เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ค. นายหยิม ธรรมธุระสาร อายุ 77 ปี บ้านเลขที่ 1033 หมู่ 1 ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด
พร้อมนางนงลักษณ์ อรุณมาตร อายุ 44 ปี ภรรยาได้เดินทางไปพบนางทัศนีย์ คชินทร ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาตราด เพื่อสอบถามถึงเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำ หลังเคยเดินทางมาธนาคารครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าบัญชีเงินฝากได้ถูกปิดมาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว จึงเดินทางมาเพื่อติดตามสอบถามว่าบัญชีเงินฝากถูกปิดไปด้วย สาเหตุใดและใครเป็นผู้ปิดบัญชีธนาคาร โดยภายหลังเมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารทราบว่ามีสื่อมวลชนตามมาด้วยจึงขอร้องให้ผู้สื่อข่าวออกไปจากธนาคาร และต่อว่านายหยิมว่าเงินแค่นี้ต้องแจ้งสื่อมวลชน
กระทั่งเวลา 11.00 น. ทั้ง 2 คนเดินทางออกจากธนาคารและแจ้งว่าทางธนาคารแจ้งว่าบัญชีถูกปิดไปตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. 2537 แต่ไม่ได้แจ้งว่าใครเป็นผู้ปิดบัญชี พร้อมกับขอเวลาในการตรวจสอบรายละเอียดแล้วจะติดต่อกลับ
นายหยิม กล่าวว่า สำหรับบัญชีเงินฝากประจำของนายหยิม ได้เปิดบัญชีร่วมกับนางอบเชย ธรรมธุระสาร ซึ่งเป็นภรรยาที่เสียชีวิตแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน
โดยเปิดไว้เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2533 จำนวน 10,000 บาท จากนั้นไม่ได้มาติดต่อกับธนาคารเลย จนถึงวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมเวลากว่า 19 ปี พร้อมกล่าวว่า เงินที่นำมาฝากเป็นเงินจากการรับจ้างขับรถไถดินได้วันละ 70 บาท เจ้าหน้าที่ธนาคารมาชวนให้ฝากเงินในบัญชีประจำ จึงฝากไว้ 10,000 บาท พร้อมภรรยาโดยให้เป็นชื่อของภรรยาด้วย ซึ่งไม่ได้ติดตามทวงถามใดๆ กระทั่งภรรยา จึงไปรื้อเอกสารต่าง ๆ พบสมุดบัญชีธนาคารจึงได้พบว่ามีเงินฝากอยู่จึงได้มาเบิกเงิน และสัปดาห์หน้าจะมาติดตามเรื่องใหม่แต่หากไม่ได้ ก็ไม่เอาอีกแล้วและจะไม่ฝากธนาคารอีกเพราะกลัวถูกโกง และชีวิตนี้ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมีสวนยางพารา บ้านและที่ดิน ทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ลูกหลานก็ไม่มี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารยังบอกด้วยว่าหากธนาคารพบว่าตนกุเรื่องดังกล่าวก็จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับตนด้วย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
