราวทองคำรูปพรรณ ที่ร้านทองขอนแก่นเยาวราช เลขที่ 57/3 ตรงข้ามโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ถนนศรีจันทร์ ในเมืองขอนแก่น  คนร้ายทิ้งกระเป๋าสะพายลายทหารไว้ในร้านทอง แล้ววิ่งหลบหนีไปในซอยด้านหลังร้าน  ทะลุวัดป่าวิเวกธรรมและ โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นภายหลังรับแจ้ง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจรถจักรยานยนต์ สกัดคนร้ายตามซอยต่างๆที่อยู่ใกล้กับร้านทองที่เกิดเหตุ ไม่ถึง 10 นาที ก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ที่หน้าวัดป่าวิเวกธรรม ห่างจากร้านทองประมาณ 300 เมตร ได้พร้อมสร้อยคอทองคำ ลายกระดูกงู หนัก 1 บาท ห้อยจี้ทองคำหนักครึ่งสลึง ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น ทันที 

ทราบชื่อคนร้ายคือ นายกฤษณะ อุปถัมภ์ อายุ 25 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.3 ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ค้นในตัวพบกระเป๋าสตางค์ สีดำ ข้างในมีเงินสด 150 บาท ตั๋วจำนำโทรศัพท์มือถือ และสมุดคุมประพฤติสีเหลือง ของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น จำนวน 2 เล่ม เกี่ยวกับการนัดรายงานตัวของนายกฤษณะใน คดี พ.ร.บ.อาวุธปืน และคดีลักทรัพย์ 

นายกฤษณะ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ถูกตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น จับกุม คดี พ.ร.บ.อาวุธปืน และคดีลักทรัพย์ จึงยังถูกคุมประพฤติอยู่

ต้องมารายงานตัวที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น  ปัจจุบันไปอยู่กับแฟนสาวและทำงานอยู่ที่โรงงานอะไหล่คอมพิวเตอร์ จ.สระบุรี ก่อนก่อเหตุได้กลับมารายงานตัว และมาพบแม่ เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น แฟนสาวก็โทรศัพท์รบเร้าให้รีบกลับ แต่เงินค่ารถไม่มี เมื่อเดินผ่านร้านทอง จึงคิดว่าหากสามารถวิ่งราวทองหนัก 1 บาท  และหนีรอดได้ ก็จะนำทองไปขาย เอาเงินไปใช้จ่ายกับแฟนสาว จากนั้นก็ได้เดินเข้าไปในร้านทอง และขอซื้อทอง 1 บาท อ้างว่าจะซื้อไปเป็นสินสอด เมื่อเจ้าของร้านหยิบสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมจี้ทองคำมาให้ จึงรีบคว้าและวิ่งหนีออกจากร้าน กระทั่งมาถูกตำรวจจับได้

ต่อมา นายสุรัตน์ ฉัตรถาวร อายุ 44 ปี เจ้าของร้านทองที่เกิดเหตุ มาดูตัวคนร้ายและดูสร้อยทองพร้อมจี้ที่ตำรวจยึดได้จากนายกฤษณะ

โดยนายสุรัตน์ กล่าวยืนยันว่า เป็นคนร้ายที่วิ่งราวสร้อยคอทองคำ มูลค่าสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ราคา 15,000 บาท และจี้ทองคำหนักครึ่งสลึง มูลค่า 2,200 บาท จากร้านไปจริง เมื่อนายกฤษณะ พบหน้าเจ้าของร้านทอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก ถึงกับนั่งคุกเข่า อ้อนวอน ขอความช่วยเหลือ ไม่อยากเข้าคุก เพราะคิดถึงแฟนสาวและไม่อยากให้พ่อ แม่เสียชื่อ  ทางร้านทองไม่ยอม ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายภายหลังการสอบสวน ได้แจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์  และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นควบคุมตัวเข้าห้องขัง  นายกฤษณะ ถึงกับน้ำตาไหลพราก ร้องไห้ ไม่อายต่อสายตาผู้คนที่ไปติดต่อราชการบนโรงพัก


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์