ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 30 มิ.ย. ที่ บช.น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.แถลง พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 แถลงข่าว สน.บางยี่เรือ
จับกุมนายโสภณ หรือเอก ทรัพย์บำรุงสกุล อายุ 29 ปี อาชีพคนงานก่อสร้าง รับจ้างทาสี คนร้ายก่อเหตุพยายามลักทรัพย์ภายในรถยนต์ 2 ครั้ง 2 คัน ของนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยา ทนายสมชาย นีละไพจิตร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 และ 11 มิ.ย. บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 73/5 ซอยอิสรภาพ 11 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กทม. โดยเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายกับผู้ต้องหาตรงกัน และเจ้าตัวรับสารภาพว่าประสงค์ที่จะเอาทรัพย์สินในรถแต่ไม่ได้อะไรไป ต้องการหาเงินไปกินข้าว ประวัติเคยถูกจับที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อปี 2542 ศาลลงโทษจำคุก 9 เดือน เลยเรียนรู้วิชางัดรถจากผู้ต้องขังในเรือนจำออกมา ตำรวจประสานนางอังคณา ซึ่งติดสอนหนังสืออยู่ ระบุว่าไม่ติดใจสงสัยในคดีนี้แล้ว
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. แถลงว่าคดีนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนสื่อมวลชนให้ความสนใจ เป็นเรื่องของการทุบรถยนต์ของนางอังคณา นีละไพจิตร
เนื่องจากผู้เสียหายมีสมมุติฐานตั้งไว้หลายประเด็น แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจโดย ผบก.น.8 และ ผกก สน.บางยี่เรือ ก็สามารถคลี่คลายคดีกระจ่างได้ สรุปแล้วคดีนี้เป็นเรื่องของการที่คนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ การที่จะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีก็ด้วยอาศัยวิธีการทางนิติวิทยาศาสตร์ พบรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายตรงกันกับรอยนิ้วมือของบุคคลที่ต้องสงสัยซึ่งเคยมีประวัติกระทำผิดในเรื่องการลักทรัพย์มาก่อนแล้ว และคำรับสารภาพของผู้ต้องหาเองด้วย
นายโสภณ บอกเล่าให้ฟังว่า ใช่ไขควงงัดหูช้างรถยนต์ที่ก่อเหตุ 2 ครั้ง ไม่ได้ทรัพย์สินอะไร พักอาศัยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุโดยรับจ้างเป็นคนงานก่อสร้างทาสี เลือกเอาเวลาตอนประมาณตี 2 ไม่มีคนเห็น ใช้เวลางัดประมาณครึ่งชั่วโมง งัดกระจกหูช้างได้แล้วใช้ไม้ไผ่เขี่ยเปิดที่ล็อคประตู รื้อค้นสิ่งของในรถแต่ไม่มีทรัพย์สินอะไร ตนเลือกรถที่งัดไม่เจาะจงหรือว่าเป็นของใคร ที่เลือกงัด 2 คันนี้เพราะอยู่ในจุดอับปลอดคน ไม่มีการติดสัญญาณกันขโมย จึงง่ายที่จะลงมือ ยอมรับว่ากลัวตำรวจจะตรวจผ่านมา แต่ช่วงดังกล่าวไม่มีสายตรวจจึงลงมืองัด
พ.ต.อ.สุนทร เขมประภา ผกก.สน.บางยี่เรือ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติคนร้ายพบว่าเคยมีประวัติลักทรัพย์ในเวลากลางคืนถูกจับกุมที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อปี พ.ศ.2542 ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 9 เดือน และได้เรียนรู้วิชางัดรถมาจากเพื่อนผู้ต้องขังในเรือนจำ หลังพ้นโทษออกมาทำงานรับจ้างก่อสร้าง และใช้วิชาที่เรียนมาก่อเหตุครั้งนี้
นอกจากนี้ผู้ต้องหารับอีกว่าเคยถูกติดคุกข้อหาทำร้าย ทะเลาะกับเพื่อนด้วยกัน เมื่อปี 2549 ติดคุกอยู่ 1 ปี 6 เดือน
ผกก.สน.บางยี่เรือ กล่าวอีกว่า ได้ประสานนางอังคณา ทางโทรศัพท์ซึ่งติดสอนหนังสือแจ้งให้ทราบว่าตำรวจจับคนร้ายงัดรถมาได้แล้ว ซึ่งไม่ติดใจว่าเป็นเรื่องของการคุกคาม เชื่อว่าเป็นเรื่องการลักทรัพย์ พยานหลักฐานในคดีนี้มีสิ่งของที่เป็นของกลางในคดีคือไม้ไผ่ขนาด 1 เมตร และไขควงที่ทิ้งไว้ ลายนิ้วมือแฝงในติดอยู่ในรถที่เกิดเหตุ ซึ่งตรงกันกับลายนิ้วมือของผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพว่ากระทำการดังกล่าวจริง ซึ่งทางเจ้าทุกข์ได้กล่าวขอบคุณตำรวจเราที่สนใจคดีใช้ความพยายามจนจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ทาง สน.บางยี่เรือ ก็คงยังให้ความดูแลผู้เสียหายต่อ หลังถูกก่อเหตุเราได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ซอยดังกล่าว 3 จุด สำหรับจุดที่จอดรถเป็นมุมอับ ฝั่งตรงข้ามเป็นกำแพง ตึกตรงข้ามไม่มีคนอยู่อาศัย ง่ายที่จะกระทำการ ปกติก็จะมีตำรวจสายตรวจไปตรวจเสนอ
พล.ต.ต.วรัญวัส ผบก.น.8 กล่าวว่า คดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ เนื่องจากผู้เสียหายเกี่ยวข้องกับเรื่องการเรียกร้องสิทธิมนุษยชน
ทางรัฐบาลเองก็สนใจอยากให้คลี่คลายคดีโดยเร็ว คนร้ายก่อเหตุครั้งแรกเรายังเกรงว่าเป็นเรื่องของการข่มขู่ผู้เสียหายด้วยเหมือนกัน จึงสั่งให้ท้องที่ไปติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อคุ้มครองผู้เสียหาย นอกจากนั้นได้ให้ฝ่ายสืบสวนไปเชิญบุคคลที่น่าสงสัยใกล้ที่เกิดเหตุมาทำการสอบสวนและตรวจสอบลายนิ้วมือ โชคดีที่คนร้ายมีประวัติต้องคดีมาก่อน และผลการตรวจเปรียบเทียบลายนิ้วมือก็ตรงกันกับลายนิ้วมือแฝงในรถยนต์ที่ถูกก่อเหตุ จึงได้ขออนุมัติหมายจับ และให้ฝ่ายสืบสวน สน.บางยี่เรือไปจับกุม รอจนนายโสภณ กลับเข้าบ้าน เลขที่ 167/292 ซ.กาญจนาภิเษก 8 แขวงบางแค เขตบางแค กทม. จึงควบคุมตัวมาสอบสวนและผู้ต้องหารับสารภาพในที่สุด ซึ่งวันพรุ่งนี้จะพาตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ
โจรงัดรถอังคณาอ้างหิวโซใช้วิชาจากคุกค้นหาทรัพย์สิน-ตัดประเด็นข่มขู่
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม โจรงัดรถอังคณาอ้างหิวโซใช้วิชาจากคุกค้นหาทรัพย์สิน-ตัดประเด็นข่มขู่