undefined
คมชัดลึก :ทัวร์ อบจ.สมุทรปราการ นำคณะดูงานพังงา-ภูเก็ต ประอุบัติเหตุพลิกคว่ำขาด 2 ท่อนดับ 16 เจ็บ 28 คนขับรถคันเกิดเหตุบาดเจ็บยังให้ปากคำไม่ได้ เบื้องต้นคาดหลับใน - ถนนลื่น รมว.สาธารณสุข สั่งระดมทีมแพทย์ พยาบาล ช่วย
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 5 มิ.ย. เกิดเหตุรถทัวร์ประเภท 30 หรือรถทัวร์ไม่ประจำทาง ยี่ห้อสแกนเนีย ป้ายแดงระบุเลขทะเบียน 16216 ของบริษัทสุชาดาทัวร์ พลิกคว่ำบริเวณบ้านบางหอย กม.ที่ 28 ถนนพนม - เขาต่อ ม. 2 ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 16 ราย เป็นชาย 3 รายหญิง 13 ราย โดยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 12 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 4 ราย บาดเจ็บ 28 ราย ทั้งนี้ในส่วนผู้บาดเจ็บ ถูกทยอยนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงคือโรงพยาบาลปลายพระยา จ.กระบี่ ,โรงพยาบาลพนม จ.สุราษฎร์ธานี ,โรงพยาบาลทับปุด จ.พังงา ,โรงพยาบาลกระบี่ ส่วนที่สาหัสนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
กรณีเสียชีวิตที่เกิดเหตุส่วนใหญ่เป็น อสม. ทราบชื่อคือ 1 .นางจันทนา พรหมประเสริฐ 2 .นายวีระ สุนทรพิพัฒน์ 3 .นายนางสันจิ พรายงาม 4 .นางสงวน ปานแสง 5 . นางวาสนา หมั่นตระกูล 6 .นางทองดี รัตนประสงค์ 7 .นายวี (เด็กรถ) 8 .นางพิมล เมืองนุช
อีก 4 รายเป็นหญิงไม่ทราบชื่อ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 4 รายทราบชื่อคือ 1 .สิบตรีสมหมาย ขาวอุทัย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลปลายพระยา 2 .น.ส.นาตยพันธ์ พิญโญ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพนม จ.สุราษฎร์ธานี 3 .นางยี่สุ่น ก๋งเทมิน (เสียชีวิตที่โรงพยาบาลทับปุด จ.พังงา 4 .นางสมจิต ไม้เกตุ เสียชีวิตที่ โรงพยาบาลทับปุด จ.พังงา
สำหรับที่เกิดเหตุสภาพรถทัวร์พลิกคว่ำมีรอยลื่นไถลลงข้างทาง จากนั้นรถได้พุ่งชนกับต้นไม้ทำให้ช่วงหลังคาของรถขาดเป็น 2 ท่อน ส่วนช่วงที่ผู้โดยสารนั่งพังหมดกระจัดกระจายลงข้างทาง
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าขบวนรถทัวร์ดังกล่าว เป็นรถทัวร์ที่ทาง อบจ.สมุทรปราการจัดโครงการศึกษาดูงานเกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด โดยจัดให้ไปทัศนศึกษาที่ จ.พังงาและภูเก็ตว่าจ้างรถทัวร์บริษัทสุชาดาทัวร์ จำนวน 12 คัน มีผู้โดยสารจำนวน 576 คนซึ่ง 7 คันแรกเป็นคณะครูสังกัดโรงเรียนที่ถ่ายโอนอยู่ในความดูแลของเทศบาลเมืองลัดหลวง ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ที่เหลือเป็นคณะ สท., ส.อบจ.และ อสม.โดยสารส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งเดินทางจาก จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมามีรถตำรวจทางหลวงนำทางตลอด
ส่วนคันที่เกิดเหตุเป็นคันที่ 8 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีชาวบ้านและผู้โดยสารรถคันอื่น ๆ สังเกตเห็นว่ารถส่ายไปมาในขณะที่มีฝนตกโปรยปรายและถนนลื่น จึงส่งสัญญาณให้ชะลอรถ แต่คนขับไม่ชะลอรถจนเสียหลักพลิกลงข้างทางมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
พ.ต.อ.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผกก.สภ.ปลายพระยา ซึ่งเดินทางไปที่เกิดเหตุ กล่าวว่า สันนิษฐานเบื้องต้นว่าคนขับน่าจะหลับใน เพราะรถอยู่ในขบวน ประกอบกับถนนลื่นจึงเสียหลักพลิกคว่ำ โดยขณะนี้คนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังให้การอะไรไม่ได้ ต้องรอการสอบปากคำอีกครั้ง หากอาการดีขึ้น ส่วนเด็กรถเสียชีวิต
ด้านนายชนะ หงวนงามศรี ส.อบจ.เขต อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งโดยสารมาพร้อมกับขบวนแต่อยู่คันที่ 6 กล่าวว่า โครงการดังกล่าวทางนายอำนวย รัศมิทัต นายก อบจ.สมุทรปราการ เป็นผู้อนุมัติ มีโครงการไป จ.พังงาและภูเก็ต เป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อศึกษาดูงาน โดยวันนี้( 5) จะเข้าพักที่ จ.พังงา ก่อนจากนั้นไป จ.ภูเก็ต โดยตนเองร่วมเดินทางมาด้วยพร้อมกับ นายกฤติ ไกรศรี ส.อบจ.พระประแดง แต่อยู่คนละคันกับที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุสังเกตเห็นรถส่ายไปมา
นายชนะ กล่าวอีกว่า สำหรับขบวนที่เหลือคงเดินทางกลับ จ.สมุทรปราการทั้งหมด เพราะเสียขวัญหมดแล้ว สำหรับศพจะประสานไปทาง นายก อบจ.เพื่อรับศพกลับซึ่งนายก อบจ.เดินทางมาในช่วงบ่ายนี้
"วิทยา"ระดมทีมแพทย์ช่วยเต็มที่
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการะทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการระดมหน่วยแพทย์กู้ชีพ ทีมแพทย์ พยาบาล ให้การช่วยชีวิต อสม.อย่างเต็มที่ เนื่องจาก อสม.ถือเป็นทัพหน้าของกระทรวงสาธารณสุข ที่ดำเนินการกวาดล้าง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่มาโดยตลอด ในวันนี้ได้มอบหมายให้นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสุนนบริการสุขภาพเดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ โดยให้การรักษาฟรีทั้งหมด
นายวิทยากล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บ 33 ราย ทีมแพทย์นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลทับปุด จ.พังงา 17 ราย โรงพยาบาลเขาพนม จ.กระบี่ 5 ราย โรงพยาบาลกระบี่ 4 ราย โรงพยาบาลปลายพระยา จ.กระบี่ 7 ราย ส่วนใหญ่แขนขาหัก ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 รายคือนางระเบียบ พันธุ์เสือ อายุ 58 ปี ม้ามแตก มีเลือดออกที่ช่องอก ส่งผ่าตัดรักษาที่โรงพยาบาลกระบี่ สำหรับผู้เสียชีวิตซึ่งมีทั้งหมด 14 ราย ได้สั่งการให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ประสานอำนวยความสะดวกในการขนย้ายศพกลับจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
ทางด้านนายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า อสม.ที่เสียชีวิต 14 ราย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะให้การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ครอบครัว รายละ 20,000 บาท และจะให้สถานีอนามัยในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ คัดเลือกบุคคลและจัดอบรมระยะสั้น ทดแทนอสม. เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่องานพัฒนาการสาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็วที่สุด