ผงะภาพกู้ภัยชำแหละศพแล่ เนื้อสดๆ ข้างวงข้าว

สยองว่อนเน็ต ภาพชุดภู้ภัยงัดโลงชำแหละศพชายหนุ่ม ตัดคอ หั่นแขนขา ผ่าไส้จะ ๆ แยกเนื้อออกจากกระดูก แถมทำไม่เข้าท่า

เอามือศพมาทำสัญลักษณ์ “ไอ เลิฟ ยู” ก่อนนำชิ้นส่วนไปต้มในถัง 200 ลิตร ผงะภาพต่อเนื่องกัน เป็นรูปเจ้าหน้าที่กินข้าวเอร็ดอร่อย เหมือนต้องการสื่อให้เห็นว่าเป็นการ เปิบเนื้อมนุษย์ ด้านรองประธานมูลนิธิกู้ภัยสว่างฯ ปราณบุรี โต้ภาพที่เห็นเป็นงานล้างป่าช้าช่วงเดือน มี.ค. เผย จนท. ต้องจัดการศพให้เหลือแต่กระดูกเพื่อฌาปนกิจ ระหว่างนั้นทานอาหารเที่ยงเป็นกะเพราเจ เชื่อคนเผยแพร่เมล์สยองจิตไม่ปกติ

มือดีโพสต์ภาพกู้ภัยชำแหละศพสุดสยองครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ค.

ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานว่า ได้มีการโพสต์รูปการชำแหละศพมนุษย์เผยแพร่ทางอีเมล ชื่อ “งานล้างป่าช้ามูลนิธิหัวหิน 13 มี.ค. ภาค 3 ..สยองจ้า” จนมีการส่งต่อ ๆ กันไปอย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้ที่พบเห็นพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม และน่าสยดสยอง โดยภาพดังกล่าวมีจำนวน 49 ภาพ เป็นภาพการทำงานเก็บศพของเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิหลาย ๆ แห่งที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน ทั้งหมดเป็นภาพแสดงขั้นตอนการชำแหละศพชายฉกรรจ์คนหนึ่งอย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ฯเกือบ 10 คน ลงมือชำแหละศพผู้ชายอายุประมาณ 35-40 ปี ที่นอนอยู่บนโลงศพออกเป็นชิ้นใหญ่ เช่น ตัดคอ แขน ขา อวัยวะภายในทั้ง ตับ ไต ม้าม ปอด ที่ยังดูสด ๆ นำออกมาวางกองไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ชิ้นเนื้อของศพยังสด มีสีแดงเหมือนเนื้อวัวหรือเนื้อแดงของสัตว์ทั่ว ๆ ไป และยังมีเลือดไหลออกมาด้วย

หลังจากชำแหละออกมาเป็นชิ้นใหญ่ ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่ฯ ได้ช่วยกันชำแหละเนื้อแดงออกเป็นชิ้นเล็ก ขนาดเหมือนการเตรียมเนื้อประกอบอาหารทั่ว ๆ ไป ส่วนกระดูกได้รวบรวมกองไว้อีกกอง โดยพบภาพเจ้าหน้าที่ฯหญิงคนหนึ่ง นำมือของศพที่ถูกหั่นออกมาทำเป็นสัญลักษณ์บอกรัก “ไอ เลิฟ ยู” ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส จากนั้นมีการนำกระดูกและชิ้นส่วนศพที่ชำแหละแล้วทั้งหมด ไปต้มในน้ำเดือดปุด ๆ ที่อยู่ในถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร อย่างไรก็ตามภาพต่อเนื่องกัน เป็นภาพเจ้าหน้าที่ฯกำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนจงใจสื่อให้คนที่ดูรูปภาพเข้าใจว่ามีการชำแหละศพมนุษย์เพื่อนำเนื้อไปประกอบอาหาร

น.ส.กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ หนึ่งในผู้ที่มีภาพทั้งหมดส่งเข้ามาในอีเมล กล่าวว่า ทันทีที่เห็นภาพดังกล่าวตนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

ในเบื้องต้นตนเข้าใจว่าเป็นการชำแหละศพมนุษย์สด ๆ เอาเนื้อมาประกอบอาหาร โดยทุกขั้นตอนมีการบันทึกภาพไว้อย่างละเอียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ แต่ละคนไม่ได้แสดงออกถึงความสะอิดสะเอียนออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนกับว่ากำลังช่วยกันชำแหละหมูหรือวัว ซึ่งตนไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการเผยแพร่ภาพดังกล่าว และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าการส่งภาพมายังอีเมลของตนนั้นได้มีการส่งไปให้ในอีเมลคนอื่น ๆ ในคราวเดียวกันนับร้อยราย

ต่อมาผู้สื่อข่าวพบว่าชื่อฟอร์เวิร์ดเมล สยอง มีการกล่าวอ้างถึงชื่องานล้างป่าช้ามูลนิธิหัวหิน 13 มี.ค. 52 จึงตรวจสอบจนทราบข้อเท็จจริง

ว่า ช่วงเดือน มี.ค. ทางมูลนิธิกู้ภัยสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการจัดงานล้างป่าช้าตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.-10 พ.ค. รวม 64 วัน จึงได้สอบถามไปยังนายชวลิต รัตนสุทธิกุล รองประธานและเลขามูลนิธิฯ จนทราบความจริงว่า เหตุการณ์ในฟอร์เวิร์ดเมล เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 13 มี.ค. เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และเครือข่าย กำลังช่วยกันจัดการกับศพไร้ญาติที่ปรากฏในภาพอีเมล ด้วยการแล่เนื้อหนังทิ้ง เพราะต้องการนำแต่กระดูกเพื่อเข้าเตาเผา กระทั่งถึงช่วงเที่ยง นายชวลิตได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าจะทานข้าวกลางวันกันตรงจุดที่ชำแหละศพเลยไหม และ ทุกคนก็ตอบตกลงอย่างไม่รังเกียจ เพราะก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาร่วมล้างป่าช้า ต้องถือศีลกินเจเพื่อให้จิตใจบริสุทธิ์ ไม่รังเกียจศพไร้ญาติเหล่านี้ จากนั้นได้มีการแจกจ่ายอาหารเจ ซึ่งเป็นผัดกะเพราเต้าหู้ให้เจ้าหน้าที่รับประทาน ไม่ใช่การรับประทานเนื้อศพแต่อย่างใด

“เราต้องเอาแต่กระดูกจากศพไร้ญาติเพื่อเข้าเตาเผารวมแต่แยกชาย-หญิง โดยฌาปนกิจศพทั้งหมดไปเมื่อวันที่ 21 มี.ค. เป็นชาย 412 ศพ หญิง 204 ศพ เด็ก 128 ศพ และนางฟ้า หรือศพผู้หญิงที่ไม่เน่าเปื่อย 3 ร่าง ผมคิดว่าคนที่นำภาพไปเผยแพร่ในลักษณะให้ร้ายว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ แล่เนื้อศพมารับประทานคงเป็นพวกที่จิตไม่ปกติ พวกเราที่มาทำงานการกุศลต้องถือศีลกินเจในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างเคร่งครัด” นายชวลิต กล่าว

ด้านนายวิสิฐ อรุณสกุล ประธานมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งนครศรีธรรมราช เปิดเผยกรณีที่พบบุคคลในภาพฟอร์เวิร์ดเมลสยอง ที่ใส่เสื้อของมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งสีกรมท่าว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น และเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นจริง เพราะทางมูลนิธิฯ จะมุ่งเน้นเรื่องของการช่วยเหลือสังคม เชื่อว่ามีการแอบอ้างมากกว่า.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์