นรต.49 ฉุน ขออาสาไล่ล่า ทีมฆ่า สวป.

"เรียกประชุมนาย ตร."


จากคดีสะเทือนขวัญหยามวงการสีกากี กรณี พ.ต.ต.กิติศักดิ์ สถิตพานิช อายุ 38 ปี นรต.รุ่น 49 ช่วยราชการ สวป.สภ.อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกแก๊งคนร้ายอหังการยิงเสียชีวิตคาเครื่องแบบ ตอนเช้ามืดวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา บริเวณถนนสายเอเชีย หน้าเรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.ภ.1 กองปราบปราม และบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา

ได้ระดมกำลังเข้าคลี่ปมสังหารโหด ต่อมาเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ส.ค. พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผบช.ภ.1 ได้เดินทางไปที่ สภ.อ.อุทัย เรียกประชุมนายตำรวจชุดคลี่คลายคดี ประกอบด้วย พล.ต.ต.วราวุธ พุกประยูร ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชินทัต มีศุข รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผกก.กสส.ศสส.ภ.1 กำลังชุดสืบสวนภาค 1 และเจ้าหน้าที่สืบสวน ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อประมวลพยานหลักฐานทั้งหมด


"ตั้งประเด็นสืบสวน"


พล.ต.ท.วุฒิเปิดเผยก่อนเข้าประชุมว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อเร่งรัดชุดสืบสวนคลี่คลายคดี โดยให้ตัดประเด็นต่างๆให้แคบลง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ประเด็นการสืบสวนได้ตั้งไว้กว้างๆ คือเกี่ยวกับการทำงานที่ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ได้จับกุมคดีต่างๆไว้ถึง 60 คดี โดยเฉพาะคดีอาวุธปืน มีการกวาดล้างจับกุม 13 คดี ต่อมาเป็นเรื่องปัญหาในการทำงาน ที่อาจไปขัดแย้งกับใคร หรือไม่อีกประเด็นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนเกิดเหตุที่ผู้ตายไปจับปืนกำนันคนหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามว่า มีประเด็นเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ผบช.ภ.1 กล่าวเพียงสั้นๆว่า ก็มี

ขณะนี้มีนายตำรวจที่จบ นรต.รุ่น 49 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ แจ้งความประสงค์ว่าจะขอร่วมคลี่คลายคดีนี้ร่วมกับชุดสืบสวนสอบสวนในพื้นที่ เนื่องจากเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ผบช.ภ.1 กล่าว


"พบเลือดคนร้ายในที่เกิดเหตุ"


ต่อมาเวลา 14.30 น. พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.อ.กมล ปั้นศิริ ผกก.สภ.อ. พระนครศรีอยุธยา เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้งบริเวณหน้าเรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถนนเอเชีย พร้อมนำหุ่นโครงกระดูกมนุษย์ที่ทำจากพลาสติกมาจำลองเหตุการณ์ ลักษณะมือขวากำปืน ส่วนมือซ้ายกำวิทยุสื่อสาร โดยมีการวัดระยะการยิง นอกจากนี้ได้นำพยานปากสำคัญ 1 คน

ที่เห็นเหตุการณ์มาชี้จุดซึ่งพยานยืนยันว่าหลังเกิดเหตุเห็นรถเก๋งสีแดงของคนร้ายขับหนีไป และพบ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ถูกยิงจมกองเลือด แต่ยังมีสติร้องขอความช่วยเหลือ จึงพาส่งโรงพยาบาล พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ยังนำปืน .38 ของทางราชการ ที่เป็นอาวุธชนิดเดียวกับที่คนร้ายใช้ไปทดลองยิงที่สนามยิงปืนกรมสรรพาวุธซ่อมยาง อ.พระนครศรีอยุธยา โดยทดสอบยิงในระยะ 1 นิ้ว ถึง 1 ฟุต เพื่อตรวจหาวิถีกระสุน โดย พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์เปิดเผยภายหลังว่า ได้ตรวจผลเลือดที่พบในที่เกิดเหตุที่คาดว่าเป็นของคนร้ายแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด


"สงสัยชู้สาว"


ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวส รอง ผบก.ศสส.ภ.1 พร้อมพวกได้เดินทางไปที่โรงแรมไผ่เขียว ตั้งอยู่ ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระ นครศรีอยุธยา เพื่อสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ส่วนใหญ่ เป็นพนักงานโรงแรม หลังได้เบาะแสว่าในคืนเกิดเหตุมีคนเห็นรถเก๋งมิตซูบิชิ แลนเซอร์ ท้ายเบนซ์ สีแดง ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยของคนร้ายขับเข้ามาในโรงแรม แต่ไม่ได้ ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากพยานไม่กล้าให้รายละเอียด เพราะเกรงจะได้รับอันตราย

แหล่งข่าวชุดสืบสวน เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนครอบคลุมทุกประเด็น ไล่ตั้งแต่เรื่องชู้สาว หลังพบว่า พ.ต.ต.กิติศักดิ์ได้รู้จักกับลูกสาวกำนันคนหนึ่งถึงขั้นมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ต่อมาลูกสาวกำนันคนดังกล่าวรู้ว่าผู้ตายมีคู่หมั้นอยู่แล้วทำให้มี ปัญหากัน และยังสร้างความไม่พอใจให้กับกำนันพ่อของฝ่ายหญิงด้วย ประกอบกับในคืนเกิดเหตุมีพยานระบุว่า 1 ใน 3 คนร้ายมีหญิงสาวรวมอยู่ด้วย อีกทั้งคาดว่าผู้ตายได้จอดรถพูดคุยกับกลุ่มมือสังหารก่อนถูกยิง ทำให้ชุดสืบสวนเชื่อว่า พ.ต.ต.กิติศักดิ์น่าจะรู้จักกับคนร้าย ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังติดต่อคู่หมั้นของผู้ตายมาให้ปากคำต่อไป


"อีกประเด็น กวาดล้างอบายมุข"


แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ประเด็นต่อมาเกี่ยวกับการกวาดล้างจับกุมสถานบันเทิงในตลาดแกรนด์ อ.อุทัย ที่เปิดเกินเวลา ทั้งนี้ภายหลังจาก พ.ต.ต.กิติศักดิ์ย้ายมาช่วยราชการที่ สภ.อ.อุทัย ได้กวดขันสถานบันเทิงหลายแห่ง ทำให้ผู้ประกอบการซึ่งส่วนใหญ่มีหุ้นส่วนเป็นพวกนักการเมืองท้องถิ่นทั้งใน จ.พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง รวมทั้งทหารต่างไม่พอใจ เนื่องจากสถานบันเทิง ย่านดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะและนิคมอุตสาหกรรมนวนคร นิยมมาเที่ยวยามดึกดื่น แต่เมื่อถูกกวดขันปิดไม่เกิน 01.00 น.

ทำให้เจ้าของขาดรายได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาขัดแย้งกับกลุ่มตำรวจเดียวกันที่พยายามเข้ามาเคลียร์ให้กับเจ้าของสถานบริการดังกล่าวที่ถูกจับ แต่ถูก พ.ต.ต.กิติศักดิ์ปฏิเสธเพราะได้รับไฟเขียวจากผู้ใหญ่ในจังหวัด ที่เป็นคนสั่งย้ายให้ผู้ตายมาช่วยราชการเพื่อปราบปรามอบายมุข อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนยังไม่ได้ตัดทิ้งประเด็นจับปืนกำนันในวันเกิดเหตุ หรือพวกวัยรุ่นแก๊งซิ่งกวนเมืองที่ถูกผู้ตายกวาดจับอย่างหนัก


"มั่นใจปิดคดีได้แน่"


ด้าน พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตอนนี้ชุดสืบสวนทั้งหมดทั้งตำรวจพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 1 และบช.ก.ที่มี พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก. เข้าไปสืบสวนทำงานกันเต็มที่ มั่นใจคดีนี้สามารถปิดคดีได้ จากรับรายงานทีมสืบสวนได้เฝ้าจุดต้องสงสัย 3-4 จุด ในพื้นที่ บช.ภ.1 และกำลังรอผลการตรวจสอบคราบเลือดของหน่วยนิติวิทยาศาสตร์

ถ้าผลพิสูจน์ออกมาไม่ใช่เลือดของ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ ถือว่าเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่จะมัดตัวผู้ต้องหา รวมทั้งไล่ตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัย เพราะก่อนเสียชีวิต พ.ต.ต. กิติศักดิ์พูดถึงเรื่องรถยนต์สีแดงด้วย การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ต้องตรวจหารถยนต์ต้องสงสัยเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด ต้องหาให้ได้ เพราะอาจปรากฏร่องรอยหลักฐาน


"ประเด็นขัดแย้งคนมีสี"


โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวอีกว่า ชุดสืบสวนยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ติดตามทุกจุดที่ทำอะไรได้ ทั้งที่ผู้ตายผูกสัมพันธ์และทำลายความสัมพันธ์ มากรองทุกเรื่อง ส่วนประเด็นขัดแย้งคนมีสีทั้งทหารและตำรวจด้วยกันเองนั้นยังไม่ได้สรุปประเด็นลงไป แต่เรื่องที่ตำรวจฆ่ากันเองเป็นไปได้ยากมาก ถ้ามีการผูกใจเจ็บจริงต้องดวลกันเดี่ยวๆ แต่การเสียชีวิตของ พ.ต.ต.กิติศักดิ เชื่อว่าประสบเหตุซึ่งหน้ามากกว่า

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนกองปราบปรามที่อยู่ในพื้นที่ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.พลฑิต ไชยรส สว.กก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย สว.กก.ปพ.บก.ป.


"เร่งรัดตรวจสอบข้อมูลพื้นฐาน"


เพื่อสรุปความคืบหน้าในการสืบสวน โดย พล.ต.ต.วินัยให้ความสำคัญในประเด็นความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลและเหตุซึ่งหน้า พร้อมทั้งเร่งรัดตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นแนวทางหาตัวคนร้ายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 ส.ค. เวลา 11.00 น. ได้นัดประชุมชุดสืบสวนประกอบด้วยกองปราบปราม ตำรวจภาค 1 และตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าประชุมร่วมกันที่ สภ.อ. พระนครศรีอยุธยา ส่วนประเด็นการสังหารได้ตั้งไว้ในใจแล้วอยู่ระหว่างการทำงานของชุดสืบสวนที่ส่งเข้าไปในพื้นที่


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์