ตร.จับวัยรุ่นหนองบัวลำภู อยากได้เงินไปซ่อมรถจยย. จับเพื่อนสติไม่ดีไปเรียกค่าไถ่ มัดมือมัดเท้าให้นอนบนสะพานข้ามห้วยข้างวัดถ้ำกลองเพล สุดท้ายเพื่อนจมน้ำตาย ยังมีหน้าโทรศัพท์ไปเรียกค่าไถ่จากแม่เพื่อน 5 หมื่น แม่เข้าแจ้งความตร.ตามรวบได้ แต่ยังปฏิเสธไม่ได้ฆ่า อ้างเพื่อนจมน้ำเอง แต่ตร.สงสัยเป็นคนฆ่าเพราะพบมีก้อนหินถ่วงศพอยู่
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. พล.ต.ต.กำพล ทับทิมไทย ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู เดินทางมาติดตามคดี
หลังจาก พ.ต.อ.กิตติรัชต์ น้อยโพน ทอง ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู รายงานเหตุอุกฉกรรจ์และสามารถจับกุมคนร้ายได้ โดยผู้ก่อเหตุรายนี้คือ นายวิทยา ขามก้อน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 4 บ.ถ้ำกลองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน หลังถูกจับกุมได้เมื่อเวลา 01.00 น. วันเดียวกัน
สำหรับพฤติกรรมของนายวิทยาคือ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ได้ล่อลวงนายปรเมศร์ สุภาแดง อายุ 23 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 4 บ.ถ้ำกลองเพล ไปเรียกค่าไถ่จำนวน 50,000 บาท โดยนำนายปรเมศร์ซึ่งสติไม่สมประกอบ ไปมัดกับต้นไม้ในป่าห่างหมู่บ้านประมาณ 5 ก.ม. ก่อนจะปล่อยตัวออกมา และวันที่ 19 พ.ค.ได้ล่อลวงไปให้กินเหล้าจนเมา แล้วพาไปที่สะพานข้ามลำห้วย ริมกำแพงด้านนอกวัดถ้ำกลองเพล วัดดังที่หลวงปู่ขาว อนาลโย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเคยจำพรรษาอยู่ เป็นที่เปลี่ยวห่างจากปากทางเข้าวัด 300 เมตร ก่อนจะใช้เชือกมัดมือไขว้หลัง มัดเท้าติดกันแล้วใช้ก้อนหินใส่ถุงปุ๋ยมัดถ่วงเอาไว้ แต่ระหว่างนั้นปรากฏว่านายปรเมศร์พลัดตกไปในลำห้วยบริเวณดังกล่าวเสียชีวิต
จับเพื่อนเรียกค่าไถ่ มัดมือมัดเท้าถ่วงน้ำ
จากนั้นนายวิทยาได้ส่งข้อความเข้าโทรศัพท์ของนางกมลทิพย์ สุภาแดง แม่ของผู้ตายที่รับราชการครู บอกว่าให้นำเงินมาไถ่ตัวลูกชายจำนวน 50,000 บาท และห้ามบอกตำรวจ โดยไม่ระบุสถานที่นัดหมายไถ่ตัวแล้วปิดโทรศัพท์ไม่ให้ติดต่อได้
ต่อมาวันที่ 20 พ.ค. นางกมลทิพย์ พร้อมญาติเข้าแจ้งความกับร.ต.อ.สมคิด ชื่นชม ร้อยเวรสภ.เมืองหนองบัวลำภู ให้ช่วยติดตาม เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าว จนได้เบาะแสมีคนเห็นนายปรเมศร์อยู่กับนายวิทยาก่อนหายตัวไป ตำรวจจึงไปควบคุมตัวนายวิทยา ได้ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านนำมาสอบสวน เบื้องต้นนายวิทยาให้การวกวนมีพิรุธ บอกว่าเห็นคนร้ายเป็นกลุ่มเสพกัญชาอยู่ จ.อุดรธานี ตำรวจจึงตามไปตรวจสอบก็ไม่พบ จึงนำตัวนายวิทยามาสอบสวนหลายรอบ จนกระทั่งถึงเที่ยงคืนนายวิทยาจึงรับสารภาพว่านายปรเมศร์เสียชีวิตแล้ว ศพอยู่ก้นลำห้วย
จากนั้นพ.ต.อ.กิตติรัชต์ น้อยโพนทอง ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู
พ.ต.ท.พุฒินันท์ อำพันธ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ถนัด คำสุข สว.สส. พ.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ ชัยชนะกุล สวป. พ.ต.ต.นฤชิต โลนะลุ สว.สป. นำกำลังคุมตัวนายวิทยาไปชี้จุดที่จมน้ำ เมื่องมหาก็พบศพนายปรเมศร์ในสภาพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นลายพราง มือทั้งสองถูกมัดไขว้หลังด้วยเชือกไนล่อนสีแดง ข้อเท้าทั้งสองถูกมัดติดกันด้วยเชือกสีเขียว แล้วนำปลายทั้งสองมาผูกติดกัน มีถุงปุ๋ยสีขาวข้างในมีก้อนหิน 2 ก้อน หนักประมาณ 15 ก.ก.ผูกติดอยู่ ไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย มีเลือดไหลออกทางจมูกและปาก จึงนำศพไปชันสูตรที่ร.พ.หนองบัวลำภู ก่อนส่งต่อไปที่ร.พ.ศรีน ครินทร์ จ.ขอนแก่น
จากการสอบสวนนายวิทยาให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ไปซื้อรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโนวา สีดำ ไม่มีป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถมือสองจากร้าน
แต่เครื่องรวนและไม่มีเงินซ่อม จึงนึกทางหาเงินจากผู้ตายซึ่งเป็นเพื่อน มีอาการไม่สมประกอบ พ่อแม่มีฐานะ โดยคิดจับไปเรียกค่าไถ่ ในครั้งแรกวันที่ 18 พ.ค.ตนไปหาผู้ตายและหลอกว่าจะพาไปหาเพื่อนสาว ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีบรอนซ์ ทะเบียน กจว 182 หนองบัวลำภู ไปด้วยกัน เมื่อมาถึงชายป่า ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 ก.ม. ก็หลอกผู้ตายว่าผู้หญิงที่นัดไว้จะกลัว ขอให้มัดมือมัดเท้าก่อน แล้วจับผู้ตายมัดกับต้นไม้ ก่อนจะย้อนกลับมาแก้มัดให้ พร้อมบอกว่าหาเพื่อนสาวไม่เจอ และนัดเป็นวันรุ่งขึ้นจะพาเพื่อนสาวมาหาใหม่
นายวิทยาให้การต่อไปว่า ต่อมาวันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 09.00 น. ก็มาหาผู้ตายอีก คราวนี้ชวนไปที่ลำห้วยริมกำแพงวัด
ซึ่งเป็นที่เปลี่ยวโดยก่อนไปก็ได้ซื้อเหล้าขาวให้ผู้ตายกินจนเมา เมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็ลงมือใช้เชือกมัดมือผู้ตายไขว้หลัง มัดข้อเท้าติดกันแล้วนำถุงปุ๋ยใส่ก้อนหินมามัดเข้าไปด้วย ก่อนให้ผู้ตายนอนบนสะพานไม้กว้างประมาณ 1 เมตร จากนั้นตนก็ทำทีไปหาเพื่อนสาว กระทั่งบ่ายจึงกลับมาก็ไม่พบผู้ตายแล้ว เมื่อลงดูในลำห้วยก็พบว่านายปรเมศร์จมน้ำตายแล้ว จึงเดินทางกลับ จนตกกลางคืนได้โทรศัพท์ส่งข้อความไปเรียกค่าไถ่กับแม่ผู้ตายจำนวน 50,000 บาท และข่มขู่ไม่ให้บอกตำรวจ ไม่อย่างนั้นจะฆ่าลูกชาย แล้วนอนอยู่ที่กระท่อมนา กระทั่งแม่ผู้ตายเข้าแจ้งความ และตำรวจมาจับกุมตัวดังกล่าว
พล.ต.ต.กำพลกล่าวว่า ในเบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และกำลังรอผลการผ่าพิสูจน์ศพว่าผู้ตายเสียชีวิตก่อนจมน้ำ หรือจมน้ำเสียชีวิต
นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะคำให้การของนายวิทยาที่ยังมีพิรุธ โดยเฉพาะการที่ผู้ต้องหานำก้อนหินใส่ถุงปุ๋ย อาจจะเป็นการจงใจให้จมน้ำเสียชีวิต ได้กำชับให้พ.ต.อ.กิตติรัชต์คลี่คลายคดีให้ได้ ขณะที่นางกมลทิพย์กล่าวว่า ไม่เชื่อว่านายวิทยาลงมือคนเดียว ก่อนนี้ผู้ตายเป็นเพื่อนกับนายวิทยา แต่ระยะหลังนายวิทยามีปัญหาเรื่องความประพฤติ จึงไม่ให้ลูกชายคบหาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่ก็มาก่อเหตุฆ่าโหดดังกล่าว