ป.2โผล่แฉอีกโดนครูข่มขืนด้านเมียครูมั่นใจผัวเป็นคนดี

คม-ชัด-ลึก

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ปดส.จับกุม 2 ครูโรงเรียนย่านสายไหมโดยกล่าวหาว่าข่มขืนลูกศิษย์วัย 8 ขวบ ทำให้เกิดกระแสฝ่ายครูและผู้ปกครองจำนวนหนึ่งออกมาสนับสนุนครูโดยตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อขอความเป็นธรรม ขณะที่ฝ่ายทนายของผู้เสียหาย ก็เชื่อว่าสองครูนั้นถูกกลั่นแกล้งด้วยสาเหตุไม่รับเป็นหัวคะแนนให้นักการเมืองนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 14 สิงหาคม นายสมพงษ์ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ได้นำตัว ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนย่านสายไหม บุตรสาวเข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เนื่องจากบุตรสาวถูกนายลอน โสรกนิษฐ์ อายุ 58 ปี ครูข่มขืนกระทำอนาจารภายในโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้นายลอนถูกผู้ปกครองของเด็กนักเรียนภายในโรงเรียน แจ้งข้อหากระทำการข่มขืนร่วมกับนายพิมล ชุ้นศรี อายุ 48 ปี ครูสอนวิชาพลศึกษาไปก่อนหน้านี้

จากการสอบปากคำ ด.ญ.น้ำให้การว่า เมื่อประมาณกลางเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่ในห้องตามปกติ ก็เกิดปวดท้องขึ้นมา จากนั้นจึงขอให้ครูประจำชั้นพาไปห้องพยาบาล เมื่อไปถึงห้องพยาบาล ครูประจำชั้นอนุญาตให้นอนพักผ่อนจนกว่าจะหาย แล้วครูประจำชั้นก็กลับไปสอนตามปกติ ปล่อยให้นอนอยู่ในห้องพยาบาลเพียงลำพัง

ขณะที่หนูนอนอยู่ ก็เห็น ครูลอนเดินเข้ามาในห้อง ซึ่งขณะนั้นไม่มีใครอยู่เลย จากนั้นก็ปิดไฟ ปิดประตูหน้าต่าง แล้วเขาก็บังคับให้หนูนอนเฉยๆ ห้ามขัดขืน หากหนูดิ้นเขาจะเอาไม้ฟาดหนู หนูรู้สึกกลัวจึงยอม ครูเปิดกระโปรงหนูขึ้นแล้วทำการข่มขืนหนูอยู่นานหลายชั่วโมง กระทั่งมีเพื่อนมาเคาะประตูครูจึงหยุด ด.ญ.น้ำ กล่าว

ด.ญ.น้ำ กล่าวต่อว่า ก่อนที่ ครูลอนจะออกจากห้อง ได้ขู่หนูว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ถ้าเอาไปบอกเขาจะฟาดด้วยไม้แรงๆ ซึ่งรู้สึกกลัวจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ จนกระทั่งมาเห็นข่าวในทีวีว่า มีเพื่อนโดนข่มขืน จึงตัดสินใจบอกป้าและพ่อไปตามตรงว่า ครูลอนได้ข่มขืนตนในห้องพยาบาลของโรงเรียนเช่นกัน

ด.ญ.มาย (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ให้การว่า เป็นญาติกับด.ญ.น้ำ และเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ขณะที่ครูประจำชั้นพา ด.ญ.น้ำไปส่งห้องพยาบาล ตนพยายามทำงานที่ครูสั่งไว้ให้เสร็จเพื่อที่จะได้ไปดู ด.ญ.น้ำ เมื่อเดินไปถึงห้องพยาบาลปรากฏว่า ห้องพยาบาลปิดไฟ และปิดประตูหน้าต่างหมดทุกบาน จึงสงสัยและกลัวว่า ด.ญ.น้ำจะเป็นอันตราย จึงพยายามเคาะประตูเรียกให้เปิดประตู แต่เคาะอยู่กว่า 10 นาที ยังไม่เห็นมีใครเปิด จึงไปชวนพี่ ป.4 มาช่วยกันเคาะ ซึ่งก็เคาะอยู่ประมาณ 30 นาที ประตูจึงเปิด

เมื่อประตูเปิดหนูเห็นสภาพครูลอนแล้วตกใจมาก เพราะครูแก้ผ้าหมดทุกชิ้น จากนั้นครูก็รีบเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับปล่อยด.ญ.น้ำออกมา ก่อนที่หนูจะพาด.ญ.น้ำกลับไปห้อง ครูลอนเขาได้ขู่หนูว่า อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ถ้าหนูบอกคนอื่น เขาจะฆ่าหนูให้ตาย หนูจึงปกปิดเรื่องนี้ไว้ ด.ญ.มาย กล่าว

นายสมพงษ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุทราบจากพี่สาวซึ่งเป็นคนเลี้ยงลูก ว่า ลูกสาวมีเลือดออกที่อวัยวะเพศ และมีอาการเจ็บบวม พอวันรุ่งขึ้นพี่สาวพยายามจะพาลูกสาวตนไปหาหมอ แต่ลูกสาวไม่ยอมไป ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ต่อมาลูกสาวก็บ่นมาตลอดว่าเจ็บอวัยวะเพศ ตนจึงได้พาไปหาหมอ ซึ่งทราบจากผลการตรวจว่า มีแผลฉีกขาดที่อวัยวะเพศ ซึ่งทีแรกก็คิดว่าลูกสาวไปวิ่งหกล้ม หรือปั่นจักรยานแล้วตกลงมา

ขณะที่ผมนั่งดูข่าวกับญาติๆ ที่บ้านก็ทราบจากลูกว่าถูกครูข่มขืน ผมรู้สึกตกใจพูดไม่ออกและเชื่อว่าเด็กไม่มีทางโกหก จากนั้นผมจึงเดินทางมายังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความช่วยเหลือทันที นายสมพงษ์ กล่าว

นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม คณะครูของโรงเรียนได้เดินทางมาที่บ้านของตนเพื่อขอความร่วมมือไม่ให้เรื่องนี้บานปลาย แต่ตนไม่ยอม เนื่องจากไม่อยากปกป้องคนผิด หากว่าปล่อยไปตนมั่นใจว่าต้องมีเด็กอีกหลายคน จะโดนแบบเดียวกันกับลูกตน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกลุ่มแม่ของนักเรียนที่ถูกครูข่มขืนกระทำอนาจารและเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้เดินทางมาเยี่ยมลูกยังมูลนิธิ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้คณะครูภายในโรงเรียนได้ระดมให้ผู้ปกครองของนักเรียนช่วยกันลงชื่อ ซึ่งตรงจุดนี้ตนรู้สึกไม่เห็นด้วย เพราะยังมีผู้ปกครองอีกหลายคนที่ไม่อยากลงชื่อแต่ต้องจำยอม เนื่องจากกลัวว่าลูกหลานของตนจะไม่มีที่เรียนหากไม่ลงชื่อสนับสนุนความบริสุทธิ์ของครูทั้งสองคน

ด้านพล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส. กล่าวว่า เบื้องต้นจะได้สอบปากคำผู้ปกครองเด็กอย่างละเอียด พร้อมทั้งส่งเด็กไปสอบปากคำตามขั้นตอน ทั้งนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้เร็วที่สุด เพื่อนำไปรวมกับคดีของเด็กผู้เสียหายทั้ง 4 คนที่แจ้งความไปแล้วก่อนหน้า เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งตนเชื่อว่ายังมีเด็กอีกหลายคนที่ถูกกระทำในลักษณะดังกล่าว แต่ไม่กล้าที่จะเข้ามาแจ้งความ

ขณะที่นางอนงค์ โสรกนิษฐ์ อายุ 52 ปี ภรรยาของนายลอน เปิดเผยความรู้สึกกับ "คม ชัด ลึก" ด้วยสีหน้าที่โศกเศร้าและน้ำตานองหน้าว่า ยังคงเชื่อมั่นในตัวสามีว่าไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้ เพราะตั้งแต่อยู่กันมานานกว่า 30 ปี สามีมีลูกศิษย์จำนวนมาก เป็นคนดีเป็นที่นับถือของคนในชุมชน

"เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวเพราะทำให้ครอบครัววงศ์ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง ยอมรับว่าเสียความรู้สึกเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกว่ามันวูบไปหมด ทุกคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง รวมทั้งเพื่อนครูในโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวของสามีเองหลังจากที่กลับมาถึงบ้านพักก็อยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ไม่อยากจะพบปะผู้คน และไม่สามารถจะไปไหนมาไหนได้เหมือนเมื่อก่อน" นางอนงค์ กล่าว

นางอนงค์ กล่าวอีกว่า ทุกคืนต้องคอยปลอบโยนสามี บางคืนสามีก็จะตื่นขึ้นมาร้องไห้ในช่วงตี 3 ทำให้ต้องออกมานั่งพูดคุยกันด้านนอก ตนรู้สึกถึงความรู้สึกของสามีว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อช่วงเช้าในแต่ละวันที่ตนจะต้องไปซื้อกับข้าวที่ตลาดสดใกล้บ้าน แม่ค้าในตลาดหลายคนที่อ่านข่าวก็จะพูดใส่ตนทำนองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้องเอาสามีไปประหาร ซึ่งตนก็ไม่ได้ไปตอบโต้อะไรยอมรับว่าข่าวรุนแรงมาก จนตนไม่กล้าจะไปไหนมาไหนถึงขนาดเวลาที่จะทำกับข้าวกินก็ไม่กล้าเดินไปตลาดเหมือนเคยต้องคอยฝากเพื่อนบ้านให้ไปซื้อกับข้าวมาให้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์