ยิงแสกหน้าสมภารอุบลสยองคากุฏิปมหักในวัด-ชิงพระ

เหตุสังหารโหดเจ้าอาวาสวัดดังกลางเมืองอุบลราชธานีครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 14 สิงหาคม พ.ต.ต.จักรพงษ์ บุญห่อ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรมในกุฏิเจ้าอาวาสวัดสุปัฏนารามวรวิหาร พระอารามหลวง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุบริเวณชั้นล่างพบร่างพระรัตนมงคลมุนี อายุ 72 ปี เจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ และยังเป็นเจ้าคณะอำเภอม่วงสามสิบ ฝ่ายธรรมยุต ถูกยิงด้วยปืนขนาด .22 เข้าที่กลางหน้าผากในลักษณะจ่อยิง กระสุนตุงที่ท้ายทอย 1 นัด มรณภาพมาแล้วกว่า 10 ชั่วโมง นอกจากนี้ ภายในห้องยังมีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินในตู้เหล็กที่ใช้เก็บเอกสาร รวมทั้งตู้รับบริจาค เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุ เนื่องจากคนร้ายได้ทิ้งรอยนิ้วมือแฝงไว้จำนวนมาก

จากการสอบสวนนายชูศักดิ์ ขัมรัตน์ หลานเขยของพระรัตนมงคลมุนี ผู้พบศพคนแรก ทราบว่า ตอนเช้าให้ลูกนำอาหารมาถวายกับหลวงพ่อ แต่กุฏิปิด คิดว่าหลวงพ่อมีกิจนิมนต์ จนกระทั่งถึงเวลาฉันเพล ก็ยังไม่เห็นหลวงพ่อกลับมาฉันเพล ด้วยความสงสัยจึงใช้กุญแจสำรองเปิดประตูเข้าไปในกุฏิชั้นล่าง ก็พบหลวงพ่อนอนโดยมีมุ้งกางและมีผ้าห่มคลุมร่าง เมื่อเปิดผ้าห่มออกดูพบว่าหลวงพ่อถูกยิงจนมรณภาพไปแล้ว

เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นเรื่องความขัดแย้งในวัด โดยเฉพาะการบริหารโรงเรียนของวัด รวมทั้งการฆ่าเพื่อประสงค์ต่อพระบูชาที่หลวงพ่อครอบครองพระเครื่องชั้นนำไว้หลายองค์ด้วยกัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวสามเณรกิตติพงษ์ มั่นคง อายุ 17 ปี สามเณรที่อยู่ดูแลใกล้ชิดหลวงพ่อ และพักอยู่ชั้นบนของกุฏิไปสอบสวนปากคำ เพราะสามเณรกิตติพงษ์ อาจเห็นเหตุการณ์ แต่ยังไม่กล้าให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวคนร้ายที่เข้ามาสังหารเจ้าอาวาสรูปนี้

ด้าน พ.ต.อ.เกษมศักดิ์ หะชะนี ผกก.สภ.อ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปรัชญา คงสกุล รอง ผกก.ส. ตั้งชุดสืบสวนขึ้นมา 2 ชุด โดยให้ พ.ต.ท.ปรัชญา เป็นหัวหน้าชุดเพื่อติดตามไล่ล่าคนร้าย โดยชุดแรกจะตรวจสอบเกี่ยวกับเอกสารหลักฐาน และชุดที่ 2 ก็จะติดตามไล่ล่าคนใกล้ชิด เนื่องจากว่าในที่เกิดเหตุนั้น เท่าที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบดูแล้ว คนร้ายรู้ทางเข้าออกเป็นอย่างดี และจะเข้าทางด้านหลัง มีการปิดล็อกประตูด้านหน้า มั่นใจว่ามือสังหารเป็นคนในอย่างแน่นอน และมั่นใจว่าจะสามารถติดตามตัวคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้ โดยมุ่งประเด็นการสังหารครั้งนี้ไปที่ความขัดแย้งภายในวัดเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่นำศพพระรัตนมงคลมุนี ออกจากกุฏิเพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์วิถีกระสุน มีญาติโยมที่ทราบข่าวหลายสิบคนพากันมารอกราบนมัสการศพ และต่างร่ำไห้ที่โจรกล้าทำร้ายพระเถระชั้นผู้ใหญ่จนมรณภาพ สำหรับวัดสุปัฏนารามวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรีชนิดวรวิหาร และเป็นวัดสายธรรมยุตแห่งแรกของจังหวัด โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2396