คลิปสลดนร.หญิงโดนขยี้กาม

ส่งกันกระหึ่มเน็ตส่วนคดีข่มขืนป.2 2ครูซี7สาบานลั่นตร.ขู่ถอนประกัน


คลิปวิดีโอฉาวโผล่อีก เป็นภาพน.ร.หญิง ม.4 โดนลวงอนาจารแพร่ไปทั่วทั้งเน็ต-มือถือ สงสัยโดนครูหนุ่มล่วงละเมิดทางเพศ เพราะด.ญ.เหยื่อร้องตลอดว่า "หนูเจ็บนะอาจารย์" ระบุเหยื่อเป็นเด็กนักเรียนที่จ.อุบลราชธานีโดนอนาจารจนทนไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น ส่วนคดี 2 ครูซี 7 ข่มขืน 5 ด.ญ.ชั้นป.2 ชักวุ่น ผบก.ปดส.ฮึ่มถอนประกันผู้ต้องหา

เพราะมีม็อบออกมาหนุนแล้วยังไปข่มขู่ผู้ปกครองเหยื่อ เผยผลตรวจร่างกายด.ญ.มีร่องรอยการฉีกขาดของเยื่อบุอวัยวะเพศ สอบเพิ่มอีก 3 ด.ญ.ที่เป็นพยาน ขณะที่โรงเรียนจัดพิธีรับขวัญ 2 ครูที่โดนกล่าวหา โดยครูทั้งคู่จุดธูปเทียนสาบานไม่ได้ทำผิด ก่อนส่งทนายฟ้องรูดทั้งผบก.ปดส.-ปวีณา-แม่เหยื่อ


"ระบาดทั่ว แพร่เน็ต"


เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.อุบลราชธานี ว่า มีคลิปวิดีโอน.ร.หญิงโดนอนาจารระบาดไปทั่วทั้งเมือง แพร่หลายมากทั้งฟอร์เวิร์ดเมล์ทางอินเตอร์เน็ตและส่งผ่านโทรศัพท์มือถือ เป็นคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 45 นาที เป็นภาพน.ร.หญิงวัย 14-15 ปีกำลังโดนล่วงละเมิดทางเพศ โดยฝ่ายชายเป็นผู้ถ่ายวิดีโอไว้เอง

โดยน.ร.หญิงรายนี้ส่งเสียงร้องโอดโอยอย่างเวทนา และมีบางช่วงที่พูดว่า "หนูเจ็บนะ...เจ็บนะอาจารย์" โดยที่ฝ่ายชายก็ไม่สนใจ ยังคงทำอนาจารต่อไป

สำหรับคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นเบื้องต้นพบว่าน.ร.หญิงเหยื่อเป็นน.ร.ชั้น ม.4 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในจ.อุบลราชธานี คาดว่าโดนอาจารย์ผู้ชายล่วงละเมิดทางเพศ เพราะน.ร.หญิงรายนี้ร้องว่า "เจ็บนะอาจารย์" เบื้องต้นเชื่อว่าถ่ายจากโทรศัพท์มือถือแล้วมีการส่งต่อกันไปเรื่อยๆ กระทั่งมีคนนำไปโพสต์ในเน็ต นำไปส่งฟอร์เวิร์ดเมล์กันเป็นทอดๆ จนแพร่หลายไปทั่วประเทศ


"ผู้ปกครองร้องช่วยตรวจสอบ"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปวิดีโอฉาวนี้แพร่หลายมากในหมู่นักเรียนที่ส่งคลิปให้ดูกันจนผู้ปกครองเรียกร้องให้มีการตรวจสอบถึงที่มาของคลิปนี้ รวมทั้งตรวจสอบว่าเหยื่อน.ร.หญิงคนนี้ถูกอาจารย์คนไหนล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนน.ร.หญิงเหยื่อรายนี้ทราบว่าถูกกระทำอนาจารจนทนไม่ไหวต้องขอย้ายโรงเรียนไปอยู่จังหวัดอื่นแล้ว

ส่วนความคืบหน้ากรณีผู้ปกครอง 2 น.ร.หญิงป.2 เข้าร้องมูลนิธิปวีณา หงสกุล และเข้าแจ้งความกับพล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส.ว่าถูกนายลอน โสรกนิษฐ์ อาจารย์ประจำชั้นป.2 ระดับ 7 และนายพิมล ซุ้มศรี อาจารย์พละ 2 ระดับ 7 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านสายไหม ข่มขืนกระทำชำเราจนตำรวจออกหมายจับครูทั้ง 2 รายแล้ว นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเหยื่อด.ญ.อีกหลายคนก็โดนล่วงละเมิดทางเพศด้วย


"ป้ายสนับสนุนผู้ต้องหา"


ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันเดียวกัน ที่บก.ปดส. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส. กล่าวว่า เรื่องที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม ก็ต้องแยกคดีออกมาจากใน 2 คดีแรกที่เราได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ยังเป็นข้อหาเดียวกัน นอกจากนี้ ที่ผ่านมาได้มีผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนกับตนว่าหลังจากที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้รับการประกันตัวไปแล้วก็รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เนื่องจากเห็นการรวมตัวของครูในโรงเรียน และผู้ปกครอง

นำป้ายประกาศมาติดที่โรงเรียนสนับสนุนผู้ต้องหา ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความกดดันต่อผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังมีการโทรศัพท์ข่มขู่อีกด้วย จึงอยากให้ทางพนักงานสอบสวนช่วยพิจารณาถอนประกันตัวผู้ต้องหา โดยเรื่องนี้ตนได้สั่งการให้มีการตรวจสอบแล้วว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ซึ่งถ้าเป็นจริงก็จะต้องพิจารณาดำเนินการต่อไป


"ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายแน่นอน"


พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวต่อถึงเรื่องการสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เร่งสอบปากคำพยานตามที่ผู้เสียหายระบุไว้เกือบเสร็จสิ้นแล้ว โดยพยานทุกปากให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี ขณะนี้เหลือพยานอีก 2 ปากที่ต้องสอบปากคำก็จะเสร็จสิ้น และสามารถสรุปสำนวนการสอบสวนได้ ส่วนเรื่องที่มีกลุ่มเพื่อนครูของผู้ต้องหาและผู้ปกครองรวมตัวกันร้องขอความเป็นธรรมให้ผู้ต้องหาทั้งสองนั้น ตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย และจะดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่เท่านั้น

"คดีนี้ตำรวจทำไปตามหลักฐานที่ปรากฏ และมั่นใจว่ามีหลักฐานเพียงพอ ขณะนี้กำลังติดต่อให้แม่เด็กผู้เสียหายที่อ้างว่าโดนข่มขู่จากกลุ่มผู้สนับสนุนผู้ต้องหา ให้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานยื่นต่อศาลเพื่อขอถอนประกันตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ด้วย" ผบก.ปดส.กล่าว


"เรียกสอบเด็กเพิ่มเติม"


ที่สำนักงานอัยการสูงสุด พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยศักดิ์ พนักงานสอบสวนสบ.2 กลุ่มงานสอบสวน บก.ปดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาเด็กผู้หญิงผู้เสียหายรวมทั้งพยานให้ปากคำเพิ่มเติมต่อหน้านักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ โดยนำเด็กหญิงผู้เสียหายจำนวน 3 คนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่พนักงานสอบสวนหลังจากที่เข้าตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลตำรวจ ผลปรากฏว่ามีร่องรอยการฉีกขาดของเยื่อบุอวัยวะเพศ ส่วนผลตรวจเลือด

แพทย์ระบุว่าให้มาฟังผลอีกครั้งในวันที่ 17 ส.ค.ที่จะถึงนี้ โดยการสอบสวนมีเด็กผู้หญิงที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ให้การเป็นพยานอีก 3 คนได้เดินทางมาด้วย แต่เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ได้ขอให้ปากคำในคดีเพียง 1 คน ซึ่งพนักงานอัยการพร้อมเจ้าพนักงานอื่นๆ ได้สอบเด็กหญิงร่วมกันเพียงครั้งละ 1 คนเท่านั้น แต่ละครั้งใช้เวลานานกว่า 3 ช.ม. จึงเสร็จสิ้น


"ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว"


ส่วนที่ศาลาว่าการกทม. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงกรณีเด็กนักเรียนจำนวน 5 คนถูกครูในโรงเรียน 2 คนล่วงละเมิดทางเพศว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีนายสมชาย จันทนะศิริ ผู้ช่วยปลัดกทม. เป็นประธาน โดยสอบถามข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งเด็กนักเรียนผู้เสียหาย ผู้ปกครอง ครูและผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว คาดว่าจะทราบผลการสอบสวนภายในวันที่ 17 ส.ค.นี้

ในส่วนของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยขั้นร้ายแรง ได้สั่งการให้สำนักการศึกษาทำหนังสือเสนอให้คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัดกทม. ลงนามแต่งตั้งโดยด่วนที่สุดคาดว่าจะทราบผลอย่างช้าภายใน 30 วัน พร้อมกันนี้ได้จัดคณะแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์จากศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี วชิรพยาบาล เข้าดูแลฟื้นฟูจิตใจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกทม.จะพิจารณาย้ายเด็กนักเรียนทั้ง 5 คนไปเรียนโรงเรียนอื่น เพื่อไม่ให้กระทบด้านจิตใจเด็กต่อไป


"อยู่ระหว่างดำเนินคดี"


นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกทม. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองเด็กกทม. กล่าวว่า เด็กที่ถูกทารุณกรรมทั้ง 5 ราย ควรจะได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่งมีผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพฯ เนื่องจากขณะนี้เด็กทั้งหมดยังอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ซึ่งภายในวันนี้จะทำหนังสือแจ้งไปยังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอรับตัวเด็กมาดูแลให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ด้านนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะรองประธานกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ กล่าวว่า ทางผู้ว่าฯ กทม.ในฐานะประธานคณะกรรมการคุ้มครองเด็กระดับจังหวัดก็ดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว วันนี้ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดียังไม่ทราบผล ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนยุติธรรม แต่สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือการปกป้องคุ้มครองเด็กที่เป็นผู้เสียหาย เมื่อเกิดเหตุพ่อแม่ก็ต้องรีบแจ้งตำรวจ


"ผิดจริงต้องโดนโทษหนักอยู่แล้ว"


และผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องเร่งทำงานเชิงสหวิชาชีพ ให้นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาด้านเด็กเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาดูแลจิตใจของเด็ก ซึ่งอายุน้อยมากต่ำกว่า 13 ปี หากผลการพิสูจน์ครูมีการกระทำผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษทางอาญา โทษหนักอยู่แล้วในการละเมิดทางเพศเด็ก

"การดูแลเข้มงวดในการป้องกันเด็กจากการถูกละเมิดทางเพศ พ่อแม่ ผู้ปกครองและคนในชุมชน คนใกล้ชิดที่ต้องช่วยกันดูแล เฝ้าระวัง ทั้งนี้ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ และคนในสังคมที่เห็นเหตุการณ์ต้องช่วยเหลือแจ้งเหตุ หากพบเด็กถูกกระทำ ถูกละเมิด และการป้องกันที่ดีคงต้องสร้างจิตสำนึกของพ่อแม่ ครู ว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยปกป้องคุ้มครองดูแลเด็กได้ โดยเฉพาะครูบาอาจารย์ก็มีหน้าที่ดูแลเด็ก ไม่ใช่เป็นผู้กระทำต่อเด็กเสียเอง" นายวัลลภ กล่าว


"การคัดเลือกครูควรคัดกรองสภาพจิตใจด้วย"


น.ส.นัยนา สุภาพึ่ง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดข่มขืนนักเรียนหญิงชั้นป.2 เกือบทั้งชั้น โดยหลอกเด็กว่าจะสอบวิชาช่วยคนตกน้ำและถูกงูกัด แต่กลับหลอกข่มขืนเด็ก ซึ่งเรื่องนี้เป็นคดีขึ้นศาลและพบว่าครูมีความผิดปกติทางจิตมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ต้องการมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ดังนั้น การพิจารณาคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาเป็นครู ควรมีการคัดกรองสภาพจิตใจก่อนในระดับหนึ่ง

และเมื่อเข้ามาทำงานแล้ว ก็ควรมีการตรวจสอบประเมินสภาพจิตด้วยเป็นระยะๆ เนื่องจากครูต้องสอนเด็ก อยู่ใกล้ชิดกับเด็ก หากมีความผิดปกติหรือทำร้ายละเมิดเด็กทั้งทางร่างกาย จิตใจและทางเพศ จะส่งผลกระทบกับเด็กที่จะเติบโตขึ้นมา หรือเป็นการทำลายอนาคตเด็กคนใดคนหนึ่งได้


"ฟ้องกลับ"


วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายไชยยศ ดรุณสุริยศักดิ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายลอน โสรกนิษฐ์ และนายพิมล ซุ่นศรี ที่ตกเป็นผู้ต้องหากระทำอนาจารเด็กหญิง ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส. และนางอั๋น (นามสมมติ) มารดานักเรียนที่ถูกระทำชำเรา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานแกล้งให้บุคคลต้องรับโทษทางอาญาและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

โดยโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่าระหว่างวันที่ 22 ก.ค.-14 ส.ค. พวกจำเลยร่วมกันกระทำความผิด โดยอั๋น มารดาของด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ เข้าร้องเรียนกับนางปวีณาว่าลูกสาวถูกกระทำชำเราหลายครั้ง เป็นการกลั่นแกล้งปรักปรำโจทก์ทั้งสองว่าเป็นผู้กระทำผิด ศาลรับฟ้องไว้พิจารณาและนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 9 ต.ค.นี้เวลา 13.00 น.


"รวมตัวให้กำลังใจครู"


บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณหน้าโรงเรียนที่เกิดเหตุว่า มีม็อบซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ปกครองและชาวบ้านละแวกใกล้เคียงประมาณร้อยคนออกมาให้กำลังใจ 2 ครูที่ตกเป็นผู้ต้องหาข่มขืนน.ร.หญิงชั้นป.2 โดยรอบโรงเรียนมีป้ายผ้าขนาดใหญ่ติดอยู่ มีข้อความเขียนให้กำลังใจแก่ครูทั้ง 2 คน อาทิ "รวมพลังเพื่อคนดี กู้ศักดิ์ศรีครูคืนมา-ใครคือฆาตกรตัวจริง ทำร้ายลูกศิษย์ของเรา-ป้าปิ๊กหลงทาง ประจานครูหนู" นอกจากนี้ มีการแจกใบปลิวระบุว่า "อยากได้ความจริงให้มาในเวลา 14.00 น." โดยมีตำรวจประมาณ 50 นายมาอำนวยความสะดวก

นายผนึก ธัญรส อายุ 58 ปี อดีตข้าราชการครู กล่าวว่า ที่มาในวันนี้มาในฐานะอดีตครู เพื่อที่จะมาปกป้องศักดิ์ศรีของครู ซึ่งตนไม่ได้สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ แต่เท่าที่ดูข่าวไม่น่าจะเป็นไปได้ที่มีการข่มขืนเด็กในโรงเรียน


"ไม่ว่าจะถูกผิด เด็กก็เสียอยู่ดี"


ส่วนนางตุ้ย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ กล่าวว่า เคยเป็นลูกศิษย์นายลอนแล้วลูกตนคนหนึ่งเรียนที่นี่ ทั้งยังเป็นเพื่อนกับเด็กคนที่เป็นข่าว ครูลอนเป็นคนดี เป็นคนใจดี ไม่ค่อยดุด่าว่ากล่าวอะไร ใครถูกครูลอนตีถือว่าซวยที่สุด

ขณะที่นายอัษฐาวุธ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ซึ่งมาสังเกตการณ์ที่โรงเรียนแห่งนี้ กล่าวว่า เท่าที่ดูข่าวเห็นว่าครูมีแต่เข้าข้างครูด้วยกันเอง ไม่อยากให้ครูเข้าข้างกันเอง ควรให้ครูที่ถูกกล่าวหาทั้งคู่ไปสาบานที่วัดพระแก้วจะดีกว่า ส่วนที่มาวันนี้เพราะอยากฟังข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หากศาลตัดสินเช่นไร ไม่ว่าครูผิดหรือครูไม่ผิด เด็กก็เป็นฝ่ายเสียอยู่ดี


"รับขวัญ สาบาน"


ต่อมาเวลา 14.30 น. ทางโรงเรียนจัดให้มีพิธีรับขวัญนายลอน และนายพิมลขึ้นที่ลานกว้างหน้าอาคารเรียน โดยได้จัดให้เด็กนักเรียนชั้นประถมทั้งหมดมานั่งเพื่อทำพิธีรับขวัญ มีป้ายผ้าเขียนกลอนความว่า "ธรณีสายไหมนี้เป็นพยาน ครูผิดท่านประหารเราชอบ ครูไม่ผิดท่านมาล้าง บาปนี้...คืนสนอง"

จากนั้นนายลอนและนายพิมลเดินลงมาจากอาคารเรียน นั่งด้านหน้ากลุ่มนักเรียน ทั้งคู่จุดธูปเทียนดอกไม้ พร้อมกับกล่าวสาบานว่า "ข้าพเจ้าขอแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อันมีพระพุทธโสธร ถ้าทำความผิดจริง ขอให้พบกับภัยพิบัติภายใน 3 วัน 7 วัน"


"เป็นการรวมใจครู"


จากนั้นทั้งคู่กลับมานั่งที่เดิม โดยมีครูในโรงเรียน รวมทั้งตัวแทนนักเรียน นำดอกไม้ทั้งพวงมาลัย ดอกกล้วยไม้ กราบที่ตักของครูทั้ง 2 คน หลังเสร็จพิธีดังกล่าวแล้ว นายลอนและนายพิมลเดินกลับขึ้นไปยังอาคารเรียนทันที

ด้านนางพัชรี ขำวิทย์ ผอ.โรงเรียนกล่าวว่า ที่ทำพิธีในวันนี้เพื่อเป็นการรวมใจครู และนักเรียนในโรงเรียนที่มีความเชื่อมั่นต่อครูทั้ง 2 คน เรื่องทั้งหมดขอให้ขึ้นอยู่กับศาล เมื่อวันที่ 10 ส.ค. มีตำรวจนำหมายศาลมาจับกุมครูทั้ง 2 คนถึงห้องเรียน ดูเป็นความโหดร้ายเกินไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์