อุกอาจ5คนร้าย ปล้นทอง หนัก15กิโลหนี

เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (22 มิ.ย.) พ.ต.ท.ธนเดช แก้วภิญโญ สารวัตรเวร สภ.บางเสาธง ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายทุบกระจกรถโดยใช้อาวุธปืน จ่อบังคับพนักงานไม่ให้ขัดขืน

โดยถูกคนร้ายได้ใส่กุญแจมือผู้เสียหาย จำนวน 2 คน บังคับให้นั่งหลังรถ จากนั้นคนร้ายจำนวน 2 คนได้ขับรถ แล้วนำทองคำแท่งหนัก 15 กิโลกรัม และซิลเวอร์ (เงิน) จำนวน 2 กิโลกรัม ซึ่งพนักงานเตรียมจะนำไปส่งเยาวราชหลบหนีไป ก่อนนำผู้เสียหายมาทิ้งบริเวณถนนบางนาตราด กม.22 จึงรีบรายงานให้ผู้บัญชาทราบบังคับ และรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต. ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ภวัต พรหมะกฤต รอง ผบก.พ.ต.อ.ปราศรัย จิตตสนธิ ผกก.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.บางเสาธง เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้สีครีม ทะเบียน ภณ 4864 กรุงเทพ จอดทิ้งไว้ริมถนนบางนาตราด พบกระจกด้านคนขับถูกทุบจนแตก และพบพนักงานบริษัทจำนวน 2 คน ถูกจับใส่กุญแจมือ จึงให้การช่วยเหลือ และนำไปสอบปากคำที่ สภ.บางเสาธง

จากการสอบสวน นายปัญญา อย่างพารา อายุ 24ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นผู้คุมรถขนทอง ได้ให้ปากคำว่า

รถคันเกิดเหตุ เป็นรถกระบะวีโก้สีครีม ทะเบียน ภณ 4864 กรุงเทพ ของ บริษัทบางกอกเอสเสย์ ออฟฟิต จำกัด เลขที่ 155หมู่15 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ มีนางพนิดา สุวรรณดี เป็นผู้บริหาร ซึ่งเป็นบริษัทดังกล่าวรับหลอมทองคำแท่งเพื่อนำไปส่งเยาวราช โดยปกติบริษัทจะนำทองคำแท่งไปส่งที่เยาวราชวันละ 2 รอบ เป็นประจำทุกวัน โดยช่วงบ่ายวันนี้ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ให้พนักงานจำนวน 2 คน คือ นายอดิศักดิ์ พิสมร อายุ 24ปี และ นายอดิศักดิ์ อารีสวัสดิ์ อายุ 30ปี ซึ่งเป็นคนขับ นำทองคำแท่งจำนวน 15 กิโลกรัม ซึ่งใส่อยู่ในกล่องเหล็กสีแดง จำนวน 2 กล่องกว้าง 10 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว หนา 3 นิ้ว และนำใส่ในถุงอีกชั้นหนึ่ง พร้อมด้วยซิลเวอร์ (เงิน) หนัก 2 กิโลกรัมนำขึ้นรถ เพื่อนำไปส่งที่เยาวราชตามปกตินั้น 

ต่อมาช่วงบ่ายตนได้รับโทรศัพท์จากพนักงานทั้งสองคนว่า ถูกคนร้าย ขับรถตามประกบ บริเวณ จุดกลับรถหน้าห้างโลตัส สาขา ซิตี้ปาร์ค บางพลี ถ.เทพารักษ์ ติดกับคลองมหาชื้น

ซึ่งออกจากบริษัทประมาณ 3 กม. โดยมีรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชชิ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดดักหน้า และ มีรถอีกคัน ซึ่งจำไม่ได้ว่าเป็นรถอะไรมาจอดประกบท้าย โดยคนร้ายสวมไอ้โม่งได้ลงจากรถ จำนวน 4 คน โดยในรถมีคนร้ายคุมเชิงอีก 1คน จากนั้นคนร้ายจำนวน 2 คน ได้ใช้ปืนสั้น 2 กระบอก จี้บังคับพนักงานทั้งสองคนไม่ให้ขัดขืน และคนร้ายได้นำเหล็กขนาดใหญ่ มาทุบกระจกรถด้านคนขับจนแตก จากนั้นได้นำกุญแจมือใส่พนักงานของบริษัท พร้อมนำผ้ามาปิดเพื่อไม่ให้เห็น และบังคับให้นั่งด้านหลัง บริเวณแคบของรถ

จากนั้นคนร้ายทั้งสองได้ขับรถออกมาจากจุดเกิดเหตุและนำรถมาจอดทิ้งไว้บริเวณถนนบางนา-ตราดกม.22 พร้อมกับชิงทองคำแท่งหนัก 15 กิโลกรัม มูลค่า 15 ล้านบาท

และซิลเวอร์เงินหนัก 2 กิโลกรัม มูลค่า 2 แสนบาท ไปด้วย จากนั้นจึงได้แจ้งให้พนักงานบริษัททราบ ด้าน พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผ.บช.1 หลังทราบข่าวได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวว่า คดีดังกล่าวถือว่าเป็นดคีอุกฉกรรจ์ เพราะก่อเหตุช่วงกลางวัน อาจจะเกิดจากคนในบริษัท เพราะการขนทองคำของบริษัทไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องเร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริงและเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด