เสี่ยโลงศพย้ายหนี บ้านเฮี้ยน ไฟไหม้50หนแล้ว

จากกรณีเกิดเหตุประหลาดอัศจรรย์ที่บ้านเลขที่ 85 บ้านหัวลิง หมู่ที่ 10 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

ซึ่งนายวิฑูรย์ ชื่นจิต อายุ 25 ปี พร้อมด้วยครอบครัวและลูกน้อง เช่าทำธุรกิจขาย โลงศพ และรับจัดงานศพแบบครบวงจร เกิดเหตุเพลิงไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุมากกว่า 40 ครั้งภายในเดือนเดียว ช่วงแรกเชื่อว่าคู่แข่งทางธุรกิจไม่พอใจทำคุณไสยมารังควาน จนต้องนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีปัดเป่าแต่ก็ยังเกิดเหตุไฟไหม้ภายในบ้านเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง ตามข่าวที่เคยเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับบ้านเฮี้ยนประหลาดอัศจรรย์หลังนี้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายวิฑูรย์ ชื่นจิต เปิดบ้านเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นยังเกิดเหตุเพลิงไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุถึง 3 ครั้ง

ครั้งแรกไหม้ผ้าสำหรับประดับ งานศพ จากนั้นไหม้กระถางดอกไม้พลาสติก และสุดท้ายไหม้โลงศพซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ลานหน้าบ้าน และกล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถจับภาพได้เหมือนทุกครั้ง นอกจากเห็นคนในบ้านเดินไปเดินมาเท่านั้น ตนจึงย้ายกล้องวงจรปิด 3 ตัวไปติดตั้งไว้ภายในบ้าน ส่วนอีก 1 ตัวยังติดตั้งไว้หน้าบ้าน เพื่อตรวจจับความผิดปกติ นอกจากนี้ ยังนำผ้ายันต์ขนาดใหญ่มาปิดประตูทางเข้าหน้าบ้าน เพื่อป้องกันคาถาอาคมหรือคุณไสยจาก อีกฝ่าย

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดไม่น่าจะเกิดจากการลอบวางเพลิง หรือไฟฟ้าลัดวงจร เพราะตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านหมดแล้ว

เชื่อว่าน่าจะเกิดจากคาถาอาคมหรือคุณไสยจากคู่แข่งทางด้านธุรกิจ เพราะทุกครั้งที่เกิดเพลิงไหม้กล้องไม่สามารถจับภาพคนร้ายได้ และ จะพบเศษเถ้ากระดูกที่เผาศพคนตายปะปนอยู่กับขี้เถ้าไฟที่ไหม้ด้วย ภายหลังข่าวเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตของครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่ละวันมีชาวบ้านจำนวนมากแวะเวียนมายืนอออยู่หน้าบ้านตลอดทั้งวันเพื่อรอดูเหตุร้ายจนต้องปิดประตูเพื่อความปลอดภัย

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อธุรกิจ ลูกค้าหดหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเกือบล้านบาทแล้ว

ล่าสุดลูกน้องยังเกิดความหวาดกลัวลาออกไปอีก 4 คน ตนยังยืนยันประกอบธุรกิจนี้ต่อไป เพราะรับช่วงต่อมาจากบิดา แต่คิดว่าจะย้ายไปเปิดร้านใหม่ที่ อ.ลำปลายมาศ หากซ่อมร้าน อ.ลำปลายมาศ ที่ถูกไฟไหม้แล้วเสร็จ ก็จะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ทันที วันพรุ่งนี้ตนจะเดินทางไป จ.สุรินทร์ เพื่อนำหมอเขมรขมังเวทมาแก้อาคมคุณไสยเพื่อให้ชีวิตอยู่ได้อย่างปกติเหมือนเดิม เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดเหตุไม่ใช่ฝีมือคนกระทำ แต่เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้

ด้านพล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผบก.ภ.จว. บุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับบ้านหลังนี้ต้องสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์

ขณะนี้รอผลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการที่กำลังช่วยกันคลายปมปัญหา ส่วนเรื่องที่เจ้าของและผู้เช่าเชื่อว่าเป็นเรื่องไสยศาสตร์ จะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล หากพบว่ามีการสร้างสถานการณ์ให้เข้า ใจผิด หรือก่อเหตุวางเพลิงทำให้ผู้อื่นได้รับความ เสียหายก็ต้องถูกดำเนินคดี เพราะผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าวแจ้งความเหตุเพลิงไหม้ถึง 8 ครั้งแล้ว คาดว่าเร็วๆ นี้คงจะทราบความจริงกัน