เจ้าอาวาสมรณภาพ ญาติติดใจ สงสัยถูกฆาตกรรม

เย็นวานนี้ (28 มิ.ย.) ที่ห้องดับจิต โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ญาติโยมจาก ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา

เดินทางมาดูศพ พระอธิการ มานพ กันตสีโร อายุ 57 ปี เจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ย ม.5 ค.คลองน้อย หลังจากทราบข่าวพระอธิการมานพ มรณภาพอย่างมีเงื่อนงำ และญาติโยมเชื่อว่าจะถูกฆาตกรรม ซึ่งขัดต่อคำวินิจฉัยของแพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพรก ที่ระบุตรงกันว่าเป็นการตายที่ไม่ผิดไปจากธรรมชาติ  

นางเกศินี บุญขจร อายุ 28 ปี ลูกสาวพระอธิการมานพ อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.1 ต.บ้านใหม่ อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พระอธิการมานพ กันตสีโร

เดิมชื่อ นายมานพ กล่อมใจ โดยเมื่อ 15 ปีที่แล้วได้บวชเป็นพระสงฆ์ที่วัดญาณเสน ต.โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี และได้ปฏิบัติดีเป็นพระนักพัฒนามีผู้คนนับถือเลื่อมใส จนกระทั่งเมื่อ 4 ปีที่แล้วเจ้าอาวาสของวัดไก่เตี้ยมรณภาพลง ชาวบ้านจึงไปนิมนต์พระมานพ มาเป็นเจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ย และทางเจ้าคณะตำบลและเจ้าคณะอำเภอได้อนุมัติตามที่ชาวบ้านร้องขอ เมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ยก็ได้พัฒนาวัดจนเจริญก้าวหน้า ชาวบ้านรักและเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก  

นางเกศินี กล่าวต่อว่า ปกติพระอธิการมานพ ไม่มีโรคประจำตัวอะไร ร่างกายแข็งแรง จนกระทั่งในวันศุกร์ที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเช้าพระอธิการมานพ ไม่ลงมาบิณฑบาตเหมือนเคย

และไม่ลงมาฉันเพล จนเวลา 14.00 น. ชาวบ้านจึงเข้าไปดูในกุฏิ พบว่าประตูด้านหน้าล็อก แต่ประตูด้านข้างเปิดอ้า เมื่อเข้าไปดูก็พบ พระอธิการมานพ นอนคว่ำหน้าหมดสติอยู่กับพรมกลางห้อง และมีเลือดซึม ที่เบ้าตาขวาซ้ำ สีข้างขวาซ้ำ ท่อนขาซ้ำ ข้อขาขวาซ้ำ และกลางแผ่นหลัง ทั้งหมดเป็นปื้นแดงซ้ำเห็นได้ชัดเจน และต้นคอมีรอยซ้ำเช่นกัน โดยที่พระอธิการมานพ ยังหายใจรวยริน ญาติโยมจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลบ้านแพรก แพทย์ได้ดามกระดูกต้นคอ เพราะมีรอยแรงกระแทกอย่างรุนแรง และส่งต่อมายังโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แต่อาการทรุดหนักลงตลอด จนกระทั่งเวลา 13.00 น. ของวันที่ 28 มิ.ย.ก็มรณภาพ 

ด้านนายสมยศ ยิ้มสวัสดิ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 ม.1 ต.บ้านใหม่ อ.บ้านแพรก ซึ่งเป็นน้องชาย พระอธิการมานพ กล่าวว่า ได้แจ้งความต่อ พ.ต.ท.วัลลภ เดชพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพรก

ซึ่งแพทย์ระบุว่าตายแบบธรรมชาติ และทางตำรวจก็ตรวจสอบสภาพศพยืนยันตามแพทย์ ทำให้ชาวบ้านไม่คลายความสงสัย และจะส่งศพพระอธิการมานพ ไปผ่าพิสูจน์ยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด เพราะชาวบ้านเชื่อว่าถูกฆาตกรรม ด้วยการรุมทำร้ายอย่างหนักจนบอบช้ำ โดยกลุ่มที่ต้องสงสัยคือพระบวชใหม่และกลุ่มวัยรุ่นที่มักเข้ามามั่วสุมในวัด พระอธิการมานพมักเข้าไปตักเตือน จนอาจทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจได้ ทั้งนี้ หากผ่าพิสูจน์แล้วแพทย์ยืนยันอีกว่าตายตามธรรมชาติ ชาวบ้านก็พร้อมรับคำตัดสิน แต่หากแพทย์ระบุว่าตายผิดธรรมชาติอันเกิดจากการฆาตกรรมก็อยากให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายโดยเร็วที่สุด  

ขณะที่ พ.ต.ท.วัลลภ เดชพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพรก กล่าวว่า สาเหตุการตายนั้นเบื้องต้นก็เชื่อตามแพทย์ว่าอาจจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง และเส้นเลือดในสมองแตกกะทันหัน จนหมดสติ

ล้มคว่ำหน้าศีรษะอาจไปกระแทกพื้นอย่างแรง ส่วนรอยแดงที่แผ่นหลังนั้น เป็นประเด็นที่ทางญาติติดใจเอาความ ดังนั้นเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้ทุกฝ่ายกระจ่างจึงจะส่งศพไปสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อผ่าพิสูจน์ และในทางคดีก็จะมีการสอบพยานเพิ่มเติม สำหรับที่เกิดเหตุไม่ร่องรอยการต่อสู้ และทรัพย์สินก็ยังอยู่ครบ