ตร.ล่าจับพระหื่นลวงขยี้ดญ.ในกุฏิ

ตร.ล่าจับพระหื่นขืนใจด.ญ.วัย 10 ขวบ เผยลวงขยี้ในกุฏิขณะเหยื่อไปช่วยเก็บข้าวของในวัดแลกกับอาหารที่พระเหลือฉัน แฉลงมือนานเป็นเดือนหลังเสร็จกิจให้เงินปิดปากบังคับไม่ให้ไปบอกใคร แต่ความแตกเพราะพระข้างห้องเห็นผิดสังเกตเรียกมาถามจึงยอมพูดความจริง จากนั้นจึงพาแจ้งความ ด้านพระหื่นแหกพรรษาเผ่นหนีเตลิดจากวัด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ร.ต.ท.หาญศักดิ์ ม่านตา ร้อยเวร สภ.อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้นิมนต์พระภิกษุมณฑล เขมโก อายุ 53 ปี และพระภิกษุประจักษ์ สุธมฺโม อายุ 37 ปี พระลูกวัดมะขามเตี้ย หมู่ 8 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ พระภิกษุทั้งสองรูป ได้นำด.ญ.วัย 10 ขวบ พร้อมผู้ปกครองมาแจ้งความว่าถูกพระภิกษุลำพูน มหาคุโณ อายุ 55 ปี พระลูกวัดอีกรูปล่อลวง บังคับข่มขืน กระทำชำเราหลายครั้งภายในกุฏิมานานร่วมเดือน และขณะนี้พระภิกษุลำพูนหลบหนีความผิดออกจากวัดไป

จากการสอบสวนทราบว่า ด.ญ.บัว(นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นป.2 อาศัยอยู่กับพ่อแม่ มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 1 คน แต่ทางบ้านมีฐานะยากจน ทุกวัน ด.ญ.บัวจะถีบรถจักรยานไปโรงเรียน หลังเลิกเรียนจะขี่รถจักรยานไปที่วัดมะขามเตี้ย เพื่อช่วยล้างจาน และทำงานต่างๆ ภายในวัดเป็นประจำ บางครั้งชาวบ้านที่มาทำงานให้กับวัดจะให้เงิน เพราะเห็นว่าเด็กคอยช่วยงานเป็นประจำ และทุกวันก่อนกลับบ้าน ด.ญ.บัวจะเดินไปตามกุฏิทุกหลัง เพื่อจะไปเก็บกับข้าวที่พระไม่ได้ฉันเหลือเอาไว้ให้ และทำแบบนี้มานานเป็นปี

ด.ญ.บัว ให้การว่า เมื่อประมาณเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ไปเก็บอาหารที่พระเหลือจากฉันแล้ว โดยเดินไปตามกุฏิแต่ละหลังทุกวัน จนมาถึงกุฏิที่พระภิกษุลำพูนพักอยู่ภายในห้องรูปเดียว เรียกให้เข้าไปในห้อง ก่อนปิดประตูใส่กลอน บอกว่าจะให้เงินใช้ และใช้กำลังปลุกปล้ำ ใช้มืออุดปาก จับถอดเสื้อลงมือขืนใจ เมื่อเสร็จแล้วห้ามบอกใคร โดยให้เงินมาใช้ครั้งละไม่เกิน 50 บาท และยังบอกให้มาเอากับข้าวที่กุฏิทุกวัน จะเตรียมเงินเอาไว้ให้อีก

ตลอดเวลาที่มาเก็บกับข้าว จะถูกพระภิกษุลำพูนกระทำลักษณะแบบเดียวกันทุกครั้งเป็นเวลานานร่วมเดือน ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากพระภิกษุลำพูนขืนใจและให้เงินมา 20 บาท ด้วยความกลัวไม่กล้าบอกกับพระรูปอื่น เพราะกลัวจะมาที่วัดไม่ได้ และไม่มีกับข้าวเอาไปกินที่บ้าน จึงเก็บเรื่องเงียบไว้คนเดียว กระทั่งเดินออกมาจากห้อง พบพระอีกรูปหนึ่งออกมาเจอพอดี จึงรีบขี่รถจักรยานกลับบ้าน

ด้านพระภิกษุมณฑล ให้การว่า ตลอดเวลาที่พระภิกษุลำพูนมาอยู่ที่วัดมะขามเตี้ย สังเกตว่ามีความผิดปกติ เนื่องจากไม่ยอมออกไปไหนในช่วงเวลากลางวัน แต่จะออกจากวัดไปข้างนอกช่วงเย็นหรือค่ำ เวลากลับวัดจะดึก ตนพักอยู่ห้องติดกันกับพระภิกษุลำพูน วันเกิดเหตุต้มน้ำเตรียมจะชงกาแฟ ขณะที่รอให้น้ำร้อน เห็นด.ญ.บัวเดินออกมาจากห้องพระภิกษุลำพูน

มีท่าทางพิรุธเหมือนกับจะร้องไห้ รีบก้มหน้าเดินลงไปขี่รถจักรยานกลับบ้าน วันต่อมา ด.ญ.บัว มาวัดกับแม่ จึงเรียกทั้ง 2 คน มาสอบถาม โดยบอกว่าขอให้พูดความจริง ถ้าโกหกพระ โกหกแม่จะมีบาป ก่อนถามว่าหลังจากเข้าไปเอาอาหารถูกพระภิกษุลำพูนทำอะไรหรือไม่ หลังจากสอบถามกันอยู่ไม่นาน ด.ญ.บัวจึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง หลังจากทราบเรื่องจึงให้แม่เด็กพาเข้าแจ้งความทันที

ส่วนพระภิกษุประจักษ์ ให้การว่า พระภิกษุลำพูนเพิ่งบวชได้ 2 พรรษา แต่ก่อนอยู่ที่วัดบ้านน้ำดำ ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ต่อมาถูกชาวบ้านขับไล่ออกมาจากวัด และมาขอเจ้าอาวาสวัดมะขามเตี้ยอยู่ได้ประมาณ 4 เดือน ชอบออกจากวัดไปช่วงกลางคืน เวลากลับมาจะปีนรั้ววัดเข้าไปในกุฏิ ทำให้พระภายในวัดต่างรู้พฤติกรรมดี ช่วงที่ระแคะระคายทำอะไรมิดีมิร้ายกับด.ญ.บัว พระในวัดกำลังติดตามดูพฤติกรรม แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด จึงต้องรอเวลา เพื่อจะจับผิดให้ได้คาหนังคาเขา กระทั่งมีพระห้องติดกันเห็นด.ญ.บัวออกมาจากห้องพระภิกษุลำพูน หลังจากสอบถามจึงทราบเรื่องดังกล่าว

ร.ต.ท.หาญศักดิ์ กล่าวว่า ส่งตัวด.ญ.บัวไปให้แพทย์ตรวจหาร่องรอยการข่มขืน ขณะนี้ยังรอผลการตรวจ หลังจากทราบผลจากแพทย์จะนำตัวไปสอบปากคำอีกครั้ง ต่อหน้านักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา และอัยการ ช่วงนี้เด็กมีอาการหวาดกลัว เนื่องจากได้รับผลกระทบทางจิตใจ สำหรับผู้ต้องหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าไปดักซุ่มที่บริเวณวัดในช่วงกลางคืน

เพื่อจะจับกุมตัว แต่ปรากฏว่ารู้ตัวเสียก่อนหลบหนีออกจากวัดในคืนเดียวกัน ทราบว่าหลบหนีไปอยู่บ้านสวนเมี่ยง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก จะขออำนาจศาลออกหมายจับ ในข้อหากระทำชำเราหญิงอื่นมิใช่ภรรยาของตนโดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด