สอบกราวรูด จ่าฆ่าชิงทอง

"เมียผู้ต้องหาอุ้มท้องจูงลูกมาเยี่ยม"


จากคดีสะเทือนขวัญ จ.ส.ต.วันชัย เพ็งบุปผา ผบ. หมู่งานปราบปราม สภ.อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ควงปืน 3 กระบอก บุกปล้นร้านทองแม่กิมลี้ ในตลาดท่าเกวียน ต.พนม อ.พนมสารคาม และใช้ปืนยิงใส่นายบงกช จันทร์วัฒน์ วัย 70 ปี เจ้าของร้านจนเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ส.ค. ก่อนจะกวาดทองรูปพรรณหนัก 23 บาท มูลค่าเกือบ 2 แสนบาท หลบหนีแต่ไปไม่รอดถูกพลเมืองดีชี้เบาะแสแจ้งตำรวจตามลากคอมาได้ทันควัน อ้างว่าทำไปเพราะต้องการเงินไปใช้หนี้นั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ส.ค. นางระวิวรรณ เพ็งบุปผา อายุ 25 ปี ภรรยาของ จ.ส.ต.วันชัยซึ่งตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ได้ 8 เดือน จูงมือลูกชายคนโตวัยขวบเศษ เข้าแจ้งความประสงค์จะเข้าเยี่ยม จ.ส.ต.วันชัยที่ถูกคุมขังอยู่บน สภ.อ.พนมสารคาม โดยซื้อข้าวผัดกับโอเลี้ยงมาเยี่ยม เป็นจังหวะเดียวกับที่ พ.ต.อ.วันชัย โตปาน ผกก.สภ.อ.พนมสารคาม เบิกตัวออกมาสอบปากคำเพิ่มเติมพอดี


"อนุมัติฝากขัง สั่งลาลูกเมีย"


ทันทีที่เห็นหน้าสามีนางระวิวรรณก็โผเข้าไปกอดพร้อมกับร่ำไห้ด้วยความเสียใจ ขณะที่ จ.ส.ต.วันชัยซึ่งมีสีหน้าอิดโรย นัยน์ตาแดงก่ำเนื่องจากนอนไม่หลับทั้งคืน พูดปลอบใจภรรยาพร้อมทั้งสั่งให้เลี้ยงลูกทั้ง 2 คน ให้เป็นคนดีอย่าทำชั่วเหมือนพ่อ ก่อนจะหันไปบอกกับลูกชายคนโตว่า มองหน้าพ่อไว้เป็นครั้งสุดท้ายนะ จากนั้นก็รีบเดินเข้าห้องสอบสวนทันที ส่วนนางระวิวรรณพาลูกชายกลับบ้านโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

หลังใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 1 ชม. ทาง พ.ต.อ. วันชัย โตปาน ผกก. สภ.อ.พนมสารคาม สั่งการให้ พ.ต.ต. ทรงฤทธิ์ ภูนาฤทธิ์ สารวัตรเวรเจ้าของคดี คุมตัว จ.ส.ต.วันชัยเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ขออำนาจศาลผัดฟ้องฝากขังมีกำหนด 12 วัน โดยคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์อีกทั้งผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายแต่กลับมาทำผิดเสียเอง ศาลพิจารณาแล้วอนุมัติให้ฝากขังได้ และส่งตัวเข้าเรือนจำทันที


"อ้างหนี้ท่วม จึงต้องปล้น"


ด้าน พ.ต.อ.วันชัย โตปาน ผกก. สภ.อ.พนมสารคาม เผยถึงผลการสอบปากคำลูกน้องที่กลายเป็นโจรเสียเองว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ได้พาตัว จ.ส.ต.วันชัยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้แจ้งให้สื่อมวลชนทราบ เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องการรักษาความปลอดภัย ในส่วนของ จ.ส.ต.วันชัยก็ยอมรับสารภาพแต่โดยดีอ้างว่าทำไปเพราะความจำเป็น

เนื่องจากได้นำโฉนดของญาติไปจำนองกับธนาคารเพื่อนำเงินทุนประมาณ 2 แสนบาท มาทำบ่อเลี้ยงกุ้ง แต่ประสบปัญหาเรื่องการเลี้ยงจนเจ๊งไม่เป็นท่า ทำให้ธนาคารยึดที่ดินที่จำนองไว้ ญาติก็มาทวงถามเรื่องเงินอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ ยังขาดส่งไฟแนนซ์อีกประมาณ 1 แสนบาท จนถูกยื่นคำขาดว่าจะยึดรถ เดือนหน้าภรรยาก็จะคลอดลูกคนที่ 2 อีก เมื่อสิ้นไร้หนทางออกจึงตัดสินใจบุกปล้นร้านทองดังกล่าว


"เห็นว่าผู้ตายขัดขืนจึงยิง"


ส่วนสาเหตุที่ จ.ส.ต.วันชัยเลือกปล้นร้านทองที่เกิดเหตุเพราะเคยเข้าไปเซ็นชื่อจุดตรวจร้านทองดังกล่าวหลายครั้งจึงรู้ว่ามีคนแก่อยู่เฝ้าร้านเพียงคนเดียว แถมยังเป็นร้านเล็กๆไม่ค่อยมีลูกค้ามาก ช่วงที่เข้าไปปล้นได้ชักปืนออกมาขู่ ผู้ตายพยายามต่อสู้ขัดขืน และทำท่าว่าจะหยิบปืนในลิ้นชักตู้โชว์ออกมาต่อสู้ จ.ส.ต.วันชัยจึงลั่นไกยิงไป 3 นัด เบื้องต้นได้เสนอให้ จ.ส.ต.วันชัยออกจากราชการแล้ว หากศาลตัดสินลงโทษก็คงจะสั่งไล่ออกจากราชการทันที

สำหรับนายศิริศักดิ์ คงเพชร พลเมืองดีที่ชี้เบาะแสจนกระทั่งตามจับ จ.ส.ต.วันชัยได้ทันควันนั้น ได้ทำเรื่องเสนอขอใบประกาศเกียรติคุณให้ภายในสัปดาห์หน้า โดยมี พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ภ.2 เดินทางมามอบให้ ด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่า ทาง ผบ.ตร.ตั้งกรรมการสอบยกโรงพัก ข้อหาไม่ดูแลลูกน้องให้ดีนั้น คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการจากส่วนกลาง โดยส่วนตัวคงไม่มี ความเห็นในเรื่องนี้ ผกก.สภ.อ.พนมสารคามกล่าว


"ให้ออกจากราชการไว้ก่อน และจะลงโทษผู้บังคับบัญชา"


ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันเดียวกัน พล.ต.ท. อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวกรณี จ.ส.ต.วันชัย เพ็งบุปผา ตำรวจ สภ.อ.พนมสารคราม จ.ฉะเชิงเทรา บุกปล้นร้านทองแม่กิมลี้ ตลาดท่าเกวียน อ.พนมสารครามว่า

ขณะนี้กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน นอกเหนือจากการดำเนินคดีอาญาข้อหาชิงทรัพย์และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา รวมทั้งทางสำนักงานตำรวจ แห่งชาติจะดำเนินการลงโทษทางวินัยต่อผู้บังคับบัญชา ต้นสังกัดที่รับผิดชอบด้วย


"ตร.เครียด ไม่มีเวลาพัก"


โดย พล.ต.ท.อชิรวิทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามคำสั่งที่ 1212/2537 จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้บังคับ บัญชาต้นสังกัดตั้งแต่ระดับ ผกก.สภ.อ.พนมสารคามลงไปจนถึงรอง สวป. เพราะไม่เอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชา ปล่อยปละละเลยให้กระทำผิด ขณะนี้ตำรวจที่ต้องหาในคดีอาญาทุกราย โดนตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยหมด และมีมาตรการอย่างเดียวกัน โดยสั่งลงโทษตลอดเวลา ซึ่งในปีนี้มีตำรวจต้องคดีอาญาทั้งสิ้น 255 ราย แตกต่างกันไปตามประเภทของคดี

ส่วนใหญ่เป็นความผิดส่วนตัว มีคดีอุกฉกรรจ์ประมาณ 40 ราย นอกจากนี้ ในส่วนของผู้บังคับบัญชาก็ต้องถูกลงโทษลงทัณฑ์ตามความบกพร่องตั้งแต่ภาคทัณฑ์ขึ้นไป ขณะนี้ตำรวจทำงานเครียด บางครั้งไม่มีเวลาพักผ่อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังจะขยายสถานที่พักผ่อนไปตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ ภาคเหนือที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันตกที่หาดปึกเตียน จ.เพชรบุรี เป็นต้น ซึ่งแต่เดิมมีเพียงที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีเท่านั้น พล.ต.ท.อชิรวิทย์กล่าว



แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์