คมชัดลึก : รุ่นน้องอุเทนถวายแฉอีก ถูกพ่นสเปรย์-เผาขนในที่ลับ บังคับใช้ปืนจ่อหัว ใครอ้วกแตกก็ให้กินอ้วกเพื่อน เผยเสียใจที่ไม่ได้เรียนต่อแต่สุดจะทนแล้ว ชี้เพื่อน นศ.แห่ลาออกเกินครึ่งแล้วจาก 178 คน เหลือแค่ 50 คน ขณะที่ กก.สอบข้อเท็จจริงฯ มึน รุ่นพี่รุ่นน้องเล่าไม่ตรงกัน ชี้หาข้อยุติไม่ได้เตรียมส่งตำรวจช่วยสอบสวน ยันมีลาออกแค่ 2 คน "จุรินทร์" ร้อนใจ สั่งสรุปผล 10 มิ.ย.นี้ พร้อมเปิดสายด่วน 1579 ร้องเรียนปัญหารับน้องโหด
กรณีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) วิทยาเขตอุเทนถวาย
ร้องเรียนว่าถูกรุ่นพี่รับน้องแบบพิสดารบังคับให้กินกระดาษและพริกสดนั้น ล่าสุดยังคงมีเหยื่อเข้าร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่าขณะนี้มีผู้ปกครองและนักศึกษาปี 1 จากสถาบันดังกล่าวเข้ามาร้องเรียนที่มูลนิธิจำนวนมาก และต้องการพบคณะกรรมการจากกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะมารับทราบข้อเท็จจริงเพื่อนำปัญหาไปเสนอต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ต่อมาเวลา 10.30 น. คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นำโดยนายสรรค์ วรอินทร์
ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการรับน้องใหม่ที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของนักศึกษาอุเทนถวาย พร้อมกับกรรมการอีก 5 คน เดินทางมาถึงและเข้าพบนางปวีณา พร้อมกับรับฟังปัญหาจากการรับน้องโดยนายสรรค์ขอเวลาพูดคุยกับผู้เสียหายเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ นักศึกษาที่เป็นเหยื่อรับน้องโหดของรุ่นพี่เกือบทุกคนอยู่ในอาการหวาดกลัว เพราะเกรงว่าจะถูกรุ่นพี่ตามคิดบัญชีภายหลังจนไม่กล้าเปิดตัวให้สัมภาษณ์ใดๆ บางรายไม่ยอมปรากฏตัว ได้แต่ให้ผู้ปกครองมาร้องเรียนต่อนางปวีณาแทน
มารดาของนักศึกษาปี 1 รายหนึ่ง เล่าว่า บุตรชายถูกบังคับให้ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อน แต่บุตรชายไม่ยอม จึงถูกบังคับให้ยิงตัวเอง แต่ก็ไม่ยอมยิงอีก
รุ่นพี่จึงรุมซ้อมบริเวณช่วงหน้าอกจนเป็นรอยเขียวช้ำ เท่านั้นยังไม่พอยังสั่งให้บุตรชายและเพื่อนๆ รวม 4 คน ถอดกางเกงแล้วใช้สีสเปรย์พ่น จากนั้นนำไฟแช็กเผาขนเพชรจนหมด ปัจจุบันนี้ก็ยังมีร่องรอยแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด นักศึกษารุ่นน้องรายหนึ่ง กล่าวว่า วันแรกถูกให้กินพริกแล้วส่งให้เพื่อนแบบปากต่อปาก ใครอ้วกแตกก็ให้กินอ้วกเพื่อน วันที่สอง มาโรงเรียนสาย ถูกเตะและต่อยเข้าที่หน้าอก และสั่งให้ลุกนั่งไปเรื่อยๆ ต่อมาวันที่สาม ใครลุกนั่งไม่พร้อมกันก็จะโดนเตะเข้ากลางหลัง โดนตบหน้า และวันสุดท้าย โดนสีสเปรย์พ่นที่หัวอวัยวะเพศ ไฟแช็กเผาขน และใช้ปืนจ่อหัว และต่อยเข้าที่หน้าอก ตนเห็นว่าไม่ปลอดภัย จึงไม่ไปเรียนอีก รู้สึกเสียใจเหมือนกันที่ไม่ได้เรียน เพราะเป็นที่ที่อยากเรียนมาก แต่ทนไม่ไหวแล้ว
นักศึกษาปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ อีกรายกล่าวว่า การรับน้องของรุ่นพี่เป็นการบังคับ รุ่นน้องไม่สามารถปฏิเสธได้
สั่งอย่างไรก็ต้องทำ ตอนที่ตนอยู่มีอาการหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่าในแต่ละวันจะโดนอะไรบ้าง ตนโดนกินพริก กระเทียม หอมแดง กระชาย มะระขี้นก วาซาบิ และโดนทุบหน้าอก แต่เพื่อนๆ บางคนโดนหนักกว่า บ้างครั้งก็โดนซ้อม จนทุกวันนี้มีเพื่อนๆ ที่เข้ามารุ่นเดียวกันลาออกไปเกือบหมดแล้วจาก 178 คน เหลือเพียง 50 คนเท่านั้น เชื่อว่าอีกไม่นานก็คงลาออกเกือบหมด
ด้านนายสรรค์กล่าวภายหลังรับข้อมูลการร้องเรียนของนักศึกษาว่า มีกรณีร้องเรียนรวม 20 กรณี
โดยพบและสอบถามจากนักศึกษาที่มาร้องเรียนด้วยตนเอง 9 คน และพบกับผู้ปกครองหรือได้รับเอกสารร้องเรียนโดยที่นักศึกษาไม่ได้เดินทางมาเองอีก 11 คน และได้ขอข้อมูลนักศึกษาที่ไม่ได้มาเพื่อติดตามไปตรวจสอบภายหลัง โดยจะรวบรวมข้อมูลที่ได้ไปพิจารณาร่วมกับข้อมูลด้านอื่นๆ ก่อนจะนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 10 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ต่างฝ่ายให้ข้อมูลไม่ตรงกัน นายสรรค์กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะข้อมูลที่มีชัดเจน มีแหล่งอ้างอิงถึงพฤติกรรมและสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ขอเวลาไปตรวจสอบกับประเด็นอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
นศ.อีกฝ่ายโต้ไม่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลอีกด้านจากนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 ว่า การรับน้องไม่ได้รุนแรงอย่างที่มีข่าว กรณีกินพริกนั้นรุ่นพี่มีพริก 1 ถ้วยมาให้รุ่นน้องกว่า 100 คนแบ่งกันกิน โดยเฉลี่ยแล้วกินคนละไม่ถึงเม็ด ส่วนกระดาษที่ให้กินเป็นกระดาษบางๆ เหมือนกระดาษวาดรูปและไม่ได้เปื้อนหมึก ซึ่งตนและเพื่อนๆผู้หญิงรวมประมาณ 40 คนฉีกกระดาษแบ่งกันกิน ส่วนการส่งลูกอมให้อมต่อกันคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่สถาบันอื่นๆก็มีแบบนี้
นักศึกษาชายชั้นปีที่ 1 คณะเดียวกันกล่าวว่า รุ่นพี่ไม่ได้ทำร้ายพวกตนตามที่เป็นข่าว ตนเองเป็นคนที่สุขภาพไม่ดี
รุ่นพี่ไม่ได้ทำร้ายและยังบอกตอนรับน้องว่า ถ้ารุ่นน้องคนไหนสุขภาพไม่ดีก็ให้บอกด้วย และไม่มีการให้รุ่นน้องใช้ปืนยิงเพื่อน นายชยันต์ พุฒทอง นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ และนายกสโมสรองค์การนักศึกษามทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กล่าวว่า ไม่มีการรับน้องโดยให้รุ่นน้องใช้ปืนยิงใส่เพื่อน อย่างไรก็ตาม ตนได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้แก่รุ่นน้องเพื่อให้โทรศัพท์เข้ามาร้องเรียนหากมีการรับน้องรุนแรง แต่ก็ไม่มีรุ่นน้องคนใดโทรศัพท์มาร้องเรียน
ขณะที่ผู้ปกครองนักศึกษารายหนึ่ง กล่าวในรายการว่า ลูกไม่ได้ลาออก แต่ไม่ให้ลูกไปเรียนเพราะรับไม่ได้กับการรับน้องที่รุนแรง ที่ส่งลูกไปเรียนเพราะตั้งความหวังให้สถาบันช่วยสร้างลูกให้เป็นคนดีของสังคม