เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 18 มิ.ย. ร.ต.ท.หญิง เพชรรัตน์ เลิศวานิช ร้อยเวร สน.บางพลัด
รับแจ้งเหตุฆ่าแม่ชีภายในวัดรวกบางบำหรุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมด้วยพ.ต.อ. สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบก.น.7, พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ พฤกษ์สุวัฒน์ สว.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณหน้าที่พักแม่ชีใกล้กับห้องน้ำรวมด้านข้างศาลาการเปรียญของวัด พบศพแม่ชีสนม น้อยประเทศ อายุ 68 ปี
ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 6 ซอยเทอดไท 19 (วัดโพธิ์นิมิตร) แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. สภาพศพสวมชุดแม่ชีสีขาว เต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน มีบาดแผลถูกทำร้ายเข้าที่เบ้าตาปูดทั้ง 2 ข้าง ศีรษะแตก กรามหัก ลิ้นจุกปาก สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 12 ชั่วโมง ส่วนภายในที่พักพบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินกระจุยกระจาย
ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบชายต้องสงสัยสวมกางเกงเปื้อนเลือดเดินอยู่บริเวณวัด
เจ้าหน้าที่จึงไปควบคุมตัวมาระหว่างนอนพักผ่อนอยู่ภายในวัด สอบสวนทราบชื่อคือนายปรีชา หรือเปี๊ยก นิสงค์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด อยู่ในสภาพมึนเมา โดยช่วยเมียขายน้ำอยู่หน้าวัดและอาศัยอยู่บริเวณวัดมานานแล้ว ตอนแรกนายปรีชาอ้างว่ากางเกงเปื้อนเลือดเมีย เนื่องจากทะเลาะกันจึงลงไม้ลงมือได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อตำรวจไปสอบปากคำเมียกลับไม่พบว่ามีเรื่องอะไรกัน
เตะแม่ชีตายคาวัด-ปล้นเงินขายที่ดิน
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก ในที่สุดนายปรีชา ก็ยอมสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าแม่ชีสนม
โดยอ้างว่าไม่ชอบหน้าเป็นการส่วนตัว เพราะเป็นคนเก่าแก่ที่นี่ แต่แม่ชีเพิ่งย้ายมาอยู่ได้เพียง 2-3 ปี กลับชอบใช้สายตาดูถูก โดยนายปรีชาระบุว่า ก่อนเกิดเหตุไปดื่มเหล้ากับเพื่อนและเล่นไฮโลจนหมดตัว จนช่วงเช้ามืดเดินกลับบ้านที่วัดพบแม่ชีคู่อรินั่งซักผ้าหันหลังให้อยู่ ด้วยความหมั่นไส้จึงปรี่เข้าไปใช้หน้าแข้งเตะเข้าที่ก้านคอ ใบหน้า และใช้หมัดชกต่อยไปหลายครั้งจนแม่ชีล้มฟุบหมดสติ ก่อนที่จะลากร่างไปทิ้งไว้หน้าที่พักแม่ชี ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง 3-4 เมตร แล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อหลับพักผ่อนโดยไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินอะไรเลย
ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด ได้พาตัวนายปรีชา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่าม กลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านในละแวกนั้น
โดยจุดแรกเป็นจุดที่นายปรีชา เดินเข้าไปปัสสาวะในห้องน้ำ แล้วเห็นแม่ชีสนม นั่งซักผ้าอยู่ จุดที่สองเป็นจุดที่นายปรีชา เตะก้านคอแม่ชีสนม จากทางด้านหลังตามด้วยการใช้หมัดรัวใส่จนหมดสติ จุดที่สามเป็นจุดที่นายปรีชา ลากศพไปทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าที่พัก และสุดท้ายอยู่บริเวณหน้ากุฏิพระซึ่งห่างไปประมาณ 150 เมตร เป็นจุดที่นายปรีชา เปลี่ยนเสื้อและนอนพักอย่างสบายอารมณ์บนเตียงผ้าใบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบควบคุมตัวนายปรีชา ไปสอบปากคำต่อที่โรงพักท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนาเนื่องจากเกรงว่าชาวบ้านจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์
นายพิเชษฐ์ แข็งแรง อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่วัด กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพระและชีในวัดว่า แม่ชี สนม ถูกฆ่าตายเมื่อตอน 06.00 น.
จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ระหว่างนั้นนายปรีชาทำทีเดินมาเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อพบหน้าตน นายปรีชาก็รีบหันหลังเดินกลับไปช่วยภรรยาเข็นรถขายน้ำมาจอดบริเวณหน้าวัด ซึ่งระหว่างนั้นเห็นว่าที่กางเกงของนายปรีชา มีคราบเลือดติดอยู่ด้วยเลยรีบบอกตำรวจ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าแม่ชี น่าจะถูกฆ่าก่อนเที่ยงคืนมากกว่า เพราะทราบว่ามีคนเห็นนายปรีชา ไปซื้อเหล้าตอนประมาณเที่ยงคืนโดยใช้แบงก์พันเปื้อนเลือดจ่าย พอมีคนถามก็อ้างว่าเปรอะเลือดประจำเดือนของเมีย และที่นายปรีชา อ้างว่าแม่ชีเพิ่งมาอยู่และมีเรื่องกันนั้นก็ไม่จริง เพราะแม่ชีสนม อยู่วัดนี้มาประมาณ 30 ปีแล้ว ก่อนที่นายปรีชา จะมาอาศัยอยู่ด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องหรือมีปัญหากับใครมาก่อน
ด้านพ.ต.ท.อำนวย น้อยประเทศ รอง ผกก. ปป.สน.พหลโยธิน ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแม่ชีสนม เปิดเผยว่า แม่ชีเป็นผู้พิการทางสายตาตั้งแต่กำเนิด
หลังจากที่คุณย่าเสียชีวิตเมื่อ 30 ปีก่อน แม่ชีสนมก็ตัดสินใจบวชและไม่ยอมสึกอีกเลย ส่วนเรื่องรายละเอียดทางคดีนั้น ยังไม่ทราบอะไรมากแต่ตอนนี้ได้ให้หลานเป็นผู้ไปประสานกับตำรวจ สน.บางพลัด เพื่อติดต่อขอรับศพมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีแล้ว แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดแม่ชีสนม กล่าวว่า แม่ชี สนมเพิ่งจะได้เงินมาจากการขายที่ดินจำนวนหลายแสนบาท ทำให้มีผู้เข้าไปขอหยิบยืมเงินกันอยู่ประจำ ซึ่งนายปรีชาก็เพิ่งจะเล่นไฮโลเสียจนหมดตัว และอาจจะต้องการเงินไปซื้อเหล้า จึงเข้าไปขอยืมจากแม่ชี แต่เมื่อถูกปฏิเสธจึงลงมือทำร้ายจนเสียชีวิต ก่อนรื้อค้นทรัพย์สินในกุฏิแล้วหลบหนีอยู่ภายในวัด เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย แต่ก็ตบตาตำรวจไม่สำเร็จ