คมชัดลึก :รวบหนุ่มใหญ่วัย 46 ฉุดนักเรียนหญิง ม.1 โปะยาสลบฉุดขึ้นรถตู้จากอนุสาวรีย์ฯ ไปขังล่ามโซ่เปลือยกายไว้ที่บ้านเช่าปทุมธานี เจ้าตัวสารภาพหลงรักมานาน แต่เด็กคบกับ จยย.รับจ้าง อ้างไปรับตัวมาเอง ยันไม่ได้ข่มขืน
แม้ว่าละครโทรทัศน์เรื่อง "จำเลยรัก" ลาจอไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน ทว่าได้เกิดเหตุการณ์ซึ่งราวกับว่าถอดแบบมาจากบทละคร ซึ่งเรื่องราวของจำเลยรักนอกจอรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 มิถุนายน ร.ต.อ.เกรียงไกร แสงยศ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากนายสุชาติ จงเจริญ อายุ 61 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เทศบาลเมืองรังสิตว่า ได้ยินเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลืออยู่ภายในบ้านเลขที่ 19 ซอยรังสิต-นครนายก 42 หมู่ 3 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี เกรงว่าจะมีเหตุอันตรายขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นมีรั้วมิดชิด ประตูหน้าบ้านมีกุญแจคล้องอยู่อย่างแน่นหนา และได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลืออยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดกุญแจหน้าบ้านและเข้าไปด้านใน พบเด็กหญิงคนหนึ่งทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นั่งอยู่บนเตียงเล็กๆ โดยมีโซ่ขนาดใหญ่ยาวประมาณ 1 เมตร ล่ามอยู่ที่ข้อเท้าขวา และมีลูกกุญแจคล้องอยู่อีกชั้น เจ้าหน้าที่จึงตัดโซ่ที่ล่ามข้อเท้าออก
สอบสวนในเบื้องต้น ด.ญ.น้ำให้การว่า พักอยู่บ้านเลขที่ 111/1 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร และเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตดุสิต ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 25 มิถุนายน ขณะกลับจากบ้านเพื่อน ผ่านมาทางหน้าวัดมะกอก ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมมรภูมิ เพื่อจะกลับบ้าน มีรถตู้ไม่ทราบสีและยี่ห้อ ขับมาจอดด้านข้าง จากนั้นคนร้ายลงมาจากรถแล้วใช้ผ้าปิดปากและจมูกของเธอ ทำให้หมดสติไป
"หนูมารู้สึกตัวอีกครั้งในเวลาประมาณ 06.00 น. วันนี้ (26 มิ.ย.) พบว่านอนอยู่บนเตียงภายในบ้านของใครก็ไม่รู้ และอยู่ในสภาพเปลือยกาย โดยมีโซ่ล่ามข้อเท้าขวาอยู่ ต่อมามีชาย 2 คน เข้ามาในบ้านและซื้อข้าวกล้อง 2 กล้องมาให้กิน จากจากนั้นคนทั้งสองก็หายไปจากบ้าน หนูจึงได้ตะโกนเรียกให้คนมาช่วย" ด.ญ.น้ำกล่าว
ภายหลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว ด.ญ.น้ำ ส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งติดต่อญาติให้มารับตัว พร้อมทั้งสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ในเวลาต่อมา พ.ต.ท.วรพจน์ ชูเชิด รองผู้กำกับการ (รอง ผกก.) สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รับรายงานว่า นายสถิต ผ่องโสภณ อายุ 46 ปี พนักงานการประปานครหลวง ผู้ต้องสงสัย ได้ย้อนกลับมายังบ้านที่เกิดเหตุ จึงได้ประสานงานไปยัง พ.ต.ท.ภาคภูมิ โห้ใย สารวัตรสืบสวนสอบสวน (สว.สส.) สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปควบคุมตัวเอาไว้ได้ทัน พร้อมทั้งนำตัวมาสอบสวน
นายสถิตกล่าวให้การภาคเสธว่า กักขังหน่วงเหนี่ยว ด.ญ.น้ำ ไว้ในบ้านพักจริง แต่ไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด โดยบอกว่าทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่การประปานครหลวง สามเสน กรุงเทพฯ และเคยรู้จักกับ ด.ญ.น้ำมาก่อน และเมื่อคืนที่ผ่านมาได้รับตัว ด.ญ.น้ำมาจากย่านอนุสาวรีย์ชัย แล้วนำตัวมาอยู่ที่บ้านพักของตัวเองที่เช่าเอาไว้ย่านรังสิต จ.ปทุมธานี แต่ระหว่างที่อยู่บ้านหลังดังกล่าว ด.ญ.น้ำ จ้องจะหลบหนี จึงไปซื้อโซ่มาล่ามขาไว้ และจัดหาข้าวปลามาให้กิน ทั้งนี้ นายสถิตย้ำอีกว่า ไม่เคยข่มขืน ด.ญ.น้ำ และที่กล่าวหาว่าจับตัวเด็กขึ้นรถตู้นั้น ก็ไม่จริง เพราะไม่มีรถตู้
"ผมชอบ ด.ญ.น้ำ แต่เขาชอบอยู่กับคนชื่อหงอก ที่ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ใต้ทางด่วนย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และในวันนี้ (26 มิ.ย.) ตั้งใจจะติดต่อพ่อแม่ของเด็ก เพื่อพาไปส่งที่บ้าน แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน ยอมรับว่ากักขังจริง แต่ผมไม่ได้ข่มขืนเด็ก" นายสถิตกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.วรพจน์กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ล่อไป หรือพาไปซึ่งเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร นอกจากนี้จะประสานงานไปยังอัยการและนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อสอบปากคำเด็กหญิงผู้เสียหายตามระเบียบ และถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดมากกว่านี้ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เดินทางมายังโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ เพื่อเข้าเยี่ยม ด.ญ.น้ำ โดยนางปวีณากล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ประสานกับตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ขอนำ ด.ญ.น้ำไปดูแลเป็นการชั่วคราวที่มูลนิธิ พร้อมทั้งจะประสานงานไปยังผู้ปกครองของเด็กให้ทราบเรื่อง