เหยื่อสาวระบุ ต้องการหาเพื่อนคุยทางอินเทอร์เน็ต เผยถูกชกท้อง-ตบหน้าและถ่ายคลิปไว้ ด้านตร.ตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย อีก 2 ยังหลบหนี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) ร.ต.ท.วิบูลย์ นนทะแสง รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังจับกุมนายภาคภูมิ หรือน้อย แก้วกงพาน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/1 ซอยบ้านหนองนาเกลือ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี นายหนู (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ด.ช.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี โดยแจ้งข้อหาร่วมกันโทรมหญิง โดยมี น.ส.เอ น(ามสมมติ) อายุ 16 ปี ราษฎร ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้เสียหายชี้ตัวให้จับกุม พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง ไปสอบสวน
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เวลา 20.00 น. วันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เอ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ศรชัย ช่วยชัย ร้อยเวร สภ.เมือง อุดรธานี ว่าโดนนายหนู ซึ่งรู้จักกันทางอินเทอร์เน็ตเพียง 1 วัน แช๊ตหลอกไปให้เพื่อนรุมข่มขืน โดยเหตุเกิดกลางคืนวันที่ 15 มิ.ย. ถึงหัวค่ำวันที่ 16 มิ.ย. ที่บ้านเลขที่ 30 ซอยบ้านเหล่า ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี และโรงแรมบานเย็น ซอยอดุลยเดช 7 ถนนอดุลยเดช เขตเทศบาลนครอุดรธานี ต่อเนื่องกัน
น.ส.เอ ให้การเพิ่มเติมว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ทำงานรับจ้าง ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้าวันที่ 15 มิ.ย. ตนได้เข้าไปแช๊ตคิวคิว หาเพื่อนในร้านอินเทอร์เน็ต
พบกับนายหนู และนัดพบกันที่ปากซอยหน้าบ้านของตนเอง โดยมีนายหนูและนายหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์มารับตนไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะหนองสิม เขตเทศบาลนครอุดรธานี จนถึงช่วงค่ำนายหนูและนายหนึ่งได้ชักชวนตนไปเล่นที่บ้านเพื่อนรุ่นพี่ทราบ ชื่อภายหลังว่านายปรีชา หรือตุ๋ม ยศอ่อน อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 30 ซอยบ้านเหล่า ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี
เมื่อตนไปถึงบ้านหลังดังกล่าวพบนายปรีชา นายภาคภูมิ และนายทีป (นามสมมติ) อายุ 16 ปี อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยตนได้นั่งเล่นอยู่ที่เตียงไม้ไผ่หน้าบ้าน ทั้งหมดได้ชักชวนกันตั้งวงดื่มเหล้า โดยนายหนูเป็นคนอาสาออกไปซื้อเหล้ามาดื่ม ทั้งหมดตั้งวงดื่มเหล้าจนดึก ด.ช.หนึ่ง ได้มาขอยืมโทรศัพท์ของตนไปโทรหาเพื่อนและไม่ยอมคืนโทรศัพท์ให้ตน ส่วนนายภาคภูมิได้เข้ามาพูดจาลวนลามตน ก่อนจะลงมือข่มขืนตนเป็นคนแรก ที่เตียงไม้ไผ่หน้าบ้าน
หลังจากนั้นนายปรีชา นายทีป และ ด.ช.หนึ่ง ก็เรียงคิวข่มขืน ทั้งที่ตนต่อสู้ขัดขืนก็ถูกชกท้องและตบหน้า และถูกข่มขู่ต่างๆ นานา
พร้อมกับนำโทรศัพท์มาถ่ายคลิปวีดีโอ หลังจากข่มขืนเสร็จ นายภาคภูมิได้ฉุดตนขึ้นไปบนบ้าน แล้วเรียงคิวข่มขืนตนอีกครั้ง กระทั่งรุ่งเช้า นายภาคภูมิได้อาสาไปส่งตนที่บ้าน แต่กลับนำตนไปที่โรงแรมบานเย็น แล้วบังคับข่มขืนตนอีก ก่อนหลบหนีไป
จากการสอบสวนนายหนู ให้การรับสารภาพว่า ได้เล่นอินเทอร์เน็ต และแช๊ตคิวคิว จนรู้จักกับ น.ส.เอ ได้เพียงวันเดียว และนัดพบกันที่หน้าปากซอยบ้านน.ส.เอ โดยตนขี่รถจักรยานยนต์ไปรับ น.ส.เอ ไปเล่นที่บ้านนายปรีชาซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ และชักชวนนายภาคภูมิ ด.ช.หนึ่ง นายทีป ตั้งวงดื่มเหล้ากัน พอตนเหล้าหมดตนออกไปซื้อเหล้า ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับ น.ส.เอ เมื่อกลับมา นายภาคภูมิได้อาสาไปส่ง น.ส.เอ กลับบ้าน ตนไม่ได้ว่าอะไร กระทั่งมาถูกตำรวจจับ
ส่วนนายภาคภูมิ และ ด.ช.หนึ่ง ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายปรีชา และนายทีป บังคับข่มขืน น.ส.นุช จริง
ส่วนโทรศัพท์มือถือได้นำไปขายที่ร้านยอด เขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้เงินมา 700 บาท นำไปซื้อเหล้ามาดื่มด้วยกัน ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ส่วนนายปรีชา และนายทีป ที่หลบหนีการจับกุม ตำรวจจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
รวบแก๊งโจ๋หื่นแช๊ตคิวคิวลวงสาวไปรุมโทรม
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!