300 ตร.ลั่นหน้าศพ จับมือฆ่า ให้สวป.ตายสงบ

"คาดว่าคนร้ายเป็นคนในหน่วยงานราชการ"


ตำรวจยังคงเร่งสืบสวนแกะรอยคลี่คลายคดีสังหารโหด พ.ต.ต.กิติศักดิ์ สถิตพานิช ช่วยราชการ สวป.สภ.อ. อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา ล่าสุดพุ่งปมเป็นเรื่องการเผชิญเหตุซึ่งหน้า อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีมือปืนยิงถล่มนายสนม เสมอภักดิ์ สมาชิก อบต.คลองสะแก อ.นครหลวง

เสียชีวิตในคืนเดียวกัน โดยชุดสืบสวนได้ เบาะแสว่า กลุ่มคนร้ายเป็นข้าราชการในหน่วยงานแห่งหนึ่ง หลังก่อเหตุยิงนายสนม แล้วพากันขับรถหลบหนี แต่บังเอิญไปเจอ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ที่ขับรถผ่านมา พบพิรุธเรียกตรวจค้น จึงชักปืนกระหน่ำยิงเสียชีวิตนั้น


"จัดหากระสุนให้ผู้มีพระคุณ"


เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 16 ส.ค. พ.ต.ท.เสนาะ จุมที รอง ผกก.สส.ศสส.ภ.1 นำกำลังชุดสืบสวนภาค 1 จู่โจมเข้าจับกุมนายเล็ก และนายหน่อง อายุ 20 ปีเศษ 2 หนุ่มขาใหญ่ประจำตลาดกลางเพื่อการเกษตร ต.หันตรา ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเรือนจำพระนครศรีอยุธยา หลังจากพยานปากสำคัญที่ตำรวจนำตัวมา สอบสวนก่อนหน้านี้คือนายตุ๊ก (สงวนชื่อจริง) คนขี่รถ จยย.รับจ้าง

ให้การว่า นายเล็กและนายหน่อง ที่รู้จักกันเล่าให้ฟังว่า เป็นคนจัดหากระสุนปืนให้ผู้มีพระคุณคนหนึ่ง นำไปให้มือปืนก่อเหตุยิงนายสนม เสมอภักดิ์ สมาชิก อบต.คลองสะแก เสียชีวิต จากนั้นชุดสืบสวน คุมตัวทั้งคู่ไปที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง เพื่อเค้นสอบสวนขยายผลถึงจอมบงการที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึงทีมมือปืนโหด


"ระบุเป็นชุดเดียวกันกับที่ฆ่านายสนม"


ต่อมาเวลา 08.00 น. พ.ต.อ.กมล ปั้นศิริ ผกก.สภ.อ. พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.เสนาะ จุมที รอง ผกก.สส.ศสส.ภ.1 พ.ต.ท.นฤนาท พุทไธสง รอง ผกก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ไพฑูรย์ อยู่พะเนียด สารวัตรเวรเจ้าของคดี นำสำนวนการสอบสวนและความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีสังหารโหด

พ.ต.ต.กิติศักดิ์ สถิตพานิช สวป. สภ.อ.อุทัย เข้ารายงาน พ.ต.อ.ชินทัต มีศุข รอง ผบก.ภ.จ. พระนครศรีอยุธยา ที่ห้องทำงาน โดยชุดสืบสวนที่ลงหาเบาะแสในพื้นที่มั่นใจว่าคนร้ายคดีฆ่า พ.ต.ต.กิติศักดิ์ เป็นชุดเดียวกับที่ฆ่านายสนม เสมอภักดิ์ สมาชิก อบต. คลองสะแก แน่นอน


"ขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น"


ทั้งนี้ ชุดสืบสวนภาค 1 เสนอรายงานต่อ พ.ต.อ. ชินทัต ว่า จากการสอบปากคำนายตุ๊ก พยานคนสำคัญ ให้การในรายละเอียดที่นายเล็กและนายหน่องเล่าให้ฟังว่า ผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ว่าจ้างกลุ่มมือปืนซุ้มใหญ่ ที่มีข้าราชการในหน่วยงานแห่งหนึ่ง ใกล้จุดเกิดเหตุ ฆ่า สวป.สภ.อ.อุทัย เป็นหัวหน้าซุ้ม ลงมือสังหารโหดนายสนม เสมอภักดิ์ สมาชิก อบต.คลองสะแก เพราะความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น ด้วยค่าจ้าง 7 หมื่นบาท

โดยทีมสังหารว่าจ้างนายเล็กและนายหน่อง ในราคา 2 หมื่นบาท ไปจัดซื้อกระสุนปืนอาก้า และ .38 จากนายนนท์ พ่อค้าปืนเถื่อนรายใหญ่ที่ ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา ให้ทีมมือปืน 3 คนลงมือกระหน่ำยิงนายสนมเสียชีวิตบนถนนสายนครหลวง-บางปะหัน ต. บางระกำ อ.นครหลวง ห่างจากหน้าเรือนจำที่ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ถูกยิงประมาณ 20 กม.


"เข้าใจผิด คิดว่า ตร.ตามมาจับ"


ในรายงานระบุว่า คืนวันเกิดเหตุ หลังจากกลุ่มมือปืนลงมือฆ่านายสนมสำเร็จแล้ว ได้ขับรถมาตามถนนสายเอเชียขาเข้า กทม. จาก อ.บางปะหัน มุ่งหน้าเข้า อ.พระนครศรีอยุธยา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที มาถึงจุดกลับรถใต้สะพานคลองสาคู หน้าวิทยาลัยหันตรา เลี้ยวกลับรถขับย้อนศรมาทางเส้นคู่ขนานไปถึงบริเวณหน้าเรือนจำ ห่างจากจุดกลับรถราว 500 เมตร ขณะกำลังจะเลี้ยวขวาเข้าเรือนจำ เป็นจังหวะเดียวกับที่ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ขับรถผ่านมาพอดี

เห็นผิดสังเกตที่มีรถขับย้อนศรอย่างรีบเร่ง จึงจอดรถขวางทางไม่ให้เลี้ยว ก่อนลงจากรถเข้าไปสอบถาม แต่กลุ่มคนร้ายเข้าใจว่า พ.ต.ต.กิติศักดิ์ ที่สวมเครื่องแบบตำรวจจะเข้ามาจับกุม จึงชักปืน .38 ออกมายิงใส่ นัดแรกโดนที่นิ้ว เพราะ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ ใช้มือคว้าปืนพยายามยื้อแย่งแต่ไม่สำเร็จ จึงถูกยิงซ้ำเข้ากลางแสกหน้าและลำตัวจนล้มทรุด แต่ยังแข็งใจชักปืนยิงสวนถูก 1 ในกลุ่มคนร้ายที่ขา และยิงปืนขึ้นฟ้าอีกหลายนัด จากนั้นกลุ่มคนร้ายพากันขึ้นรถเลี้ยวกลับขับหลบหนีย้อนกลับไปทางเดิม


"ประเด็นสืบสวนแคบลง"


หลังจากได้เบาะแสจากพยานปากสำคัญรวมทั้งสามารถล็อกตัวคนจัดซื้อกระสุนปืนที่จะเชื่อมโยงไปถึงทีมสังหาร อบต.คลองสะแก และ สวป.สภ.อ.อุทัย ได้แล้ว ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่คาดว่าจะมีหลายคน ทั้งกลุ่มมือปืน คนรับงาน รวมถึงผู้จ้างวาน โดยในจำนวนนี้มีข้าราชการในหน่วยงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนรับงานและหัวหน้าทีมมือปืนรวมอยู่ด้วย

ด้าน พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตอนนี้ชุดสืบสวนได้บีบประเด็นสาเหตุการตายของ พ.ต.ต.กิติศักดิ์แคบเข้ามาได้มาก จนเหลือเพียงไม่กี่ประเด็น จากผลการตรวจสอบกลุ่มกระสุนปืนของผู้ตายที่ยิงในที่เกิดเหตุ น่าจะเป็นการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ อาจเป็นได้ว่า พ.ต.ต.กิติศักดิ์รู้จักทีม สังหารจึงมีการพูดคุยกัน


"อาศัยจังหวะเผลอยิงใส่"


แต่คนร้ายอาศัยจังหวะเผลอชักปืนยิงใส่ศีรษะ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ที่ไม่ทันระวัง แต่กระสุนไม่ทำให้ตายทันที พ.ต.ต.กิติศักดิ์จึงชักปืนยิงสวนและยิงขึ้นฟ้าหลายนัด เพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ขณะนี้ได้รับรายงานผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์หลายด้าน ทั้งเรื่องกระสุนที่คนร้ายใช้ยิงเป็นขนาด .38 รวมทั้งคราบเลือดของมนุษย์บริเวณที่เกิดเหตุ

ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เดินทางไปที่ บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เชิญนายตำรวจระดับ ผกก. ถึง สว. ทั้ง 27 โรงพักในจังหวัด เข้าร่วมประชุมแนะแนวทางเกี่ยวกับวิธีการตรวจค้นหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ถือเป็นเบาะแสสำคัญในการคลี่คลายคดี


"ร่วมงานกว่า 2000คน"


ที่วัดเสนาสนารามวรวิหาร ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 16.00 น. ได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ สถิตพานิช สวป.สภ.อ.อุทัย ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต โดยมี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมเพลิง พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผบช.รร.นรต. นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ผวจ. พระนครศรีอยุธยา

พร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากหน่วยงานต่างๆ เพื่อนตำรวจ นรต.รุ่น 49 ข้าราชการตำรวจทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ญาติพี่น้องของ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ รวมถึงพ่อค้าประชาชนมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งกว่า 2,000 คน จนแน่นวัด ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเศร้าสลด โดยเฉพาะนางบุญมี สถิตพานิช อายุ 78 ปี มารดาของ พ.ต.ต.กิติศักดิ์อยู่ในอาการโศกเศร้า ยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกชาย


"ตั้งใจจะแต่งงาน ธ.ค.นี้ "


ในจำนวนผู้มาร่วมงาน ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส. สติวิมล พัฒนากิจการ หรือ ซุ่นเฮง อายุ 35 ปี คู่หมั้นของ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ เป็นลูกสาวเจ้าของโรงสีกิจพัฒนา อ.บางเลน จ.นครปฐม ถึงกับร่ำไห้เป็นลมล้มพับไปหลายรอบ เปิดเผยทั้งน้ำตานองหน้าว่า คบหากับ พ.ต.ต. กิติศักดิ์ มานานถึง 6 ปี โดยพ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นคนแนะนำให้รู้จักกัน พ.ต.ต.กิติศักดิ์เป็นคนดีมาก ขยันขันแข็งทำงาน สมัยเป็นรองสารวัตรหลังเลิกงานจะกลับไปช่วยงานที่บ้านเป็นประจำ

ไม่เคยมีเรื่องทำให้เสียใจ หลังจากคบหาดูใจกันมานานหลายปี เรา 2 คนมีกำหนดจะแต่งงานกันในเดือน ธ.ค.นี้ แต่มีอันต้องพรากจากกันก่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมาก คิดว่าตัวเองคงจะรักใครไม่ได้อีกแล้ว เพราะรักนี้เป็นรักครั้งแรกที่ไม่มีวันลืมได้


"ปฏิญาณจะตามจับให้ได้"


ภายหลังเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพ บริเวณลานหน้าเมรุ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผบช.ภ.1 เป็นประธานปล่อยแถวสายตรวจ โดยระดมกำลังตำรวจจาก 9 จังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 ประกอบด้วย ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี ลพบุรี สมุทรปราการ สระบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง รวม 300 นาย ทำพิธีปฏิญาณตนว่าจะร่วมกันติดตามไล่ล่าจับกุมคนร้ายคดีฆ่า พ.ต.ต. กิติศักดิ์ให้ได้ โดย พล.ต.ท.วุฒิกล่าวว่า

ก่อนจะอำลาตำแหน่งไปเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ขอให้ตำรวจทั้งหมดระดมกำลังออกตั้งด่านตรวจตราและกวาดล้างคดีอาชญากรรมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ให้สิ้นซาก โดยเฉพาะคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ทุกคดีต้องคลี่คลายภายใน 15 วัน ก่อนสิ้นเดือน ส.ค.นี้ และต้องรายงานให้ทราบผลทุกระยะด้วย


"เป็นการสูญเสียของวงการ ตร."


พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก. ดูแลรับผิดชอบ ขอเวลาติดตามล่าตัวคนร้ายสักระยะ รับรองว่าจะต้องจับกุมได้แน่นอน ส่วนปมสังหารยังติดตามทุกประเด็น ตอนนี้ตำรวจภูธรภาค 1 ลงไปสืบสวนหาข่าวอย่างละเอียดยิบในพื้นที่แล้ว ขอเวลาสักหน่อยอาจจะได้รับข่าวดี

ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผบช.รร.นรต. ที่นำกองเกียรติยศนักเรียนนายร้อยตำรวจไปร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพด้วย กล่าวว่า การเสียชีวิตของ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ เป็นการสูญเสียของวงการตำรวจ แต่ก็เป็น การปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างสมเกียรติ สำหรับเหตุการณ์และแผนประทุษกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นโรงเรียนนายร้อยตำรวจก็จะนำไปใช้เป็นข้อมูลในการเรียนการสอนนักเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อประโยชน์ใน การทำงานของนายตำรวจรุ่นต่อๆไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์