เจ็บอีก1คาเก๋งกลางถนน รวบได้คาร้านเน็ตเจ้าตัวยังปากแข็งตร.ชี้หลักฐานชัด
รวบหลานชาย “กลม บางกรวย” ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่า หลังก่อเหตุยิงผู้อื่นตายคารถเก๋ง หน้าอาคารฟอร์จูน รัชดา แล้วหลบหนีไป ตร.ตามรวบคาร้านอินเทอร์เน็ต ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ยันมีหลักฐานชัด แถมยังมีหมายจับคดีปล้นทรัพย์ติดตัวด้วย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 พ.ค. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม ผกก.สน.ห้วยขวาง
แถลงข่าวจับกุมนายณัฐพร หรือโอ อุ่นแพทย์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/72 หมู่ 3 ต.วัดชะลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยแจ้งข้อหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ กก. สส.บก.น.1 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 พ.ค. เวลา 03.30 น. ตำรวจ สน.ห้วยขวาง
รับแจ้งเหตุยิงกันในรถเก๋งบนถนนรัชดาภิเษก หน้าอาคารฟอร์จูน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายชอบ เปรมโยธิน และนายโกวิท คำนาค ต่อมานายชอบทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต ส่วนนายโกวิทบาดเจ็บที่ช่องท้องด้านขวา ราวนมขวา และต้นแขนขวา อาการสาหัส เบื้องต้นระบุว่าเป็นการยิงกันของแก๊งรถซิ่ง ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ห้วย ขวาง รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติต่อศาลอาญาเพื่อออกหมายจับเลขที่ 1375/2552 ลงวันที่ 20 พ.ค. 2552 และไปพบตัวผู้ต้องหาที่ร้านเกมโอ แอนด์ ป็อป อินเทอร์เน็ต ซอยคอนโด สมชาย ถนนบางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ก่อนเชิญตัวมาสอบสวนที่ กก.สส.บก.น.1 พร้อมแจ้งข้อหาดังกล่าว
สอบสวนนายณัฐพรให้การปฏิเสธว่า
ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ และไม่รู้จักผู้ตาย ช่วงเวลาเกิดเหตุก็อยู่ที่ร้านอินเทอร์เน็ตที่ตนเป็นเจ้าของ เพิ่งมาทราบว่ามีหมายจับตอนตำรวจแจ้ง ตอนแรกคิดว่าจะถูกดำเนินคดีเรื่องที่พรรคพวกเคยไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทที่ผับแห่งหนึ่งและตนอยู่ด้วย ต่อมาเจ้าของแจ้งว่ามีของหาย จึงถูกแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์พื้นที่ สภ.บางกรวย พร้อมกับน้องชาย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่เรื่องนี้ตนไม่รู้เรื่อง ส่วนนามสกุลอุ่นแพทย์ของตนนั้น เป็นญาติกับ “กลม บาง กรวย” หรือนายณรงค์ อุ่นแพทย์ เนื่องจากมี ศักดิ์เป็นลุงของตน เพราะ “กลม บางกรวย” เป็นพี่ชายของพ่อ
ด้านพล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า
แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่แนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาอยู่ในที่เกิดเหตุ และภาพของผู้ต้องหาพยานก็ชี้ยืนยัน ซึ่งเรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจน จึงขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้ ส่วนคำอ้างของผู้ต้องหาก็เป็นเพียงคำกล่าวอ้างเท่านั้น นอกจากนี้ทราบด้วยว่าผู้ต้องหามีหมายจับคดีปล้นทรัพย์ติดตัวด้วย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น มีการเขม่นกับสมาชิกในกลุ่มผู้ต้องหาตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ก่อนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น.