ซาร์โกซี่ย้ำแอร์บัสหายผู้โดยสารรอดยาก

คมชัดลึก :ผู้นำฝรั่งเศส ระบุ มีโอกาสน้อยที่จะมีผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ที่หายไปกลางมหาสมุทรแอตแลนติค

(2มิย.) ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี่ของฝรั่งเศส ซึ่งเดินทางไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติ"ชาร์ลส์ เดอ โกล" ที่กรุงปารีส

เพื่อปลอบขวัญญาติพี่น้องของผู้โดยสารเครื่องบินแอร์บัสA330-200 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ที่สูญหายไปเหนือมหาสมุทรแอตแลนติคเมื่อเช้าวันจันทร์ ระหว่างเดินทางจากนครริโอ เดอ จาไนโร มายังกรุงปารีส ยอมรับว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะพบผู้รอดชีวิต หลังจากเครื่องบินสูญหายไปเมื่อเวลาประมาณ 02.15 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ที่ระยะห่างจากชายฝั่งบราซิลประมาณ 500 กิโลเมตร

แอร์ฟรานซ์เปิดเผยว่า ลูกเรือทั้ง 12 คนเป็นชาวฝรั่งเศสทั้งหมด ส่วนผู้โดยสาร 216 คน

เป็นผู้ชาย 126 คน ผู้หญิง 82 คน มีเด็ก 7 คนและทารก 1คน โดยมาจาก 32 ประเทศรวมทั้ง 61 คนจากฝรั่งเศส  58 คนจากบราซิล เยอรมนี 26 คน และจีน 9 คน มีรายงานด้วยว่าผู้โดยสารที่สูญหายรวมทั้งเจ้าชายเปโดร ลูอิส เดอ ออร์ลีนส์ อี บรากันซ่า พระชนมายุ 26 ชันษา ผู้สืบเชื้อสายมาจาก"ปีเตอร์ที่สอง" จักรพรรดิ์องค์สุดท้ายของบราซิลผู้ถูกโค่นบัลลังค์ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1889 ก่อนที่บราซิลจะกลายเป็นสาธารณรัฐ

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นพ้องกันว่า แม้จะเป็นไปอย่างที่หัวหน้าโฆษกสายการบินแอร์ฟรานซ์คาดว่าเครื่องบินอาจโดนฟ้าผ่า

แต่เครื่องบินถูกฟ้าผ่าเป็นประจำอยู่แล้ว และหายากที่ฟ้าผ่าจะทำให้เครื่องบินตก นอกจากจะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย รวมทั้งสภาพอากาศแปรปรวนที่เลวร้ายจนทำให้ระบบหลายอย่างบนเครื่องบินเสียพร้อมๆกัน เพราะระบบ ACARS (Aircraft Communications and Addressing System) ที่ส่งข้อมูลอัตโนมัติจากเครื่องบินไปยังสถานีภาคพื้นดิน และถูกส่งไปที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทพบว่า มีปัญหากับระบบความดันและระบบไฟฟ้าต่างๆบนเครื่องบิน ก่อนที่เครื่องบินจะสูญหายไป

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าพื้นที่ๆเครื่องบินสูญหาย ขึ้นชื่อเรื่องพายุและสภาพอากาศแปรปรวนตลอดทั้งปี ทำให้นักบินต้องได้รับการฝึกเป็นพิเศษให้บินผ่านพื้นที่ดังกล่าว 
ซึ่งรวมทั้งพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก ที่อาจเป็นสาเหตุให้จู่ๆเครื่องบินลำนี้จึงหายไปโดยไม่ได้ส่งสัญญานของความช่วยเหลือใดใด จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่องการก่อการร้าย และกำลังวิตกกันว่าหากเครื่องบินตกในน้ำลึก คงไม่อาจหากล่องดำพบ และไม่ทราบสาเหตุของการตก

แอร์ฟรานซ์ระบุว่า นักบินเครื่องบินลำนี้มีประสบการณ์บินสูงมาก มีชั่วโมงบิน 11,000 ชั่วโมงรวมทั้ง 1,700 ชั่วโมงกับเครื่องบินแอร์บัส A 330และ A340

และว่าขณะเกิดเหตุ เครื่องบินใช้ความเร็ว  840 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ระดับความสูง 35,000 ฟุต หากมีการยืนยันว่าลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 228 คนเสียชีวิต จะเป็นเหตุที่มีผู้เสียชีวิตครั้งร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์ ของฝรั่งเศส และของการบินพลเรือนฝรั่งเศสในรอบกว่า10 ปี หลังจากเดือนกรกฎาคม 2543 ลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 109 คน กับคนอีก 4 คนบนพื้นดินเสียชีวิตเพราะเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงคองคอร์ด ตกระหว่างบินขึ้นที่ท่าอากาศยาน"ชาร์ล เดอ โกล" ทำให้ในที่สุด ได้มีการยกเลิกการให้บริการเครื่องบินคองคอร์ดทั้งหมด

ปัจจุบัน กองทัพอากาศบราซิล,สเปน และฝรั่งเศสต่างส่งเครื่องบินออกค้นหาในพื้นที่กว้างขวางระหว่างบราซิลกับทวีปแอฟริกา และฝรั่งเศส

ได้ขอความช่วยเหลือจากดาวเทียมสายลับ กับศูนย์ดักฟังข้อมูลต่างๆของกองทัพสหรัฐด้วย เครื่องบินบราซิลได้พักการค้นหาทางอากาศช่วงคืนที่ผ่านมาเพราะทัศนวิสัยไม่ดี แต่อาจส่งเครื่องบินพิเศษติดเซ็นเซอร์อีเลคโทรนิคช่วยค้นหาแทนจนกว่าทัศนวิสัยจะดีขึ้น ส่วนเรือรบบราซิลอีกสามลำจะไปไม่ถึงจุดเกิดเหตุจนถึงคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น