´มะกัน´ กังขา มือฆ่า-รับง่าย

"เตรียมส่งกลับ ใช้เวลา 2 ชม.ปิดปากเงียบ"


หลังจากที่ทางการสหรัฐอเมริกาประสานเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สตม.บุกรวบนายจอห์น มาร์ค คาร์ อายุ 41 ปี ฆาตกรชาวอเมริกันที่ก่อคดีฆ่า ด.ญ.จอนเบเน็ต แรมซีย์ วัย 6 ขวบ เจ้าของตำแหน่ง Pageant Queen หรือเทพธิดาน้อย จากการประกวดนางงามเด็กหลายเวที เหตุเกิดที่เมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 39 ก่อนหลบหนีมากบดานในเมืองไทยเตรียมสมัครเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งย่านสาทร กระทั่งกลายเป็นข่าวดังครึกโครมที่สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ไปทั่วโลก

ที่สถานกักตัวคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เวลา 10.00 น. วันที่ 18 ส.ค. มีเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกานำกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ เข้าสอบปากคำนายจอห์น มาร์ค คาร์ เพิ่มเติมเพื่อเตรียมขั้นตอนการส่งตัวกลับประเทศ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับโดยไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด ท่ามกลางกลุ่มผู้สื่อข่าวต่างชาติหลายสำนักที่ยังคงปักหลักนำรถถ่ายทอดสดไปเกาะติดความเคลื่อนไหวคดีดังสะท้านโลกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นายจอห์น มาร์ค คาร์ ฆาตกรเลือดเย็น ได้ถูกคุมเข้มในห้องขัง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. จำนวน 2 นาย เข้าไปอยู่ด้วยอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาเกิดอาการเครียด


"รับสารภาพ แต่ไม่จงใจฆ่า อ้างอุบัติเหตุ"


ด้าน พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ผบช.สตม. มอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำกระดาษพิมพ์ข้อความเป็นภาษาไทยและอังกฤษไปติดที่หน้าห้องควบคุมระบุว่า จากกรณีการจับกุมนายจอห์น มาร์ค คาร์ ในข้อหาเป็นบุคคลต้องสงสัยก่อความผิดร้ายแรงข้อหาฆ่าคนตาย ลักพาตัวและล่วงละเมิดทางเพศ เหตุเกิดในประเทศสหรัฐอเมริกา ขอเรียนให้ทราบว่า ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารได้ รวมทั้งไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม หากต้องการข้อมูลให้ติดต่อสถานทูตอเมริกาโดยตรง

ต่อมา พล.ต.ท.สุวัฒน์ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ต้องหารับสารภาพ แต่ปฏิเสธประเด็นจงใจฆ่า อ้างเป็นอุบัติเหตุ จุดนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า ไม่ได้จับผิดตัว เพราะก่อนออกหมายจับเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าพฤติกรรมมาตลอด ตรวจสอบประวัติและข้อมูลจนแน่ชัดถึงขออนุมัติหมายจับ ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาเป็นโรคจิตหรือไม่ พล.ต.ท.สุวัฒน์กล่าวว่า ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตอบ แต่เท่าที่ดู เข้าข่ายเล็กน้อย ซึ่งผู้ต้องหาได้เซ็นหนังสือสมัครใจเดินทางกลับประเทศไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการส่งตัว ทางสถานทูตอเมริกากำลังดำเนินเรื่องเอกสาร ตั๋วเครื่องบิน หากพร้อมเมื่อใด สามารถส่งกลับได้ทันที ใช้เวลาไม่น่าเกิน 1 สัปดาห์


"เครียด ระบายความในใจ"


มีรายงานว่า นายจอห์น มาร์ค คาร์ เริ่มมีอาการเครียด ระบายความในใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประกบดูแลความเรียบร้อยภายในห้องขังว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีเจตนาฆ่าเด็กจริงๆ และยินดีไปต่อสู้คดีรวมทั้งให้รายละเอียดในชั้นศาล เพียงแต่วิตกกังวลว่าต้องเดินทางกลับไปยังโคโลราโด กลัวคนอเมริกันไม่เข้าใจ และรุมประชาทัณฑ์ ส่วนกรณีที่ส่งอีเมล์ไปรับสารภาพ ฆาตกรฆ่านางงามเด็กอเมริกันวัย 6 ขวบ ไม่ขอบอกเหตุผล แต่พอเจ้าหน้าที่ซักว่าทั้งหมดกุเรื่องขึ้นมาหรือไม่ นายจอห์นถึงกับก้มหน้าเงียบไม่ยอมตอบ ซึ่ง สตม.มีกำหนดส่งนายจอห์นกลับประเทศค่ำวันที่ 20 ส.ค. นี้ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ทีจี 0794

บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ห้อง 1927 ชั้น 9 เดอะบลูมส์อพาร์ตเมนต์ อาคาร เอ ซอยศรีบำเพ็ญ ถนนเย็นอากาศ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. สถานที่กบดานของนายจอห์น พบถูกล็อกปิดตาย ห้ามผู้ไม่ เกี่ยวข้องเข้าไปเด็ดขาดตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีพนักงานต้อนรับบอกว่า ผู้ต้องหามาเช่าพักได้ปีเศษในราคาเดือนละ 6,500 บาท บุคลิกเป็นคนเงียบ ไม่สุงสิงกับใคร แต่งตัวเรียบง่าย ไม่เคยเมาสุรา หรือพาใครเข้ามาในห้อง ตอนเช้าจะลงมาถีบจักรยานแบบเสือภูเขาออกไปธุระแล้วกลับมาอีกทีตอนเย็น ไม่มีใครรู้ว่าทำงานอะไร แต่เคยแสดงความฉุนเฉียวเมื่อครั้งเสาสัญญาณโทรทัศน์เสียถึงกับออกอาการไม่พอใจอย่างรุนแรงเกินปกติวิสัยของคน


"ยังสงสัยว่าเป็นฆาตกรจริงๆหรือเปล่า"


ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ ทั้งเอพี เอเอฟพี รอยเตอร์ รายงานตรงกันว่า นายจอห์นสารภาพกับเจ้าหน้าที่สอบสวนของสหรัฐฯว่า เมื่อปี 39 ได้ไปรับหนูน้อยแรมซีย์ที่โรงเรียนในรัฐโคโลราโด ก่อนวางยาสลบและข่มขืนแล้วฆ่าปิดปาก แต่คำรับสารภาพของผู้ต้องหากลับขัดแย้งกับพยานหลักฐานการชันสูตรศพไม่พบว่าเหยื่อถูกวางยา ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังสงสัยว่า ขณะเกิดเหตุ นายจอห์นอยู่ในโคโลราโดจริงหรือไม่ ด้านเครก ซิลเวอร์แมน อดีตอัยการรัฐเดนเวอร์ เผยว่า น้ำหนักการสอบสวนอยู่ที่ผลตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย หากไม่ตรงกับที่พบในที่เกิดเหตุ กระบวนการสอบสวนก็มีปัญหา แต่ถ้าผลออกมาตรงคดีก็จบ

เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯหลายคนกำลังตั้งข้อสังเกตว่า นายจอห์นเป็นฆาตกรตัวจริง หรืออาจจะเป็นแค่การรับสารภาพของคนที่ไม่ปกติทางจิต เพราะยังไม่มีรายงานระบุว่า มีการตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องหาเทียบกับของเหลวที่พบที่กางเกงในของเหยื่อแล้วหรือไม่ พร้อมกับไม่มีรายงานพูดถึงหลักฐานอื่นๆ ที่บ่งชี้ว่านายจอห์นเกี่ยวข้องกับคดีอย่างชัดเจน เพราะผู้ต้องหาไม่ได้เปิดเผยว่า รู้จัก กับครอบครัวแรมซีย์หรือตัวเด็กได้อย่างไร


"ยันติดตามคดีทำหนังสือ"


ทั้งนี้ ทางการสหรัฐอเมริกาได้ตรวจสอบประวัติฆาตกรฆ่าหนูน้อยแรมซีย์ พบเป็นพ่อม่ายลูก 3 เคยถูกจับในข้อหาเป็นเจ้าของภาพลามกเด็กในสหรัฐฯ เมื่อปี 44 และเดินทางไปหลายประเทศทั่วโลกเพื่อหางานเป็นครูสอนหนังสือ เคยสอนในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเวลา 2 เดือน เมื่อปี 45 ก่อนเดินทางเข้าไต้หวันเมื่อเดือน ส.ค. ปี 48 เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯเตือนด้วยว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่านายจอห์นเป็นผู้สังหารเด็กหญิงวัย 6 ขวบ แม้จะรับสารภาพ อ้างคำเปิดเผยของนางลารา อดีตภรรยาของผู้ต้องหาที่ระบุว่า ตนอยู่กับสามีด้วยกันที่รัฐอลาบามา เมื่อมีการพบศพหนูน้อยแรมซีย์ ที่ห้องเก็บของในชั้นใต้ดินของบ้านที่รัฐโคโลราโด แต่ อดีตสามีชอบเฝ้าศึกษาคดีสังหารหนูน้อยคนดังกล่าวมานาน สอดคล้องกับคำบอกเล่าของนายเว็กฟอร์ด พ่อของนายจอห์น ที่ว่าลูกชายสนใจคดีนี้ และได้ทำวิจัยเกี่ยวกับคดีเพื่อเขียนเป็นหนังสือ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว และเป็นเมืองศูนย์กลางต่อเครื่องบินไปยังที่ต่างๆ จึงต้องมีความร่วมมือกับนานาประเทศในเรื่องแบล็กลิสต์ข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะนโยบายประเทศ ไทยที่มีการเปิดประเทศมากทำให้กลายเป็นแหล่งสวรรค์ ของอาชญากรหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะทุกประเทศก็เปิดกัน และมีอาชญากรกันทุกประเทศ ในส่วนของประเทศไทยถือว่ามีไม่มาก เพราะเป็นเมืองสงบ มีปัญหาน้อย เมื่อถามว่า จะต้องมีมาตรการควบคุมดูแลอาชญากรต่างประเทศเป็นพิเศษหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ถ้าทราบประวัติ และมีหมายจับ ก็ต้องติดตามจับ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรตำรวจสากลอยู่แล้ว เรามีระบบคอมพิวเตอร์ตรวจสอบประวัติอยู่ ยกเว้นคน ต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเมืองไทย แล้วมาก่อคดีเพราะอารมณ์ตัณหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ ต้องคอยระมัดระวัง


"ขอให้เข้มงวดประวัติครูต่างชาติที่เข้ามาสอน"


นายจักรภพ เพ็ญแข รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการของนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ แถลงว่า ประเทศไทยได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก ที่ร่วมกับทางการประเทศสหรัฐอเมริกาตามจับผู้ต้องหา แต่สิ่งที่รัฐบาลควรต้องหันมาให้ความสนใจมากขึ้น คือเรื่องของมาตรฐานการรับบุคคลเข้ามาเป็นผู้สอนและครูในโรงเรียนนานาชาติ ควรต้องมีการเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้น เร่งรัดให้ทบทวนเพิ่มเติมมาตรการเข้มงวดกวดขัน ตรวจสอบดูแลผู้ทำหน้าที่สอนและครูในโรงเรียนนานาชาติ ไม่ใช่วัวหายล้อมคอก แต่จะเป็นการล้อมคอกก่อนวัวจะหาย ทั้งนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็เคยมีหลายคดีที่ผู้สอนชาวต่างชาติ ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ และมีเพศสัมพันธ์ทั้งต่อเด็กหญิงและเด็กชาย จนถูกจับกุมดำเนินคดีมาหลายราย

สำหรับมาตรการที่จะนำเสนอกระทรวงศึกษาฯ นายจักรภาพเผยว่า จะมีการทบทวนรายละเอียดคุณสมบัติครู หรือผู้ทำหน้าที่สอนในโรงเรียนนานาชาติทุกขนาดในไทย ชาวต่างชาติผู้ทำหน้าที่สอนต้องได้รับใบอนุญาตการทำงาน และมีหลักฐานนิวาสสถานอยู่ในประเทศ เพราะทราบว่า ยังมีผู้สอนจำนวนมากยังใช้วีซ่าสมัครเป็นผู้สอนเป็นครั้งคราว เพียง 2-3 เดือนแล้วเดินทางกลับออกไป เป็นลักษณะครูพเนจรมากกว่าที่จะตั้งใจมาสอน และขอให้ผู้สอนทุกระดับให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในการซักประวัติทั้งอดีตและปัจจุบัน


"ต้องดู สตม.และ ตร.สากล"


นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การจะรับคนต่างชาติเข้าเป็นครูคงต้องมีการกวดขันเรื่องการตรวจสอบประวัติให้มากขึ้น แต่เรื่องนี้จะโทษโรงเรียนฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะโรงเรียนไม่มีขีดความสามารถพอที่จะรู้และตรวจสอบประวัติอาชญากรข้ามชาติได้ ต้องดู สตม. และตำรวจสากลว่า มีปัญหาอะไรถึงปล่อยให้ครูคนนี้เข้ามาอยู่ในเมืองไทยได้ตั้งนาน และไม่มีระบบประวัติส่งมาให้โรงเรียน โชคดีที่สามารถกู้หน้าด้วยการจับกุมก่อนที่จะมีปัญหาเกิดขึ้น

นายอนุสรณ์ ไทยเดชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กล่าวว่า ปกติการรับครูต่างชาติเข้ามาสอนในโรงเรียนเอกชน หรือโรงเรียนนานาชาติ สช.จะมีระบบที่ค่อนข้างรัดกุม ขั้นตอนแรกโรงเรียนจะคัดเลือกคนเข้ามาตามคุณสมบัติที่โรงเรียนต้องการ ยื่นเรื่องขออนุญาตเป็นครูสอน และ หากได้รับใบอนุญาตจะทำเรื่องไปยังกระทรวงแรงงานออกใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย ก่อนส่งหนังสือไปยังกรมการกงสุล ทำหนังสือเดินทางอยู่ในเมืองไทยได้ 1 ปี โดยขั้นตอนนี้จะต้องแจ้งข้อมูลไปยังกรมการจัดหางาน สตม.และสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติตรวจสอบว่า มีภัยเรื่องของความมั่นคงหรือไม่



แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์